เรียก'แพท'แต่เช้า ชี้สอบปากคำ-ฝากขังทันเวลา ไม่มาขอหมายจับ

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) จับกุมนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวลาว ก่อนขยายผลจับกุม นายณัฐพล หรือบอย นาคคำ และให้การซัดทอดว่าหนึ่งในทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดนั้นนำไปไว้ที่นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามีของนางเอกสาว แพท ณปภา ตันตระกูล

ก่อนที่ภายหลังนายเบนซ์จะถูกแจ้งข้อหาฟอกเงินและสมคบการฟอกเงิน ต่อมาแพท ณปภา และมารดานายเบนซ์ เดินทางเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน บช.ปส. เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังตำรวจพบเงินในบัญชีของ แพท ณปภา โอนมาจากเบนซ์ เรซซิ่ง และต้องสงสัยว่าเป็นเงินจากการกระทำความผิด กระทั่งมีการออกหมายเรียก แพท ณปภา เข้ารับทราบข้อหาเดียวกับสามี เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยนัดให้มาพบที่ บช.ปส.ในวันที่ 15 พฤษภาคม นี้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ โฆษก บช.ปส. กล่าวว่า ในวันที่ 15 พฤษภาคม นี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า แพท ณปภา จะเดินทางมาหรือไม่ แต่ในหมายเรียกได้ระบุวันเวลาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ได้เตรียมพนักงานสอบสวนไว้แล้ว

ซึ่งในการเรียกครั้งนี้เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมทั้งทำการสอบปากคำเพิ่มเติมว่ายังขาดในประเด็นใด แต่ถ้าหาก แพท ณปภา จะขอให้การในชั้นศาลก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ส่วนสาเหตุที่เรียกมาในช่วงเช้าเวลา 09.00 น. เนื่องจากจะได้มีเวลาในการสอบปากคำและฝากขังศาลได้ทันตามเวลาราชการ แต่ถ้าหากทาง แพท ณปภา ไม่มาตามหมายเรียก ก็จะขออนุมัติศาลออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป