MORNING CALL ACTION NOTES (5 มิ.ย.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (5 มิ.ย.60)

เลือกเล่นรายตัว

ตลาดหุ้นไทยวันก่อนปรับตัวขึ้นตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีกว่าคาด สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเป็นแรงซื้อในกลุ่ม TRANS ETRON HELTH หนุนให้ SET ปิดที่ 1,567.60 จุด (+4.49 จุด) ด้วย Volume 3.6 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +1,234 ล้านบาท TFEX Net +10,090 สัญญา และตลาดตราสารหนี้ -1,502 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรม แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดโดยเพิ่มขึ้นเพียง 138,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% จากระดับ 4.4% ในเดือนเม.ย.

+/- ราคาน้ำมันปรับตัวลงล่าสุด 47.7 US/Barrel หลังสหรัฐถอนตัวออกจาก "ความตกลงปารีสว่าด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ" อาจส่งผลให้สหรัฐขุดเจาะและผลิตน้ำมันมากขึ้น รวมถึงแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น 11 แท่นสู่ 733 แท่น( เพิ่มขึ้น 20 สัปดาห์ติดต่อกัน)

+ เวิลด์แบงก์คงคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจโลกปี 2560 ที่ 2.7% และปี 2561 ที่ 2.9% โดยระบุว่าการค้าและภาคการผลิตทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

+/- Fund Flow ต่างชาติผันผวนล่าสุดเป็น Net Buy 1.2 พันลบ. และเงินบาทแข็งค่าล่าสุด 34 Bath/USD

** 5 มิ.ย. ธปท.แถลงปฎิรูปกฎเกณฑ์ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน

** 8 มิ.ย. ECB ประชุมนโยบายการเงิน (คาดคงดอกเบี้ยที่ 0% และคงการใช้ QE 60,000 ล้านยูโร/เดือน / กำหนดเลือกตั้งในอังกฤษ

** 13 – 14 มิ.ย. การประชุม FOMC (โพลคาด FED ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25%)

ภาวะตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนที่ชัดเจน โดยแม้ว่าจะได้ sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงจะเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มพลังงาน รวมถึงความกังวล FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13 – 14 มิ.ย.นี้จะทำให้ Fund Flow ผันผวน ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,560 – 1,575 จุด

กลยุทธ์การลงทุน รอซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงอ่อนตัว

- กลุ่ม HELTH มีสัญญาณฟื้นตัวระยะสั้นหลังปรับตัวลงราว 15% YTD

- GGC EA UAC BCP รัฐปรับใช้น้ำมันไบโอดีเซลจาก B5 เป็น B7

- หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณรอบใหม่ของ SET50 EA MTLS BJC BPP TISCO และ SET100 BCPG WORK ANAN GFPT (คาดประกาศกลางเดือนมิ.ย.)

หุ้นแนะนำพิเศษ

LIT        ราคาปิด 11.60 บาท     ราคาเหมาะสม 14.20 บาท

- ผู้ให้บริการสินเชื่อครบวงจรประเภท Nonbank ซึ่งมีศักยภาพเติบโดสูง พอร์ตสินเชื่อในปี 59 ประกอบด้วยสินเชื่อรับซื้อลูกหนี้การค้า (Factoring) 47% สินเชื่อโครงการในการจัดหาสินค้า (Project Finance) 34% สินเชื่อสัญญาเช่าทางการเงินและเช่าซื้อ (Leasing & Hire Purchase) 18%

- คาดกำไรปี 60 ราว 150 ล้านบาท +49%YoY จากสินเชื่อที่เติบโต 12% ตามฐานลูกค้าใหม่ธุรกิจแฟคตอริ่ง รวมทั้งบริการสินเชื่อค้ำประกันที่ยังเติบโตสูง

- การจ่ายหุ้นปันผลและออก LIT-W1 ส่งผลให้ฐานทุนกว้างขึ้นคาดว่าช่วยลด D/E เหลือ 2.9 เท่า ณ ปลายปี 60 จาก 3.2 เท่า ณ ปลายปี 59

