เทรนด์‘คนรุ่นใหม่'หันลงทุนอสังหาฯชี้ช่องว่างทำกำไร

เทรนด์‘คนรุ่นใหม่'หันลงทุนอสังหาฯชี้ช่องว่างทำกำไร

มุมมองการทำงานของ“คนรุ่นใหม่”ยุคนี้ ให้ความสนใจพัฒนาธุรกิจและเป็น“เจ้าของ"กิจการที่สร้างขึ้นเอง เพื่อหวังสร้างตัวตนและเรื่องราวความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

ส่งผลให้ ธุรกิจ“อสังหาริมทรัพย์”กลายเป็นหนึ่งใน“ตัวเลือก”การลงทุน จากปัจจัยความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคทุกวัย ธุรกิจจึงมีดีมานด์ต่อเนื่อง

สมสกุล หลิมศุทธพรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่าช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมาพบว่าผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Young Developer)ในธุรกิจอสังหาฯมีแนวโน้มเติบโตอย่างชัดเจน โดยพลัสฯ มีลูกค้ากลุ่มนี้ 12 โครงการ มูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท คาดว่าในช่วง 3 ปีนี้จะแตะ 20 โครงการ เฉลี่ยการลงทุนโปรเจคละ 500-1,000 ล้านบาท  ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม  โครงการที่ลงทุนสูงสุดอยู่ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท 

“ดีเวลอปเปอร์รุ่นใหม่ที่พลัสฯดูแลการตลาดและขายให้ เป็นนักลงทุนตั้งแต่อายุ20ปีปลายถึง 40ปี โดยเฉลี่ยอายุอยูที่ 30ปี เป็นกลุ่มคนที่ต้องการเป็น successor อย่างรวดเร็ว” 

ปัจจัยที่ดึงดูดให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่หันมาสนใจธุรกิจอสังหาฯ เพราะที่อยู่อาศัยเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริโภคทุกคนต้องการเป็นเจ้าของ  ถือเป็นเรียล เซ็คเตอร์ของประเทศที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง จะเห็นว่าธุรกิจอสังหาฯ ยังคงเติบโตได้ในสภาวะแข่งขันสูงหรือเศรษฐกิจชะลอ แต่ยังมีผู้ประกอบการหน้าใหม่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับผู้ประกอบการอสังหาฯรุ่นใหม่ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มต่อยอดจากรุ่นพ่อแม่ ที่ทำธุรกิจอสังหาฯอยู่แล้ว โดยรุ่นลูกพัฒนาโปรดักท์รูปแบบใหม่ ปรับคาแรกเตอร์ให้ทันสมัยตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และต่อยอดแบรนด์ใหม่ๆ อีกส่วนมาจากการร่วมมือกับกลุ่มเพื่อนทายาทธุรกิจที่มีความสนใจในธุรกิจอสังหาฯเหมือนกัน ซึ่งอาจจะพบกับตามคอร์สระยะสั้นที่เปิดสอนด้านการทำธุรกิจอสังหาฯที่ถ่ายทอดโดยผู้มีประสบการณ์จริง 

กลุ่มขยายไลน์ธุรกิจใหม่ เป็นกลุ่มทายาทธุรกิจที่เห็นโอกาสจากการธุรกิจอสังหาฯ แม้ว่ารุ่นพ่อแม่จะประสบความสำเร็จจากธุรกิจอื่น แต่สามารถต่อยอดจากแลนด์แบงก์ที่รับตกทอดมา พบว่าในกลุ่มนี้ธุรกิจดั้งเดิมมีทั้ง รับเหมาก่อสร้าง ส่งออกอาหารทะเล ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น 

รูปแบบการลงทุนอสังหาฯของคนรุ่นใหม่ จะมีทั้งกลุ่มที่มี “ที่ดิน”อยู่แล้วและกลุ่มที่ให้พลัสฯช่วยหาที่ดินลงทุน เน้นโปรเจคคอนโดที่ก่อสร้างและปิดการขายเร็ว เฉลี่ยใช้เวลา 18-24เดือนต่อโครงการ ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีกำไรสุทธิ 10%  พบว่านักลงทุนรุ่นใหม่ที่พลัสฯดูแล มีแนวโน้มเป็นกลุ่มที่ใช้บริการต่อเนื่อง 50%  

เทรนด์การเข้ามาลงทุนอสังหาฯของคนรุ่นใหม่ เนื่องจากเห็น “ช่องว่าง”การทำตลาด โดยเลือกทำเลลงทุนที่เลี่ยงการชนกับรายใหญ่ เน้นทำเลศักยภาพที่มีความต้องการอยู่อาศัยจริงอยู่ไม่ห่างจาก Prime Area  ใกล้รถไฟฟ้า แหล่งชอปปิง ร้านอาหาร มีผู้คนอาศัยอย่างหนาแน่น สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้หลากหลาย โดยยังเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ผู้อาศัยที่ต้องความเป็นส่วนตัว ทำเลที่ได้รับความนิยมคือ พระราม 9 ลาดพร้าว รัชดา และพหลโยธินตอนกลาง 

“นักลงทุนอสังหาฯรายใหญ่จะโฟกัสทำเลใกล้รถไฟฟ้าระยะ 50-100 เมตร แต่ดีเวลอปเปอร์รุ่นใหม่อาจเลือกทำเลที่มีระยะห่าง 500 เมตร หรืออยู่ในซอยที่มีทางเข้าออกหลายทาง” 

กลยุทธ์ด้านราคาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้โครงการเหล่านี้ประสบความสำเร็จ โดยการทำราคาให้เอื้อมถึง เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าอยู่อาศัยเอง พบว่า 85-90% ซึ่งเพื่ออยู่อาศัย มากกว่าที่เน้นเก็งกำไรหรือลงทุน