แดรี่โฮมส่ง‘ฟัน ดี’นำร่องนวัตกรรมเพื่อสังคม

แดรี่โฮมส่ง‘ฟัน ดี’นำร่องนวัตกรรมเพื่อสังคม

FUN D โยเกิร์ตพร้อมดื่มจากเชื้อโปรไบโอติกที่สามารถควบคุมเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของอาการฟันผุจาก “แดรี่โฮม” ทุ่มงบ 20 ล้านบาทผลิตแจกเด็กด้อยโอกาส 1 แสนขวด ไม่รวมตัวเลขยอดขายที่ตั้งเป้าขั้นต่ำ 1 แสนขวด

FUN D (ฟัน ดี) โยเกิร์ตพร้อมดื่มจากเชื้อโปรไบโอติกที่สามารถควบคุมเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของอาการฟันผุ ผลิตภัณฑ์ล่าสุดจาก “แดรี่โฮม” ทุ่มงบ 20 ล้านบาทผลิตแจกเด็กด้อยโอกาส 1 แสนขวด ไม่รวมตัวเลขยอดขายที่ตั้งเป้าขั้นต่ำ 1 แสนขวดในปีแรก ตัวอย่างที่ชัดเจนในความเป็น “นวัตกรรมเพื่อสังคม” ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนใหม่ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์มหาชน) หรือ สนช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

นวัตกรรมเพื่อสังคม หรือ Social Innovation มีความหมายครอบคลุมถึงสิ่งใหม่ที่สร้างขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น กระบวนการ ผลิตภัณฑ์ บริการ หรือรูปแบบการพัฒนาที่เป็นที่ยอมรับ เพื่อแก้ไขและตอบสนองต่อปัญหาทางสังคม และต้องสามารถแพร่กระจายไปยังสังคมอื่นๆ รวมถึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในสังคมเป็นเทรนด์ที่กล่าวถึงกันมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งองค์กรขนาดใหญ่และธุรกิจทั่วไปที่มุ่งสร้างและยกระดับธุรกิจนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น โดยใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม

ธุรกิจดี&สังคมดี

FUN D หนึ่งในธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคมที่ตอบโจทย์ได้ทั้งด้านผลตอบแทนและด้านการสร้างประโยชน์คืนสู่สังคม ผลิตภัณฑ์ล่าสุดจากบริษัท แดรี่โฮม จำกัด ที่ได้รับถ่ายทอดองค์ความรู้มาจาก ศ.รวี เถียรไพศาล คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งประสบความสำเร็จในการคัดเลือกสายพันธุ์จุลินทรีย์ต้านเชื้อก่อโรคฟันผุ เพื่อใช้เป็นโพรไบโอติกเสริมสุขภาพช่องปาก กระทั่งสามารถนำมาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้ในที่สุด


นายพฤฒิ เกิดชูชื่น กรรมการผู้จัดการแดรี่ โฮม กล่าวว่า นมเปรี้ยวฟันดีมีจุลินทรีย์โปรไบโอติกเป็นตัวหลัก พร้อมทั้งเสริมไบโอติกเกี่ยวกับลำไส้และท้องเข้าไปด้วย ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อร่างกายและป้องกันฟันผุไปในตัว จึงมีลักษณะความเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสังคมอยู่ในตัว เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวในระยะยาว โดยทำให้เด็กฟันไม่ผุและมีสุขภาพดีขึ้น


ขณะเดียวกันยังเสริมกลไกการตลาดเพื่อสร้างยอดขายให้ได้ตามเป้า โดยเมื่อขายได้ 1 ขวดก็จะนำผลกำไรมาแจกเด็กที่ด้อยโอกาสอีก 1 ขวดเพื่อให้เด็กในชุมชนที่ห่างไกลได้บริโภคด้วย บริษัทจะนำไปให้กับโรงเรียนหรือชุมชนที่ต้องการ ขณะนี้กำลังเริ่มการผลิตล็อตแรก ตั้งเป้าว่าผลิตภัณฑ์นี้จะทำให้เด็กด้อยโอกาสมีสุขภาพฟันที่ดีด้วย


“อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้คาดหวังที่จะทำกำไรมากมาย ราคาขายขวดละไม่เกิน 20 บาทมีขนาด 100 มิลลิลิตร ซึ่งจะทำออกมาจำหน่ายเรื่อยๆ เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนสังคมอีกรูปแบบหนึ่ง” นายพฤฒิ กล่าวและว่าแดรี่โฮมมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี และอัตราการเติบโต 10-15%

บ่มนาน 10 ปีกว่าจะได้สินค้าใหม่

ทั้งนี้ กิจกรรมตอบแทนสังคมของแดรี่โฮมมีหลากรูปแบบ เริ่มตั้งแต่การส่งเสริมการเลี้ยงโคนมแบบออร์แกนิค ให้ราคากับเกษตรกรที่เป็นธรรมที่สุดในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด 40% ทำให้สิ่งแวดล้อมทั้งในฟาร์มและรอบๆ ฟาร์มดีขึ้น โรงงานเป็น Zero Waste ไม่ปล่อยของเสียออกจากโรงงาน


“เราให้ความสำคัญและลงทุนกับเรื่องเหล่านี้เยอะเพื่อให้ชุมชนมีความสุข นอกจากนี้ยังทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกับอีก เช่น การพัฒนาแหล่งน้ำ จริงๆ แล้วกำไรทุกบาทของบริษัทจะคืนกลับสู่สังคมเต็มรูปแบบ ทั้งในเรื่องของออร์แกนิค พลังงานหมุนเวียน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวนมเปรี้ยวฟันดีนี้ ถ้าทำเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้เด็กที่ด้อยโอกาสมีโอกาสบริโภค ป้องกันฟันผุ จึงลงทุนโปรเจคนี้ประมาณ 20 ล้านบาทในเบื้องต้น คาดว่าในปีแรกน่าจะมียอดขายขั้นต่ำ 1 แสนขวด”


นายพฤฒิ กล่าวอีกว่า องค์ความรู้นี้ดำเนินการค้นคว้าวิจัยมาร่วม 10 ปีทั้งยังได้รับรางวัลและสิทธิบัตรแล้ว ขณะที่บริษัทให้การสนับสนุนตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ใช่เพิ่งเข้ามา เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเชื้อจุลินทรีย์จึงต้องรอผลการทดลองพิสูจน์ให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพ จึงจะสามารถนำมาต่อยอดในเชิงพาณิชย์