'ปลัดคลัง' เตรียมชงพ.ร.บ.ภาษีลาภลอยเร็วๆนี้

'ปลัดคลัง' เตรียมชงพ.ร.บ.ภาษีลาภลอยเร็วๆนี้

"ปลัดคลัง"ยืนยันยังไม่ปรับขึ้น "VAT" ชี้เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว หากปรับขึ้นอาจเกิดผลกระทบ เผยเตรียมชงพ.ร.บ.ภาษีลาภลอยให้ "รมว.คลัง" พิจารณาเร็วๆ นี้

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เสนอให้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT เพิ่มขึ้น 1% ซึ่งจะทำให้รัฐบาลจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 60,000-70,000 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่า ขณะนี้เศรษฐกิจอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัว เห็นได้จากอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ไตรมาส 1/2560 ที่ขยายตัวได้ 3.3% ซึ่งหากปรับเพิ่มอัตราภาษีในตอนนี้อาจกระทบกับภาวะเศรษฐกิจ และประชาชนส่วนใหญ่ได้ ขณะเดียวกันในเร็วๆนี้ กระทรวงการคลัง คงจะเสนอคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. พิจารณาต่ออายุภาษี VAT 7% ออกไปอีก แต่จะเป็นกี่ปีนั้นยังไม่สามารถระบุได้

"เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้น หากปรับขึ้นตอนนี้อาจทำให้เศรษฐกิจสะดุดได้ซึ่งเร็วๆนี้จะเสนอครม.พิจารณาต่ออายุก่อนจะหมดในเดือนกันยายนนี้ โดยขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีโดยยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องเก็บ เพราะเราพยายามส่งเสริม National ePayment ซึ่งหากทำได้เต็มประสิทธิภาพจะส่งผลให้มีเม็ดเงินเพิ่มขึ้นกว่าแสนล้านบาท" นายสมชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการปฏิรูปกฎหมายประมวลรัษฎากร ซึ่งจะพิจารณาภาษีทั้งระบบ ทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีลาภลอย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างร่างพ.ร.บ. ภาษีลาภลอย เพื่อเรียกเก็บจาก ผู้ที่ได้รับอานิสงส์จากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด ซึ่งคาดว่าจะเสนอให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาได้ในเร็วๆนี้ ส่วนข้อเสนอของ สนช. ก็พร้อมที่จะนำไปพิจารณาในรายละเอียดด้วย

นายสมชัย กล่าวถึงกรณีที่นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนบัวหลวง ออกมาระบุว่าเห็นด้วยที่จะเรียกเก็บภาษีผลตอบแทนสุทธิที่ได้รับจากการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุการลงทุน ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด ซึ่งสศค.อยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งคาดว่าจะเสนอรัฐมนตรีคลังได้เร็วๆนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง โดยยึดหลักความเสมอภาค ส่วนการจัดเก็บจะอยู่ที่ 15% หรือไม่นั้น คงไม่สามารถระบุได้

ส่วนกรณีที่นายศุภชัย พานิชภักดิ์ ออกมาระบุว่า เศรษฐกิจไทยน่าเป็นห่วง และจะเกิดฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์นั้น ยืนยันว่า เศรษฐกิจมหภาคของไทยยังแข็งแกร่ง ทั้งในเรื่องของเสถียรภาพ ฐานะทางการเงิน และการคลังยังแข็งแกร่ง เงินทุนสำรองระหว่างประเทศยังอยู่ในระดับสูง ในส่วนของจุลภาพที่ยังมีบางส่วนที่ยังต้องดำเนินการแก้ไข โดยเปิดให้ลงทะเบียนสวัสดิการรัฐ ซึ่งเร็วๆนี้จะเรียกสศค. กรมบัญชีกลาง เพื่อหารือถึงมาตรการร่วมกัน ก่อนเสนอรัฐมนตรีกระทรวงการคลังพิจารณา

"มาตรการนอกจากน้ำ ไฟฟ้า รถเมล์ รถไฟฟรีแล้ว ยังต้องหามาตรการอื่นเพิ่มเติมที่โดนใจประชาชน และอยากเห็นประชาชนมาลงทะเบียนน้อยลง และรายได้เกิน 100,000 บาทต่อปี โดยได้สั่งการให้สศค.หาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้มีกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจและฐานราก วงเงิน 50,000 ล้านบาทด้วย ซึ่งจะต้องไปดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ" นายสมชัย กล่าว

ขณะที่ภาคเอกชนยังชะลอการลงทุนนั้น เนื่องจากขณะนี้ภาคเอกชนอาจรอความชัดเจนกฎหมายหักลดหย่อนรายจ่ายการลงทุน 1.5 เท่า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานกฤษฎีกา ซึ่งหากกฎหมายดังกล่าวออกมาแล้ว คาดว่าจะส่งผลให้เอกชนลงทุนเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวจะมีผลย้อนหลัง เพื่อให้เอกชนที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ได้สิทธิประโยชน์ด้วย

ส่วนกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือ ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ยืนยันว่า เกิดแน่นอน โดยคาดว่าจะเปิดขายได้ในเดือนกันยายนนี้