หนุนแยกงานสอบสวน ออกจากสตช. ตัดตอนรับส่วย-สินบน

หนุนแยกงานสอบสวน ออกจากสตช. ตัดตอนรับส่วย-สินบน

ตัวแทนเครือข่ายปชช.ปฏิรูปตำรวจ หนุนแยกงานสอบสวนออกจากสตช. ตัดตอนรับส่วย-สินบน เปิดทางผู้ว่าฯโยกผู้กำกับ

 นางสมศรี หาญอนันทสุข ในฐานะตัวแทนเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ พร้อมแนวร่วมจาก 42 องค์กร ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เพื่อเรียกร้องให้เร่งดำเนินการปฏิรูปตำรวจเป็นตำรวจจังหวัดและแยกงานสอบสวนเป็นอิสระออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)  โดย นางสมศรี กล่าวว่า ตามที่นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางปฏิรูปตำรวจว่าควรปรับโครงสร้างเป็นตำรวจจังหวัด และพิจารณาเรื่องการแยกงานสอบสวนออกจากตำรวจนั้น เครือข่ายองค์กรประชาชน 42  องค์กร เห็นว่า แนวคิดดังกล่าวเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ถือเป็นการปฏิรูประบบอย่างมีนัยสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จากการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของตำรวจทุกระดับและการรับส่วยสินบน สอดคล้องกับเสียงเรียกร้องต้องการของคนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง

“ด้วยเหตุนี้จึงเรียกร้องให้นายกฯ เร่งรัดดำเนินการเรื่องดังกล่าว ซึ่งบางเรื่องสามารถกระทำได้ตามอำนาจของรัฐบาล เช่น การตราพระราชกฤษฎีกาโอนหน่วยตำรวจหรือแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับผู้กำกับการลงไปภายในจังหวัดได้ เมื่อผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการจังหวัด  หรือคณะกรรมการตรวจสอบติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัด (กต.ตร.)ในปัจจุบัน”นางสมศรีกล่าว

 การที่ให้ตำรวจควรไปอยู่ในจังหวัดภายใต้กรมปกครองของ  9 หน่วยงานนั้น ถือเป็นการกระจายอำนาจไปในตัว เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ที่หลายคนอาจจะกังวล ต่อการให้ไปขึ้นตรงหน่วยงานทางปกครอง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลอาจไม่ใช่การแก้ปัญหานั้น เดิมทีผู้ว่าฯมีบทบาทและสามารถทำเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว ในอนาคตหากผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง ประชาชนก็จะตรวจสอบได้จึงไม่น่าเกิดปัญหาใดๆ

 
ส่วนปัญหาการฮั้วกันของตำรวจมีมานานและมีความรุนแรงมาก แต่การกระจายอำนาจจะทำให้เกิดการถ่วงดุล ให้คนในจังหวัดมีบทบาทไม่ใช่ให้รวมศูนย์อยู่เพียงแค่ สตช. อย่างเดียว ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความล่าช้า นอกจากนี้ในการสอบสวนควรมีการบันทึกให้ปากคำด้วยกล้องด้วย เพื่อจะได้ไม่ต้องมีการถกเถียงเหมือนคดีครูจอมทรัพย์ ที่ผู้เสียหายและฝ่ายตำรวจถกเถียงกันว่า ตกลงรถทะเบียนอะไร สีอะไร โดยกล้องที่บันทึกจากปากคำผู้ถูกสอบสวน ตำรวจ อัยการยังสามารถเรียกมาดูข้อมูลได้ว่าเคยมีการให้ปากคำตามนี้จริงหรือไม่