หุ้นมีข่าว

- ประเด็นบวก TM (ราคาปิด 3.38 ถือ ราคาเหมาะสม 3.78) สยายปีกธุรกิจรุก CLMV จัดทัพสำรวจพื้นที่ไตรมาส 3/2560 คาดเห็นความชัดเจนในลาว กัมพูชาก่อน ตั้งเป้าโกยยอดขายปีนี้ 5-10 ล้านบาท พร้อมจ่อปิดดีลแผนเข้าลงทุนหรือควบรวมกิจการ บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเครื่องมือแพทย์-ความงาม (ที่มาทันหุ้น)

- TRC (ราคาปิด 1.29 ซื้อ ราคาเหมาะสม 1.53) มั่นใจไตรมาส 2 พลิกกำไร ไร้ผลกระทบขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนฉุด เดินหน้าประมูลงานใหม่ 6,000 ล้านบาท คาดเซ็นสัญญาเหมืองโปแตชครึ่งปีหลัง หนุนรายได้ปี 60 โตตามเป้า 8,000 ล้านบาท (ที่มาข่าวหุ้น)

   ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อข่าวการเพิ่มทุนของ APOT จากรัฐวิสาหกิจที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยคาดหาก TRC เซ็นสัญญาก่อสร้างได้ภายใน 2H60 จะช่วยหนุนรายได้ของ ให้เติบโตกว่า 1 เท่าตัวจากปีก่อน และรายได้มีโอกาสเติบโตสู่ 1 หมื่นล้านบาทในปี 61 จากการรับรู้งานก่อสร้างจาก APOT

- IRPC (ราคาปิด 5.10 Bloomberg Consensus 5.91) คาด GIM ช่วง Q2/60 ต่ำกว่า Q1/60 หลังราคาน้ำมันลด และส่วนต่างของผลิตภัณฑ์กลุ่มอะโรเมติกส์อ่อนตัวลงมากเมื่อเทียบกับ Q1/60 และพร้อมหาพันธมิตรต่อยอดผลิตภัณฑ์ PP

  ความเห็น เรามีมุมมองเชิงลบต่อผลประกอบการของ IRPC เนื่องจาก GIM เริ่มปรับตัวลงตามผลิตภัณฑ์กลุ่มอะโรเมติกส์และคาดว่าจะมีผลขากทุนจากสต๊อกน้ำมันดิบเข้ามากดดันใน 2Q/60 หลังราคาน้ำมันปรับตัวลงราว 6% QTD นอกจากนี้การใช้กำลังการกลั่นของโครงการ UHV ยังต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้เพราะไม่มีความยืดหยุ่นในการกลั่นน้ำมันดิบจากแหล่งที่หลากหลายเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม

- AP (ราคาปิด 7.75 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 9 บาท) ผลงานเติบโตต่อเนื่องหลังทยอยโอน Backlog ที่มีอยู่กว่า 1.2 หมื่นล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิดตัวโครงการ "Life One Wireless" มูลค่า 6.4 พันล้านบาท ในช่วงเดือนมิ.ย.หรือก.ค.นี้ หนุนยอดขายปี 2560 เข้าเป้า 2.2 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

   ความเห็น โครงการดังกล่าวเป็นโครงการร่วมทุน ราคาเฉลี่ย 160,000 บาทต่อตรม. ซึ่งต่ำกว่าคอนโดมิเนียมหรูของผู้ประกอบการรายอื่นในย่านเดียวกัน (98 Wireless ของ SIRI ราคาเฉลี่ย 580,000 บาทต่อตรม. 28 ชิดลม ของ SC ราคาเฉลี่ย 350,000บาทต่อตรม.) จึงคาดว่าจะได้รับการตอบรับดี โดยเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยพื้นฐาน โดยคาดการณ์กำไรปี 60 ราว 3.1 พันล้านบาทเติบโต 15%

- ANAN (ราคาปิด 5.05 Bloomberg Consensus 5.84) เตรียมเปิดขายคอนโดมิเนียมร่วมทุนมิตซุยฯอีก 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 21,100 ล้านบาท ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ณ สยามพารากอน ล่าสุดตุนแบ็กล็อก 42,500 ล้านบาท ทยอยกินยาวถึงปี 62 (ที่มา ข่าวหุ้น)

