‘บล.เคทีบี’ ชูนวัตกรรมดึงวอลุ่ม

‘บล.เคทีบี’ ชูนวัตกรรมดึงวอลุ่ม

บล.เคทีบีชูนวัตกรรมดึงวอลุ่ม เผย "สมาร์ทอัลโก" เปิดตัว6เดือนมีสินทรัพย์500ล้าน ออก 2 กลยุทธ์ใหม่ช่วยลูกค้าบริหารเสี่ยง

บล.เคทีบี รุกนวัตกรรมการลงทุนอัตโนมัติ ‘Algorithmic Trading’ เปิดตัว 2 กลยุทธ์ลงทุนใหม่จาก Smart Algo เน้นสร้างผลตอบแทนและบริหารความเสี่ยง รองรับความต้องการการวางแผนการเงินยุคใหม่ พร้อมทั้งยังเป็นการพัฒนาตลาดทุนของประเทศไทย

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนานวัตกรรมการลงทุนในตลาดหุ้นให้กับนักลงทุนได้เข้ามาใช้บริการคือ ระบบการลงทุนอัตโนมัติชื่อว่า KTBST Smart Algo ซึ่งนักลงทุนให้ความสนใจอย่างมาก เพราะมีกลยุทธ์ลงทุนที่โดดเด่นทั้ง 4 กลยุทธ์ โดยหลังจากเปิดตัวนวัตกรรมนี้ 6 เดือน KTBST Smart Algo เติบโตขึ้นมากจนปัจจุบันมีขนาดสินทรัพย์ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท

ทั้งนี้ KTBST Smart Algo ได้ออกกลยุทธ์การลงทุนใหม่อีก 2 กลยุทธ์ด้วยกัน นั่นคือ “กลยุทธ์ SECTOR ROTATION” และ “กลยุทธ์ TIDE HUNTER”  ซึ่งเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่บริษัทพัฒนาร่วมกันกับ Fintech ประเทศไทย เพื่อต้องการให้นักลงทุนได้มีเครื่องมือในการวางแผนการเงินและการลงทุนที่หลากหลาย

นายชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บล. เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลยุทธ์ Sector Rotation นั้นเป็นการลงทุนในหุ้นแบบกระจายตัวไปตามกลุ่มอุตสาหกรรม (Sector) ทั้งใน SET และ MAI มีการคำนวณน้ำหนักเพื่อเข้าลงทุนในแต่ละกลุ่ม ตามแนวโน้มราคา (Momentum) ความผันผวน (Volatility) และ ค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) โดยกลยุทธ์จะเลือกลงทุนในกลุ่มที่มีแนวโน้มราคาแข็งแกร่งกว่าตลาด มีความผันผวนของราคาต่ำ รวมถึงมีค่าสหสัมพันธ์ต่ำ ซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงของพอร์ตลดลง กลยุทธ์นี้เหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบการกระจายความเสี่ยงและไม่ต้องการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ซบเซา เพื่อรับผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว

สำหรับกลยุทธ์ Tide Hunter เป็นการลงทุนที่ใช้เครื่องมือทางเทคนิคหลายชนิดเพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำในการทำกำไร โดยกลยุทธ์จะคัดเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มของราคา (Momentum) ที่แข็งแกร่งกว่าหุ้นตัวอื่น 10 อันดับแรกโดยเปรียบเทียบ จากทั้งตลาด SET และ MAI และหากหุ้นที่เลือกมามีอันดับแนวโน้มราคาลดลง หรือราคาเริ่มปรับตัวเป็นขาลง กลยุทธ์ Tide Hunter จะทำการขายหุ้นนั้น และทำการซื้อหุ้นที่มีอันดับแนวโน้มราคาที่ดีกว่าเข้ามาแทน

“กลยุทธ์ Tide Hunter จากการทดสอบ (Back Test) ตลาดหุ้นในปี 2014-ปัจจุบัน ผลตอบแทนที่ได้รับถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ตัวกลยุทธ์ยังมีการบริหารความเสี่ยงผ่านการกระจายลงทุนในหุ้นหลายๆ ตัว ทำให้ผลตอบแทนไม่ผันผวนในภาวะตลาดที่มีความไม่แน่นอนสูงดังเช่นในปัจจุบัน โดยกลยุทธ์ Tide Hunter จะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชอบการลงทุนในหุ้นเป็นรายตัวและสามารถลงทุนในระยะยาวประมาณ 1-3 ปี และรับความเสี่ยงได้ในภาวะที่ตลาดแกว่งตัวลง” คุณชาตรี กล่าว

นายวิน กล่าวเสริมว่า กลยุทธ์ใหม่ของ Smart Algo ที่ออกมาต่อเนื่อง สะท้อนว่า KTBST Wealth Management ให้ความสนใจกับการลงทุนในยุคใหม่อย่างมาก เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตลาดทุนของประเทศไทย จึงเชื่อว่านักลงทุนจะเข้ามาใช้บริการ KTSBT Smart Algo เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันมีหุ้นจำนวนมากที่ตลาดหลักทรัพย์ การที่จะเลือกหุ้นที่ดีด้วยตนเองนั้นอาจทำได้ไม่ครอบคลุมทั้งหมด ขณะเดียวกันการจะวิเคราะห์เพื่อหาจังหวะในการซื้อ-ขาย ก็อาจทำได้ไม่ครอบคลุม