หวั่นบึ้มรพ.พระมงกุฎฉุดจีดีพีโตต่ำกว่า3.5%

หวั่นบึ้มรพ.พระมงกุฎฉุดจีดีพีโตต่ำกว่า3.5%

"ธนวรรธน์" หวั่นผลกระทบเหตุระเบิดรพ.พระมงกุฎ ชี้หากยืดเยื้ออาจกระทบเสถียรภาพการเมือง ฉุดจีดีพีโตต่ำกว่า 3.5%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ นั้น เป็นสถานการณ์ที่แตกต่างจากต่างประเทศ เนื่องจากหลายคนมองว่ามาจากปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ ซึ่งไม่ใช่เหตุการณ์ก่อการร้าย สำหรับผลกระทบระยะสั้นนั้น ยังไม่เห็นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน รวมทั้งการท่องเที่ยวยังเป็นปกติ การส่งออกยังคงขยายตัวได้ดี เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวขึ้นและเงินบาทยังแข็งค่า
 
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นห่วง คือ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจระยะกลาง หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นอีก หรือมีสัญญาณว่าการเมืองขาดเสถียรภาพ หรือต้องเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีก อาจจะกระทบให้เศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้โตต่ำกว่า 3.5% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 3.5-4%  เนื่องจากนักลงทุนจะขาดความมั่นใจต่อเสถียรภาพทางการเมืองได้ และอาจจะกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว
 
นอกจากนี้ ให้จับตาปัญหาการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวลดลง ซึ่งทางสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของจีนลง อาจส่งผลกระทบมายังเศรษฐกิจไทยปี 61 ให้ขยายตัวต่ำกว่า 4% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้4-4.5%