‘ซัมซุง’ ลุยผลิตชิพระดับ 4 นาโนเมตร

‘ซัมซุง’ ลุยผลิตชิพระดับ 4 นาโนเมตร

ซัมซุงจะค่อยๆ ลดขนาดกระบวนการผลิตลงจาก 8 นาโนเมตรไปจนถึง 4 นาโนเมตร

‘ซัมซุง’ จ่อโค่น ‘อินเทล’ เบอร์ 1 ผู้ผลิตชิพโลก ประกาศกร้าวพร้อมพัฒนาเทคโนโลยีผลิตชิพระดับ 4 นาโนเมตร เดินหน้าภายใต้บริษัทใหม่ เน้นผลิตเพื่อใช้เองและรับจ้างผลิต หนุนการเกิดขึ้นของดีไวซ์ รวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ โลกในอนาคต

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ซัมซุงได้ประกาศแผนพัฒนาเทคโนโลยีผลิตชิพของตัวเองในอนาคต รวมถึงการรับจ้างผลิต ตั้งเป้าสู่กระบวนการผลิตชิพระดับ 4 นาโนเมตร โดยข้อมูลระบุว่า แผนพัฒนาของซัมซุงจะค่อยๆ ลดขนาดกระบวนการผลิตลงจาก 8 นาโนเมตรไปจนถึง 4 นาโนเมตร เพื่อรองรับเทคโลยี และนวัตกรรมด้านดิจิทัลใหม่ๆ ในอนาคต รายงานระบุว่า ซัมซุงตั้งเป้าผลิตชิพในระดับ 4 นาโนเมตรให้ได้ภายในปี 2563

นอกจากนี้ ซัมซุง จะเริ่มการผลิตชิพระดับ 8 นาโนเมตรภายในปี 2560 และ 7 นาโนเมตรในปี 2561 โดยในส่วนของธุรกิจนั้น ซัมซุงได้แยกธุรกิจผลิตชิพออกมาเป็นฝ่ายเฉพาะ แต่ยังคงอยู่ภายใต้ บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตชิพรายใหญ่ของโลกขณะนี้ ยังเป็น อินเทล ทีเอสเอ็มซี และซัมซุง

รายงานข่าว ระบุว่า ซัมซุงเล็งเห็นความสำคัญของหน่วยงานผลิตชิพ และความต้องการในตลาดโลกโดยเฉพาะส่วนรับจ้างผลิตที่มเพิ่มสูงขึ้น เช่น บริษัททีเอสเอ็มซี ผู้ผลิตชิพรายใหญ่ของโลก ที่มีออเดอร์จากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอ๊ปเปิ้ลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี

เช่นเดียวกับ บริษัทอินเทล ยักษ์เบอร์หนึ่งผลิตชิพโลก ก็ออกมาประกาศว่า ยังคงเดินหน้าการเป็นผู้รับจ้างผลิตชิพตามคำสั่งให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ของโลก และเชื่อว่าขณะนี้อินเทลยังเป็นผู้นำในตลาดเหนือกว่า ซัมซุง และทีเอสเอ็มซี ปัจจุบันทั้ง 3 บริษัท (ซัมซุง อินเทล ทีเอสเอ็มซี) ต่างแย่งชิงออเดอร์ผลิตชิพจากบริษัทอย่างควอลคอมม์ และแอ๊ปเปิ้ล ที่ดีไซน์ชิพได้เอง แต่ยังไม่มีโรงงานผลิต

ในฟากของแอ๊ปเปิ้ลเองนั้น ก่อนหน้านี้แอ๊ปเปิ้ลให้ความสำคัญกับการพัฒนาชิพประมวลผลของสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันมีรายงานว่า แอ๊ปเปิ้ลอยู่ระหว่างการพัฒนาชิพสำหรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ และเทคโนโลยี อ็อกเมนเต็ด เรียลิตี้ (เออาร์) สำหรับรถยนต์ไร้คนขับ ชี้ว่าดีมานด์การผลิตชิพเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ยังคงมีเพิ่มขึ้น

ขณะที่ นักวิเคราะห์ มองว่า ปัจจุบันซัมซุงถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะความพร้อมเทคโนโลยีในกระบวนการผลิต ความไว้วางใจเป็นผู้รับจ้างผลิตให้กับ ควอลคอมม์ เอ็นวีเดีย แอ๊ปเปิ้ล รวมถึงดีมานด์การรับจ้างผลิตชิพตามคำสั่งที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดโลก เป็นเหตุผลสำคัญที่ซัมซุงตัดสินใจแยกธุรกิจผลิตชิพออกมาจากบริษัทหลัก

อย่างไรก็ตาม แม้ซัมซุงตัดสินแยกไลน์ธุรกิจผลิตชิพออกมา และได้ลงทุนในส่วนโรงผลิต ส่งผลให้รายได้รวมตกลงเล็กน้อย แต่นักวิเคราะห์ยังเชื่อว่า โดยศักยภาพของซัมซุงในการคิดค้นนวัตกรรมด้านชิพที่ผ่านมา จะทำให้ธุรกิจรับจ้างผลิตชิพเติบโตขึ้น

ก่อนหน้านี้ นายบิล แมคคลีน ประธานบริษัท ไอซี อิินไซต์ (IC Insights) ของสหรัฐ เคยวิเคราะห์ ให้ทั่วโลกจับตาความเคลื่อนไหวธุรกิจชิพของซัมซุงว่า มีความเป็นไปได้ที่ศักยภาพการผลิต อาจจมียอดที่แซงหน้า “อินเทล” ยักษ์ผลิตชิพเบอร์ 1 ของโลกก็เป็นได้

ข้อมูลไอซี อินไซต์ ล่าสุด เผยให้เห็นว่า ยอดขายชิพเซ็ตประมวลผลของซัมซุงกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจทำยอดขายได้สูงกว่าอินเทล ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 โดยยอดขายชิพซัมซุงจะทำรายได้ราว 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตราส่วนเพิ่มขึ้นถึง 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่อินเทลจะทำรายได้ราว 1.44 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ รายงานผลประกอบการซัมซุง ยังพบว่า ธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์ของบริษัทส่วนการผลิต ดีแรม และ NAND Flash Storage ยังเป็นกลุ่มที่เติบโตมากที่สุดคิดเป็นอัตราส่วนสูงถึง 39% และ 25% ตามลำดับ