พบรถยนต์คนร้ายจี้ชิงทรัพย์ จอดทิ้งขนส่งฯหาดใหญ่

พบรถยนต์คนร้ายจี้ชิงทรัพย์ จอดทิ้งขนส่งฯหาดใหญ่

ความคืบหน้า ตรวจสอบรถยนต์กระบะที่ถูกจี้ชิงทรัพย์ ไม่พบวัตถุระเบิดหรือสิ่งของต้องสงสัย เเผยเป็นแค่คดีชิงทรัพย์ธรรมดา ไม่เกี่ยวกับความมั่นคง เจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งพบเบาะแสยังกบดานอยู่ในพื้นที่อ.หาดใหญ่

ความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุจี้ชิงรถยนต์กระบะอีซูซุ 4 ประตู สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ขข7886 สงขลา และแทง นางอารีย์ บุญยัง อายุ 43 ปี เจ้าของรถบาดเจ็บ ส่วนลูกสาวอายุ 17 ปี ที่นั่งมาด้วยปลอดภัย เหตุเกิดบนถนนสายบ้านคลองสอง หมู่14 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลาเมื่อวานนี้ และล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (ที่ 23 พ.ค.) เจ้าหน้าที่พบรถกระบะคันนี้แล้ว โดยถูกนำไปจอดทิ้งไว้ที่ด้านหลังอาคารที่2 ของสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่ แห่งที่2 หรือคิวรถตู้ตลาดเกษตร โดยคนร้ายได้ขับมาจอดทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อประมาณ 2 ทุ่มเมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้กันพื้นที่บริเวณโดยรอบ และตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือเพื่อความปลอดภัย

หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจากกองบังคับการตำรวจภูธรจ.สงขลาพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน9 ได้เข้าเคลียร์พื้นที่และตรวจสอบภายในรถไม่พบวัตถุต้องสงสัยหรือระเบิดซุกซ่อนไว้แต่อย่างใด แต่ได้มีการเก็บลายนิ้วมือแฝงไว้เป็นหลักฐาน โดยมีลูกสาวอายุ 17 ปีของ นางอารีย์ ที่เป็นเจ้าของรถเดินทางมาดูรถด้วยและบอกว่าขณะนี้อาการของนางอารีย์ ปลอดภัยแล้วแต่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลาเพราะถูกแทงตามร่างกายนับสิบแผล

ด้าน พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนคดีนี้พบว่าเป็นแค่คดีชิงทรัพย์ธรรมดาไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่อย่างใดเพียงแต่คนร้ายได้ลวงเจ้าของรถไปก่อเหตุในพื้นที่อ.จะนะ ซึ่งเป็นพื้นที่ความมั่นคงเท่านั้น รวมทั้งขณะนี้อยู่ในช่วงของการเฝ้าระวังการก่อเหตุความไม่สงบหลายฝ่ายจึงกังวลว่าอาจจะเป็นการจี้ชิงรถไปประกอบระเบิด แต่ขณะนี้ทุกอย่างเคลียร์แล้ว

ส่วนคนร้ายคือ นายณัฐพงษ์ หวังนุรักษ์ อายุ 25 ปี ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมซึ่งเบาะแสล่าสุดทราบว่ายังกบดานอยู่ในพื้นที่อ.หาดใหญ่

สำหรับเบื้องหน้าเบื้องหลังของคดีนี้ ทั้ง นางอารีย์ เจ้าของรถ และนายณัฐพงษ์ คนร้ายรู้จักกันมาก่อนในระดับหนึ่ง เพราะนายณัฐพงษ์ เป็นยามอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง และนางอารีย์ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายยาสมุนไพร ไปพบลูกค้าบ่อยครั้งจึงเกิดความเชื่อใจ กระทั่งเมื่อวานนี้ นายณัฐพงษ์ วางแผนออกอุบายซื้อยาสมุนไพรแต่ต้องไปดูอาการของญาติที่ป่วยที่ อ.จะนะก่อน จึงเชื่อใจและเดินทางไปพร้อมกับลูกสาววัย 17 ปี แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุ นายณัฐพงษ์ ซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังพยายามใช้มีดปาดคอ นางอารีย์ แต่โชคดีที่ใช้มือปัดป้องเอาไว้ได้ แต่ก็ถูกจ้วงแทงหลายสิบแผล ก่อนที่จะวิ่งหนีออกมาจากรถพร้อมกับลูกสาว และขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน