‘แสนสิริ’ชี้อสังหาฯหรูไทยน่าลงทุนเทียบ CBD โลก

‘แสนสิริ’ชี้อสังหาฯหรูไทยน่าลงทุนเทียบ CBD โลก

แสนสิริ เผยตลาดอสังหาฯซูเปอร์ลักชัวรีในไทยน่าลงทุน เทียบชั้นซีบีดีประเทศชั้นนำของโลก เหตุราคาถูกกว่า 2-6 เท่า ขายแบบฟรีโฮลด์ และมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยทำเลเด่น ได้แก่ ย่านสาทรและวิทยุ

            นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความน่าสนใจของตลาดอสังหาฯระดับซูเปอร์ลักชัวรีในไทยว่า มีความน่าสนใจไม่แพ้ประเทศที่มีตลาดอสังหาฯสำคัญของโลก อย่างสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศแถบเอเชีย อย่าง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง เนื่องจากราคาอสังหาฯไทยถูกกว่าประเทศดังกล่าว 2-6 เท่า

           โดยราคาเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมย่านศูนย์กลางธุรกิจ หรือ ซีบีดี ในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ราคาขายเฉลี่ย 6.3 แสนบาทต่อตารางเมตร ส่วนราคาปล่อยเช่ารายเดือน 1.79 แสนบาทต่อตารางเมตร ,สหราชอาณาจักร ราคาขายเฉลี่ย 1.09 ล้านบาทต่อตารางเมตร ราคาปล่อยเช่ารายเดือน 3.53 แสนบาทต่อตารางเมตร ,ไต้หวันราคาขายเฉลี่ย 2.51 แสนบาทต่อตารางเมตร ราคาปล่อยเช่ารายเดือน 3.9 หมื่นบาทต่อตารางเมตร ขณะที่ในไทย ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 2 แสนบาทต่อตารางเมตร ราคาปล่อยเช่ารายเดือนอยู่ที่ 7.4 หมื่นบาทต่อตารางเมตร

            นอกจากนี้อสังหาฯไทย ยังมีจุดแข็ง ในเรื่องการได้สิทธิ์ขาดเมื่อซื้อ (Freehold) รวมถึงทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางอาเซียน ความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ซึ่งราคาขายคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ ลักชัวรี่ ในไทยเติบโตกว่า 65% ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา

            “ตลาดอสังหาฯไฮเอนด์ไม่เคยราคาตก มีมาแล้วหมดไป เพราะเป็นของหายาก ส่วนข้อได้เปรียบอีกอย่างไทยนอกจากราคาถูกแล้ว ค่าส่วนกลางของเราก็ถูกกว่า และบริการดีกว่า ทำให้ต่างชาติสนใจซื้อ โดยทำเลเด่นของไทย ได้แก่ ย่านถนนสาทรและถนนวิทยุ ที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ หรือ ซีบีดีของไทย”

            สำหรับภาพรวมของอสังหาฯของไทยในครึ่งปีหลังนั้น เชื่อว่า มีการเติบโต สอดคล้องกับจีดีพีของประเทศที่มีการเติบโต ส่วนปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่อาจมีผลต่อกำลังซื้อและการชำระหนี้ของผู้บริโภค ยังไม่น่ากังวล โดยทั้งปี 2560 คาดว่า ตลาดอสังหาฯจะเติบโตประมาณ 4-5%