คนร้ายขโมย“ปะการังจาน”อายุนับพันปีในถ้ำหน้าอ่าวกรวด

คนร้ายขโมย“ปะการังจาน”อายุนับพันปีในถ้ำหน้าอ่าวกรวด

เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ “ปะการังจาน” อายุนับพันปี ถูกคนร้ายพยายามขโมยออกจากถ้ำหน้าอ่าวกรวด บนเกาะเวียง จ.ชุมพร แต่นำออกมาไม่ได้ พบแตกหักเป็นเสี่ยงๆ

นายวรรณ ชาตรี ผอ.ส่วนสำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 ชุมพร ได้รับแจ้งจาก นางสาวเจียมจิตร สมสอน อายุ 54 ปี หรือ “ป้าเขียว” ผู้ประกอบการนำเที่ยวชุมชนชื่อ “กรีนนำเที่ยว” ตั้งอยู่เลขที่ 124 หมู่ 1 ตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่าปะการังจานขนาดใหญ่มีอายุนับพันปีอยู่ในถ้ำหน้าอ่าวกรวด บน เกาะเวียง ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์สีสันของชุมชน ดึงดูดนักท่องเที่ยวถูกแก๊งค้าปะการังขโมยไปจากถ้ำดังกล่าว จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ

นางสาวเจียมจิตร หรือ ป้าเขียว กล่าวว่าเมื่อวานที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวไปดำน้ำชมปะการังนานาชนิดที่บริเวณหมู่เกาะเวียงอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 4 กิโลเมตร พบว่าปะการังจานซึ่งเป็นปะการังขนาดใหญ่อายุนับพันปีมีความกว้างกว่า 5 เมตร ถูกขโมยไปจากภายในถ้ำหน้าอ่าวกรวดของเกาะเวียง ซึ่งปะการังดังกล่าวถือเป็นสีสันไฮไลท์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศนิยมมาดำน้ำชมความสวยงาม

โดยเฉพาะช่วงเวลาบ่าย 2-4 โมงของทุกวัน จะมีแสงแดดจากดวงอาทิตย์สาดส่องเข้าไปภายในถ้ำดังกล่าวจนเกิดแสงกระทบผิวน้ำและปะการังมองเห็นระยิบยับสวยงามมาก แต่ขณะนี้ปะการังจานดอกดังกล่าวได้ถูกขโมยไปแล้ว ทำให้รู้สึกหดหู่และเสียใจอย่างมาก เนื่องจาก กว่าปะรังจานจะเจริญเติบโตได้แค่ปีละ1-2 เซนติเมตรเท่านั้น และกว่าจะโตได้ขนาดนี้ต้องใช้เวลานานหลายร้อยปีถึงพันปีเลยทีเดียว ซึ่งมูลค่านั้นไม่สามารถประเมินเป็นราคาได้

นางสาวเจียมจิตรกล่าวต่อไปอีกว่านอกจากนี้ยังพบว่าหอยมือเสือที่อยู่รอบๆเกาะจำนวนมากปัจจุบันถูกขโมยนำเนื้อและเปลือกไปขายเนื่องจากมีราคาแพง และต้นเทียนทะเลซึ่งเป็นไม้แคระต้นเตี้ยเนื้อแข็งเป็นไม้อายุยืนนับร้อยปีขึ้นไปที่ขึ้นอยู่บนเกาะเวียงก็ถูกขโมยนำไปตัดแต่งกิ่งดัดเป็นบอนไซขายในราคาแพงให้กับเศรษฐีใช้ประดับตกแต่งอาคารร้านค้า บ้านเรือน และสำนักงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนจากนอกพื้นที่เข้ามาลักลอบขโมยไปขาย

ต่อมานางสาวเจียมจิตรได้นำเจ้าหน้าที่สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 ชุมพร และผู้สื่อข่าวลงเรือไปสำรวจยังพื้นที่ดังกล่าวซึ่งนั่งเรือไปประมาณ 15 นาที ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นหมู่เกาะเวียงที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่ใกล้ๆกันหลายเกาะ มีนักท่องเที่ยวมาดำน้ำดูปะการังอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงไปดำสำรวจยังจุดปะการังจานที่ถูกขโมยไปจากถ้ำดังกล่าวที่มีความกว้างกว่า 5 เมตร แต่บริเวณปากถ้ำมีช่องทางเข้า 3 ช่องทางกว้างช่องทางละ 1 เมตร เนื่องจากมีหินขนาดใหญ่ 2 ก้อนขวางปากถ้ำอยู่ เจ้าหน้าที่เข้าไปในถ้ำลึกประมาณ 10 เมตร

ตรวจสอบพบมีร่องรอยการขุดเจาะตัดเอาปะการังจานออกไปจากโขดหินที่ใช้เป็นฐานยึดเกาะมีเศษแตกหักตกหล่นอยู่จำนวนหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่สำรวจออกมาจนถึงทางออกหน้าถ้ำช่องทางขวาสุดได้พบกับซากปะการังจานดอกขนาดขนาดใหญ่ถูกเคลื่อนย้ายมากองทิ้งไว้ที่จุดดังกล่าวลักษณะแตกหักเป็นเสี่ยงๆ 3 ชิ้น คาดว่ากลุ่มบุคคลที่เข้ามาขโมยพยายามเคลื่อนย้ายปะการังจาน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า 5 เมตร และน้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม ออกไปจากปากถ้ำไม่ได้ เนื่องจากปากถ้ำมีความกว้างเพียง 1 เมตร จนแตกหักจึงทิ้งกองไว้บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายออกไปเก็บไว้เป็นหลักฐานในจุดที่ปลอดภัย พร้อมกับรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อวางมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต