คอมเซเว่นทุ่ม300ล.เขย่าค้าปลีกไอที

คอมเซเว่นทุ่ม300ล.เขย่าค้าปลีกไอที

เร่งขยายสาขาหวังรายได้โตแตะ 1.9หมื่นล.-ลุยขายออนไลน์

“คอมเซเว่น” บุกหนักค้าปลีกไอที เทงบลงทุน 200 ล้านบาทขยายสาขากว่า 500 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ เท 100 ล้านลุยทำตลาด ล่าสุดแตกสายธุรกิจใหม่ลุยกล้องถ่ายภาพ ตั้งเป้าปี 2560 รายได้รวมแตะ 1.9 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 10% 


นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีภายใต้ชื่อ บานาน่า สตูดิโอ7 บีเคเค และไอแคร์ กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจของคอมเซเว่นในปี 2560 พร้อมรุกหนักตลาดไอทีทุกกลุ่มทั้งโมบาย พีซี อุปกรณ์เสริม รวมถึงโซลูชั่นสำหรับธุรกิจองค์กร

บริษัทจะเน้นทำตลาดสินค้าและบริการที่มีส่วนต่างกำไรสูง เพิ่มโอกาสการทำรายได้จากสินค้ากลุ่มใหม่ๆ พร้อมเติมเต็มช่องว่างจากที่เคยสูญเสียโอกาสทางการขายด้วยช่องทางออนไลน์ ตลอดทั้งปีนี้จะใช้งบการตลาดประมาณ 100 ล้านบาท

ปีนี้เตรียมขยายสาขาไปถึง 536 สาขา งบการลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท จากปี 2559 ที่มี 368 สาขา เน้นที่บีเคเคซึ่งบริษัทซื้อสินทรัพย์ของบริษัท บางกอก เทเลคอม 999 จำกัด (บีเคเค) มาเมื่อปี 2559 ทั้งจะการทยอยเข้าไปบริหารจัดการทรูช้อปมากขึ้น

ล่าสุดยังได้เข้าไปบริหารจัดการพื้นที่โซนไอทีให้กับห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ด้วยโมเดลธุรกิจแบบแบ่งส่วนแบ่งรายได้กัน เฟสแรกเริ่มที่ 28 สาขา จากนั้นภายในสิ้นปี 50 สาขา

พร้อมกันนี้ เพิ่มโฟกัสช่องทางทางออนไลน์ ภายใต้ชื่อ บานาน่า สโตร์ (Banana Store) เพื่อเพิ่มความสะดวกลูกค้า และลดการสูญเสียโอกาสที่ลูกค้าเข้าไปที่สาขาแต่ไม่มีสินค้าจำหน่าย จากปีก่อนที่ทำยอดขายจากออนไลน์ได้ 100 ล้านบาทปีนี้จะเพิ่มไปเป็น 700 ล้านบาท

ด้านผลิตภัณฑ์นอกจากสินค้าแบรนด์แอ๊ปเปิ้ล จะเพิ่มการโฟกัสสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4 แบรนด์คือ ซัมซุง ออปโป้ วีโว่ และหัวเว่ย คาดว่าจะทำยอดขายรวมสมาร์ทโฟนได้ 3 พันล้านบาท จากปีก่อน 2 พันล้านบาท เสริมด้วยการขายโทรศัพท์มือถือพ่วงด้วยซิมการ์ด โดยตั้งเป้าว่าจะขายซิมการ์ดได้ไม่น้อยกว่า 1.8 แสนเบอร์ จากสิ้นปี 2559 ทำได้ 1.3 แสนเบอร์ จบไตรมาสแรกทำได้แล้ว 4.7 หมื่นเลขหมาย

นอกจากนี้ รุกตลาดโซลูชั่นให้บริการเทคโนโลยีและสินค้าไอทีแก่ลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอี รวมทั้งหน่วยงานราชการและภาคเอกชน ภายใต้แบรนด์ “บานาน่า บิสิเนส” ปัจจุบันเปิดให้บริการแฟล็กชิพ สโตร์สาขาแรกที่พันธ์ทิพย์ พลาซ่า ทั้งจะรุกลูกค้ากลุ่มมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา ตั้งไว้ว่าปีนี้มียอดขายสินค้าจากกลุ่มธุรกิจรวมการศึกษาจะทำได้ถึง 800 ล้านบาท ขณะนี้มีโครงการในมือมูลค่า 300 ล้านบาทแล้ว

ล่าสุด เพิ่มไลน์สินค้าใหม่กลุ่มกล้องถ่ายภาพ ประเดิมปีนี้ 5 สาขา และพิจารณาขยายต่อไปในอนาคต หวังว่าสิ้นปีจะทำรายได้ได้ไม่น้อยกว่า 400 บาท ชิงส่วนแบ่งการตลาด 5% จากตลาดรวม 8,000 ล้านบาท

พร้อมประเมินว่า ภาพรวมตลาดไอทีประเทศไทยปีนี้น่าจะเติบโตได้มากกว่าจีดีพีประเทศและดีกว่าปีที่ผ่านมา แม้สมาร์ทโฟนเติบโตแนวโน้มโตเพียงตัวเลขหลักเดียวทว่าเป็นตลาดใหญ่ โน้ตบุ๊คกลับมาดีขึ้นโอกาสโตได้ 8-10% ส่วนแทบเล็ตชะลอตัว

ปี 2560 คอมเซเว่นตั้งเป้าทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องทั้งในแง่ของรายได้และกำไร โดยหวังรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% มูลค่าประมาณ 19,000 ล้านบาท จากปีก่อนหน้าที่ 17,212 ล้านบาทขับเคลื่อนโดยภาพรวมตลาดไอทีและโมบายที่แนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง การขยายสาขา และความร่วมมือกับทางโลตัส เสริมสินค้าใหม่ๆ รวมถึงเพิ่มการขายบนออนไลน์ มั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้า เนื่องจากเพียงไตรมาสแรกยอดขายโต 23%

ปัจจุบัน ธุรกิจของคอมเซเว่นแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลักคือ ค้าปลีกสินค้าไอทีและโมบาย ศูนย์บริการหลังการขาย ตลาดธุรกิจองค์กร และออนไลน์ ด้านสัดส่วนรายได้มาจากโทรศัพท์มือถือ 42% โน้ตบุ๊ค 26% อุปกรณ์เสริม 19% แทบเล็ต 8% เดสก์ทอป 4% การบริการ 1% ปีนี้คาดว่าสัดส่วนจะใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าทว่าแทบเล็ตจะลดลงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดเริ่มอิ่มตัวและแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟน