หวิดปะทะชิงผลประโยชน์ตลาดสุรนครเมืองใหม่ เดือนละ10ล.

หวิดปะทะชิงผลประโยชน์ตลาดสุรนครเมืองใหม่ เดือนละ10ล.

หวิดปะทะ แย่งชิงผลประโยชน์เดือนละ 10 ล้าน ตลาดสุรนครเมืองใหม่ ฝ่ายปกครองเรียกคู่พิพาทมาหย่าศึกหวั่นบานปลาย

ที่อาคารสำนักงานตลาดสุรนคร เมืองใหม่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายปรีชา สุวรรณชาติ ผู้จัดการ หจก.อุ้มบุญธุรกิจ พร้อมนายสุวัฒน์ชัย สวัสดี ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย นำชายฉกรรจ์ลายสิบคน บุกยึดครอบครองกิจการตลาด อ้างอาศัยคำพิพากษาศาลจังหวัดนครราชสีมา จึงมีสิทธิครอบครองส่วนคู่กรณีนางอุรัส ชัยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุรนครเมืองใหม่ จำกัด ผู้เช่าดำเนินกิจการตลาดสุรนคร ได้สั่งคนงานล็อคประตูทางเข้าและกระจายกำลังยืนขวางบันไดทางขึ้นท่ามกลางความตื่นตกใจของพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่เดินทางมาซื้อสินค้า

เหตุการณ์ได้ตึงเครียด เมื่อนายปรีชาอ้างมีสิทธิโดยชอบ เดินหน้านำกลุ่มชายฉกรรจ์พยายามฝ่าวงล้อมเข้าไปในอาคารสำนักงาน จึงมีการเผชิญหน้ากันพร้อมออกแรงดันกันไปมาและส่งเสียงอ้างสิทธิบริหารกิจการตลาด พ.ต.อ ปฏิยุทธ์ สิงห์สมโรจน์ ผกก.สภ.เมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ยืนขวาง เพื่อไม่ให้เกิดการใช้กำลัง ผ่านไปกว่า15นาที นายปรีชาจึงสั่งให้กลุ่มชายทั้งหมดถอยออกมา

เมื่อเวลา13.00น. พลตรีวิทูรย์ ศิริปักมานนท์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่21กองทัพภาคที่2ค่ายสุรนารี ฐานะหัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดนครราชสีมา นายธนพล จันทรนิมิ รองผู้ว่าราชการนครราชสีมา และพลตำรวจตรีสุภากร คำสิงห์นอก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกคู่กรณีมาเจรจา พูดคุยหาข้อยุติที่ห้องไกล่เกลี่ย ศูนย์ดำรงธรรม

นายธนพล ได้สอบถามถึงความคืบหน้าในกระบวนการศาลยุติธรรม ให้ฝ่ายไหนมีสิทธิครองครองกิจการโดยชอบ แต่จะไม่กล่าวถึงรายละเอียดของคดีความใครผิดถูกอย่างเด็ดขาด บรรยากาศได้ตึงเครียด เนื่องจากนายสุวัฒน์ชัย ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย อ้างคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครราชสีมา ยกฟ้องกรณี หจก.อุ้มบุญ บุกรุกตลาดจึงมีสิทธิโดยชอบในการเข้าครอบครองกิจการ ซึ่งชี้แจงไม่ตรงคำถาม ทำให้มีการปะทะคารมกันไปมา รวมทั้งนายปรีชา ที่ระบุเป็นเจ้าของที่ดิน38ไร่ ให้คู่กรณีเช่าทำประโยชน์ในระยะเวลา15ปี แต่ไม่ยอมชำระหนี้ตามสัญญา จึงร้องขอความเป็นธรรมทั้งกองปราบปราม สำนักนายกรัฐมนตรี รัฐสภา แต่ก็ไม่มีหน่วยงานไหนช่วยได้ กลับถูกอิทธิพลข่มขู่อีก

จากนั้นนายธนพล กล่าวว่า ที่ประชุมรับฟังคำชี้แจง ปรากฏสิทธิครอบครองกิจการตลาด บริษัท สุรนครเมืองใหม่ จำกัด อยู่ในฐานะได้เปรียบ ส่วนนายปรีชา แม้นเป็นผู้เช่า ต้องรอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดก่อน อย่างไรก็ตามหน่วยงานความมั่นคงต้องการให้เกิดบรรยากาศสงบเรียบร้อย จึงเรียกคู่พิพาทมาพูดคุยตกลงกัน เพื่อป้องกันการเผชิญหน้าใช้กำลังปะทะอาจลุกลามขยายวงกว้าง หากไม่เชื่อฟังจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนการโต้แย้งสิทธิของทั้งสองฝ่ายในเรื่องครอบครองสิทธิต่างๆ ต้องว่ากล่าวฟ้องร้องตกลงกันเอง ทางราชการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใดดังนั้นทุกฝ่ายต้องยึดมั่นและปฏิบัติโดยชอบกฎหมาย ตามคำสั่งศาลยุติธรรม

ตลาดสุรนคร เมืองใหม่ ถือเป็นตลาดกลางค้าส่งผักและผลไม้ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ-หนองคาย บริเวณทางแยกราชสีมา ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการสัญจรไปอีสานเหนือ จึงเป็นที่นิยมของผู้ประกอบการค้าส่งและปลีก มีรายได้ต่อวันประมาณ10ล้านบาท ต่อมามีปัญหาพิพาทระหว่าง หจก.อุ้มบุญธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้ให้เช่ากับ บริษัท สุรนครเมืองใหม่ จำกัด ผู้เช่ามาตลอดและทั้งสองฝ่ายนำชายฉกรรจ์มาบุกยึดครอบครองกิจการตลาดกันไปหลายครั้ง และมีคดีความฟ้องกันไปมาทั้งบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ ชิงทรัพย์ ซ่องโจร รวมทั้งคดีแพ่งที่เป็นการผิดสัญญาเช่าและไม่ชำระหนี้ตามกำหนด โดยสัญญาเช่า30ปี จะสิ้นสุดในวันที่31มกราคม2564