นครพนมจับกัญชาล็อตใหญ่ มูลค่ากว่า20ล้าน

นครพนมจับกัญชาล็อตใหญ่ มูลค่ากว่า20ล้าน

จับกัญชาล๊อตใหญ่ มูลค่า20 ล้านบาท ที่นครพนม เผยนายทุนเตรียมส่งขายต่อ

เวลา 08.00 น. วันที่ 1 มิถุนายน 60 บริเวณอาคารสโมสรสัญญาบัตร หน่วยเรือรักษาความสงบและเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.นครพนม เป็นประธานการแถลงข่าวจับกัญชาของ นรข.เขตนครพนม โดยมี พล.ร.ต.วราห์ แทนขำ ผบ.นรข.พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม

น.อ.ณัฐเกียรติ มนขุนทด ผบ.นรข.เขตนครพนม รับผิดชอบความมั่นคงตามแนวชายแดนแม่น้ำโขง ตั้งแต่ จ.บึงกาฬ ถึง จ.มุกดาหาร ระยะทาง 252 กม. ทราบจากสายข่าวว่า ขบวนขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีการเคลื่อนไหวผิดปกติในประเทศเพื่อนบ้าน คาดอาจจะมีการลำเลียงยาเสพติดข้ามไปยังราชอาณาจักร จึงจัดกำลังพลเฝ้าระวังถี่ยิบตลอดเวลา โดยได้สั่งการให้ น.ต.บุญเชิด กุลอำภา หน.สน.เรือ ชุดปฏิบัติการเฝ้าตรวจปากแม่น้ำสงคราม บ้านไชยบุรี นรข.เขตนครพนม และ ร.อ.ปฏิพัทธ์ กระจ่างยศ หน.มว.ทำลายใต้น้ำจู่โจม บก.นรข.ประสานหน่วยงานในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน ร่วมกันสนธิกำลังวางแผนและส่งกำลังเฝ้าตรวจลาดตระเวนตลอดลำน้ำโขง และแม่น้ำสงครามซึ่งเป็นลำน้ำสาขา

กระทั่งเวลา 01.00 น. วันเดียวกัน มีเรือกีบเพลายาว เครื่องยนต์ติดท้าย จำนวน 2 ลำ แล่นฝ่าความมืดจากประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามมาตรงบริเวณ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม แล้วลัดเลาะชายฝั่งเพื่อนแล่นเข้าสู่แม่น้ำสงคราม ที่นักท่องเที่ยวรู้จักบริเวณนั้นว่าเป็นปากแม่น้ำที่มีการไหลบรรจบกันระหว่างแม่น้ำโขงและแม่น้ำสงคราม จึงเกิดเป็น ”แม่น้ำสองสี” และเรือต้องสงสัยลำดังกล่าวผิดวิสัยของชาวบ้านที่อาศัยในสองฟากฝั่ง ปกติจะข้ามแม่น้ำโขงมาช่วงเวลากลางวันหรือฉุกเฉินในกรณีเจ็บป่วยเท่านั้น ลำที่ขับนำหน้าแล่นฉิวคล้ายไม่มีอะไรบรรทุกมา แต่อีกลำลักษณะเสียงเครื่องยนต์เรือแล่นด้วยกำลังสูงแต่อืดเหมือนบรรทุกของหนัก หน่วยลาดตระเวนจึงขับเรือตามประกบ

สันนิษฐานอาจจะมีสิ่งผิดกฎหมายอยู่ภายในเรือ จนถึงบริเวณท้ายเขื่อนป้องกันตลิ่ง บ้านแก้วปัดโป่ง ต.ไชยบุรี เรือกีบลำแรกตีวงกลับจึงเห็นเรือของเจ้าหน้าที่ รีบเร่งเครื่องฝ่าวงล้อม อาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ ส่วนเรืออีกลำนั้นถูกประกบข้างจึงถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้น โดยมีชายชาว สปป.ลาว 1 คนทราบภายหลังว่าชื่อ ท้าวต้น อักษรวงศ์ ราษฎรบ้านหาดใหญ่ เมืองหินบูน แขวงคำม่วน สปป.ลาว รับเป็นคนขับเรือ ภายในลำเรืออัดแน่นด้วยกระสอบหัวอาหารปลาสีขาว มีอักษรภาษาประเทศเพื่อนบ้านพิมพ์กำกับไว้ แต่ละกระสอบมีพลาสติกสีดำคลุมทับ ภายในบรรจุกัญชาอัดแท่ง เกรดAตรวจนับได้จำนวน 840 แท่ง /กิโลกรัม จึงควบคุมตัวท้าวต้นผู้ต้องหา และยึดกัญชาอัดแท่ง พร้อมเรือกีบไว้เป็นของกลาง

สวบสวนเบื้องต้นท้าวต้นรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวลาว ในราคา 5 หมื่นบาท ขับเรือกีบบรรทุกกัญชาอัดแท่งมาส่งให้พ่อค้าคนหนึ่ง โดยจะมีเรือกีบลาดตระเวนเคลียร์เส้นทางนำหน้า หากเรือลำแรกจอดตรงไหนให้เข้าเทียบท่าตรงนั้น แล้วจะมีคนมาขนกัญชาขึ้นจากเรือเอง ตนจึงขับเรือตามมาเรื่อยๆ แต่ไม่รู้ว่ามีเรือของเจ้าหน้าที่แล่นตามหลัง มารู้ตอนที่เรือลำแรกกลับลำหนีไปแล้ว แต่ตนหลบหนีไม่ทันจึงถูกจับกุมดังกล่าว

ทางด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่าระยะเดือน พ.ค.-ก.ค. ทุกปี ผลผลิตกัญชาแห้งอัดแท่งจะออกมามาก โดยขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติจะสต๊อกไว้จำนวนเยอะ แล้วลักลอบลำเลียงส่งพ่อค้าชาวไทย ล๊อตนี้ราคาซื้อขายตามชายฝั่งแม่น้ำโขง มีราคาแท่ง/กิโลกรัมละ 5 พันบาท หากเล็ดลอดถึงพื้นที่ชั้นใน โดยเฉพาะแหล่งชุกชุมของนักพี้จะมีราคาถีบสูงถึงแท่งละ 2 หมื่นบาท หรือมีราคาไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ฝ่ายปกครอง อ.บ้านแพง จ.นครพนม สามารถตรวจยึดกัญชาเกรดเอได้ 780 แท่ง/กิโลกรัม ซึ่งก็ถือเป็นจำนวนมากที่สุดในรอบ 10 ปี ห่างเพียงแค่วันเดียว นรข.สามารถจับกุมและตรวจยึดได้ถึง 840 แท่ง/กิโลกรัม ซึ่งฝ่ายความมั่นคงติดตามเฝ้าระวังตลอดเวลา ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อทำการสืบสวนขยายผล และติดตามเพื่อจับกุมกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดต่อไปล่าสุดสืบทราบว่านายทุนคนไทยมีพื้นเพอยู่ใน อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม