'ศรีวราห์'ยันระเบิดจริงรพ.พระมงกุฎฯ เผยเจ็บ24อาการหนัก3ราย

'ศรีวราห์'ยันระเบิดจริงรพ.พระมงกุฎฯ เผยเจ็บ24อาการหนัก3ราย

คืบหน้า รองผบ.ตร. "ศรีวราห์" ยืนยันเกิดเหตุระเบิดจริงที่รพ.พระมงกุฎฯ แต่ยังไม่ทราบชนิด-เร่งสืบสวน เผยเจ็บ24อาการหนัก3ราย

เมื่อเวลา 13.07 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ชี้แจงสื่อมวลชน ยืนยันเกิดเหตุระเบิดจริงที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ แต่ยังไม่ทราบชนิด กำลังตรวจสอบ และไม่ชัดเจนโยงโรงเหตุที่โรงระครแห่งชาติหรือไม่

ทั้งนี้ เหตุเกิดเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคม ร.ต.อ.นคร คำนนท์ รองสว.(สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งเหตุเสียงดังคล้ายระเบิด บริเวณห้องรับรองข้าราชการบำนาญ ห้องตรวจโรคนายทหารชั้นยศนายพล และที่ช่องจ่ายยา ช่องการเงิน ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 ปี รพ.พระมงกุฎเกล้า จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ส. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ที่เกิดเหตุบริเวณห้องวงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นห้องสำหรับรอรับการจ่ายยา ของนายทหารระดับสูง ส่งผลให้กระจกบริเวณดังกล่าวแตกกระจายหลายบาน มีกลุ่มควันออกมาจำนวนมาก แต่ไม่มีแสงเพลิง ทำให้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการ รักษาโรค โดนเศษกระจกที่แตกกระจาย ได้รับบาดเจ็บจำนวนนับสิบคน ซึ่งทางแพทย์ที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้บอกสาเหตุเบื้องต้นว่า เหตุระเบิดน่าจะมาจากช่องแอร์ที่ใช้งานมานาน ไม่ได้รับการดูแล ปรับปรุง ประกอบกับมีท่อแก๊ส ท่อสายไฟจำนวนมาก และในช่วงนี้มีความร้อนจากอากาศที่อบอ้าว อาจทำให้เกิดแรงเสียดทานจึงระเบิดขึ้นมาได้

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น พลตรีชาญณรงค์ นาคสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ เข้าไปอำนวยการในเหตุการณ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สห.ทบ.และสรรพาวุธ ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารเร่งกั้นพื้นที่โดยรอบเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่

ต่อมาเวลา 11.50 น. พล.ท.สาโรช เขียวขจี เจ้ากรมแพทย์ทหารบก ได้เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 ราย เบื้องมี 3 รายที่ยังต้องเฝ้าสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดกระจกตามร่างกายส่วนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ความเสียหายเป็นห้องจ่ายยาทหารสัญญาบัตร ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ สภาพความเสียหามีเพียงกระจกแตกเท่านั้น ต้องขอระยะเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง

ด้าน น.ส.ลภัสพิมล สิงห์สุวรรณ อายุ 30 ปี ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เผยว่า ขณะที่ตนกำลังพาญาติมารอทำการรักษาที่ชั้น 7 ตึกดังกล่าว ตนได้ยินเสียงระเบิด พร้อมเสียงกรีดร้อง ชุลมุน ตนจึงรีบเดินลงมาด้านล่างก่อนมาสอบถามผู้ช่วยพยาบาลว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ได้รับคำตอบ แต่ตนสังเกตว่าบริเวณชั้นหนึ่งที่จุดเกิดเหตุ มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกนอกพื้นที่ ตนเชื่อว่าต้องมีเหตุการณ์ผิดปรกติ ก่อนมาทราบว่าเป็นเหตุระเบิด ก่อนเจ้าหน้าที่จะกั้นพื้นที่ให้ออกนอกจุดเกิดเหตุ

ต่อมาเวลา ภายหลังการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุนานกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นระเบิดไม่ทราบชนิด เนื่องจากพบแผงวงจรไอซีทามเมอร์ เศษสายไฟ และเศษถ่านไฟฉายตกอยู่ในพื้นที่ คาดว่ามีผู้นำใส่ภาชนะมาวางไว้ในจุดดังกล่าว ซึ่งมีรัศมีการทำลายร้างอยู่ที่ 2-3 เมตร อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้นายทหารเวรทำการพิมพ์ลายนิ้วมือผู้บาดเจ็บทั้งหมดเพื่อนำมาตรวจสอบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ทั้งนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่อีโอดีตรวจสอบอย่างละเอียด และเรียกประชุมความคืบหน้าจากผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ทั้งนี้ได้รายงาน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยต่อว่า ส่วนจะเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่หน้ากองสลาก และหน้าโรงละครแห่งชาติหรือไม่นั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่อีโอดี เก็บหลักฐานไปตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนจะมีการประสงค์ต่อชีวิตหรือไม่นั้นต้องรอผลเช่นกัน แต่มีผู้บาดเจ็บจำนวน 24 คน และจะเกี่ยวเนื่องกับครบรอบ 3 ปีคสช.หรือไม่นั้น ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

“ทั้งนี้ต้องประณามผู้ที่ลงมือ ขนาดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มีการวางระเบิดในโรงพยาบาล” พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว

รายงานข่าวระบุว่า จุดเกิดเหตุอยู่ภายในห้องวงษ์สุวรรณ์ ในจุดนั่งรอรับการรักษา ตรวจสอบพบเศษตะปูกระจัดกระจายเต็มพื้นที่ พบหลุมและสารโปรแตสเซี่ยมคลอเรต ซึ่งเป็นหนึ่งในสารประกอบของการทำวัตถุระเบิด ผู้บาดเจ็บซึ่งมีนายพลทหารเกษียนอายุราชการ กว่า 10 คน ถูกนำตัวรับการรักษาพยาบาลโดยด่วนอย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดตัวอาคารทั้งหมด 7 ชั้น เพื่อให้สุนัขตำรวจเข้าตรวจสอบว่ามีระเบิดหลงเหลือหรือไม่