ไอพีโอ 5 เดือน กำไร ‘สอดคล้อง’ ราคาหุ้น

จากการสำรวจผลประกอบการบริษัทที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ช่วง 5 เดือนแรก ปี 2560 ซึ่งมีจำนวน 10 บริษัท (ไม่นับรวมกองทุน) พบว่า ในส่วนของผลประกอบการนั้น ส่วนใหญ่มีผลประกอบการที่ดีขึ้น เมื่อเทียบระหว่างไตรมาส 1 ปีนี้ และไตรมาส 1 ปี 2559 ที่ผ่านมา จะมีเพียง 3 บริษัทเท่านั้น ที่รายงานผลประกอบการว่า กำไรไตรมาส 1 ปีนี้ ลดลง

โดยบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) แจ้งกำไรไตรมาส 1 ปีนี้ จำนวน 144 ล้านบาท ลดลง 46.03% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 268 ล้านบาท

บริษัท มัดแมน (MM) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2560 มีขาดทุนสุทธิ 15 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนที่เพิ่มขึ้น161.16% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่ขาดทุนสุทธิ 5 ล้านบาท

และบริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ (RPH) ซึ่งรายงานผลประกอบการ มีกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2560 จำนวน 9.36 ล้านบาท ลดลง 47.43% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 17.81 ล้านบาท

ราคาหุ้นส่วนใหญ่ ‘ยังวิ่ง’

ทั้งนี้ เมื่อสำรวจความเคลื่อนไหวราคาหุ้นไอพีโอ จำนวน 10 บริษัท พบว่าราคาหุ้นส่วนใหญ่ยังปรับเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับราคาหุ้นไอพีโอ หรือยังอยู่ในภาวะเหนือจอง อย่างไรก็ตาม มีเพียง 3 บริษัทที่ราคาหุ้นอยู่ในภาวะ ‘ต่ำจอง’ คือ หุ้นมัดแมน (MM) ซึ่งต่ำจอง 2.86%, หุ้นทีพีไอพีพี (TPIPP) ต่ำจอง 5% และหุ้นบูรพา เทคนิคอล (ETE) ซึ่งต่ำจอง 3.33% (สำรวจราคา ณ ปิดตลาดวันที่ 2มิ.ย.)

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาความสอดคล้องของราคาหุ้น และผลประกอบการของบริษัท พบว่า มีเพียงราคาหุ้นมัดแมน (MM) เท่านั้น ที่ราคาหุ้นและกำไรที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรก ปีนี้ สอดคล้อง หรือเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน

สะท้อนว่า ตลาดยังคงคาดหวังว่ากำไรของหุ้นไอพีโอในไตรมาส 2 ที่น่าจะปรับตัวดีขึ้น

ตั้งเป้าไตรมาส2 ‘เติบโต’

ทางฝั่งบริษัทเอง ภายหลังแจ้งผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2560 มาแล้ว ได้มีการเปิดเผยมุมมองต่อแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2 ปีนี้ ตลอดจนช่วงที่เหลือของปี 

บริษัท โกลบอลกรีนเคมิตอล (GGC) เปิดเผยข้อมูลว่า บริษัทคาดการณ์รายได้ไตรมาส 2 ปี 2560 ดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐปรับอัตราผสมไบโอดีเซลจาก B5 เป็น B7 ทำให้ปริมาณการขาย เมเทิลเอสเตอร์ เพิ่มขึ้น แต่จากราคาน้ำมันเมล็ดในปาล์มลดลง ทำให้ราคาขายแฟตตี้แอลกอฮอลส์ ลดลงเช่นกัน จึงทำให้รายได้รวมอาจเพิ่มไม่มาก แต่จากที่บริษัทสามารถที่จะหาแหล่งวัตถุดิบในการผลิตที่ราคาถูก และการหาตลาดใหม่ๆเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้บริษัทมีกำไรที่ดี

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษา M&A ธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดธุรกิจของบริษัทเติบโตมากขึ้น โดยแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดและการกู้เงินสถาบันการเงิน เพราะ บริษัทมีศักยภาพการกู้เงินสูงจากมี D/E เพียง 0.3 เท่า

ส่วนแผนการลงทุน ในช่วงปี 2560-2563 มูลค่ารวมประมาณ 2.8 พันล้านบาท แบ่งเป็น โครงการไบโอคอมเพล็กซ์ เฟส 1 มูลค่า 1.35 พันล้านบาท เริ่มผลิตในไตรมาส 4/62 โครงการเมทิลเอสเตอร์แห่งที่ 2 มูลค่า 1.15 พันล้านบาท และ โครงการ Kernel Nut Extraction มูลค่า 380 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มผลิตในไตรมาส 4 ปี 2560 โดยแหล่งเงินทุนมาจากเงินที่ได้จากเสนอขายหุ้นต่อไปประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ( IPO)

ส่วนบริษัท มัดแมน (MM) เปิดเผยข้อมูลว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2560 เป็นต้นไป จากการลดลงของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ขณะเดียวกัน บริษัทจะไม่มีภาระขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ เนื่องจากเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในปีที่ผ่านมาซึ่งได้บันทึกขาดทุนไปแล้วจำนวน 154.93 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลือการบันทึกค่าใช้จ่ายจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่ได้มาจากการรวมธุรกิจประมาณ 67 ล้านบาทในปีนี้

หน้าใหม่’จ่อคิว’เข้าตลาด

แม้ว่าความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาที่ไม่ค่อยคึกคัก หุ้นไอพีโอที่เข้าซื้อขายมีราคาไม่หวือหวา และบางบริษัทราคาต่ำจองตั้งแต่ช่วงเข้าซื้อขายแรกๆ แต่การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ยังคงเป็นเครื่องมือที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจ และดำเนินการแต่งตัวเพื่อเข้าตลาดกันมาก

โดย บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 120 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.09% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ , บริษัท อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส จำกัด (มหาชน) ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 120 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.67% ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน บริษัทจะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ

บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายไอพีโอ 50 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 50 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้น 

หลังจากการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ มีแผนที่จะลงทุนในการขยายธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร เช่น โครงการ Leo Self-Storage & E-Fulfillment Center เพื่อให้เช่าพื้นที่จัดเก็บสินค้า โครงการขยายพื้นที่บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ โครงการพัฒนาระบบขนส่งผ่านแดนไปยังประเทศเมียนมาร์ และศึกษาเพื่อร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ ASEAN เป็นต้น