- BPP (ราคาปิด 25.25 Bloomberg Consensus 26.55) เตรียมลุยประมูลโรงไฟฟ้า SPP-VSPP เต็มสูบหลังกระทรวงพลังงานเตรียมประกาศรับซื้อไฟฟ้าเร็วๆนี้พร้อมเดินหน้าเทกโอเวอร์พลังงานอีก 1700 เมกะวัตต์ (ที่มาทันหุ้น)

- PTTGC (ราคาปิด 70.50 Bloomberg Consensus 79.29) เผยถือหุ้นใน GGC จำนวน 72.29% หลังได้รับหุ้นกรีนชูคืนแล้ว

- SPORT เพิ่มทุน 94.2 ล้านหุ้นรองรับวอร์แรนต์ให้ฟรีผถห.เดิม 5:1 โดยวอร์แรนต์มีอายุ 1 ปี มีอัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 1.50 บาท

- OTO คว้างานให้บริการเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ ธนาคารออมสินมูลค่า 60.88 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกเพิ่มจากปัจจุบันที่ 800-900 ล้านบาท มั่นใจทั้งปีรายได้โตตามเป้า 30-35% จากปีก่อน (ทันหุ้น)

- SUPER จะตั้งบริษัทย่อยใหม่ รองรับลงทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะในประเทศ ทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัทย่อย 49% ร่วมกับนายจำรัส เตชะนิธิ ถือหุ้น 51%

- GL - ก.ล.ต.ให้ผู้บริหาร GL ชี้แจงกรณีถูกดำเนินการโดยหน่วยงานกำกับดูแลในตปท.ภายใน 7 วัน


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +62.11 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,206.29 จุด เพิ่มขึ้น 62.11 จุด หรือ +0.29% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,439.07 จุด เพิ่มขึ้น 9.01 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,305.80 จุด เพิ่มขึ้น 58.97 จุด หรือ +0.94% โดยได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq เดินหน้าทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ก็ตาม

ตลาดน้ำมัน NYMEX -0.70 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 70 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 47.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัดสินใจนำสหรัฐถอนตัวออกจาก "ความตกลงปารีสว่าด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ" จะส่งผลให้สหรัฐขุดเจาะและผลิตน้ำมันมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 20

ส่องหุ้น

- LST แนวรับ 7.05-7.00 บาท แนวต้าน 7.35 , 7.50 บาท

- ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์ และประคองตัวปิดได้ในระดับสูงของวัน ประกอบวอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นของพอสมควร ทำให้ MACD กำลังดีดกลับขึ้นมาได้อีกครั้งไม่หลุดลงไปต่ำกว่าศูนย์ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 7.05-7.00 บาทซะก่อน มีโอกาสที่ระดับราคาจะดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 7.35 และ 7.50 บาทต่อไป

- ESSO แนวรับ 11.10-11.00 บาท แนวต้าน 11.30 , 11.60 บาท

- ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 1 เดือนและปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันได้ หลังจาก MACD ดีดกลับขึ้นมายืนเหนือศูนย์ได้ ในขณะที่วอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้เกิดรูปแบบ Invert Head and Shoulder หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 11.10-11.00 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับต่อแถวๆ 11.30 บาท และ 11.60 บาทต่อไป

- TACC แนวรับ 6.90-6.80 บาท แนวต้าน 7.05 , 7.30-7.50 บาท

- ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวันหลังจากพักตัวลงมาตลอดทั้งสัปดาห์ อีกทั้งมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มขึ้นพอสมควร ในขณะที่ MACD กำลังจะผ่านขึ้นยืนเหนือศูนย์ และสัญญาณ Golden cross ที่กำลังเกิดขึ้น หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 6.90-6.80 บาทซะก่อน มีโอกาสที่ระดับราคาจะดีดกลับผ่าน 7.05 บาท ก่อนผ่านขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ 7.30-7.50 บาทต่อไป