อียิปต์พบซากมัมมี่ 17 ศพในสุสานใต้ดิน

อียิปต์พบซากมัมมี่ 17 ศพในสุสานใต้ดิน

นักโบราณคดีอียิปต์ขุดพบสุสานโบราณที่มีซากมัมมี่ 17 ศพ ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ ด้านรัฐบาลหวังใช้กระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศ (ชมชุดภาพ)

นายคาเล็ด อัล-เอลานี รัฐมนตรีกระทรวงโบราณวัตถุสถานอียิปต์เปิดเผยว่า สุสานโบราณแห่งนี้ลึกลงไปใต้ดินราว 8 เมตรพบที่จังหวัดมินยา ห่างจากกรุงไคโรลงไปทางใต้ราว 250 กม. พบซากมัมมี่อย่างน้อย 17 ศพในสภาพเกือบสมบูรณ์ภายในสุสานดังกล่าว ซึ่งมีโลงโบราณทำจากหินปูนและดินเหนียว หีบศพของสัตว์ และกระดาษปาปิรุสจารึกเกี่ยวกับประชาชน สุสานแห่งนี้ถูกพบครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วโดยคณะนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยไคโรซึ่งใช้เรดาร์สำรวจ

นายโมฮัมเหม็ด ฮัมซา หัวหน้าคณะโบราณคดีของมหาวิทยาลัยไคโร ผู้รับผิดชอบในเรื่องการขุดสุสานโบราณแห่งนี้ รายงานว่า ยังไม่ทราบว่ามัมมี่ที่พบครั้งนี้มีอายุเก่าแก่เพียงใด แต่เชื่อว่าต้องอยู่ในยุคกรีก-โรมันของอียิปต์ซึ่งอยู่ในช่วงเวลา 600 ปีภายหลังชัยชนะของอเล็กซานเดอร์มหาราชในปี 323 ก่อนคริสตกาล

ทางการอียิปต์หวังว่า การขุดพบสุสานโบราณและมัมมี่จะช่วยสร้างภาพที่ดีของอียิปต์ในต่างประเทศ เพื่อหวังกระตุ้นความสนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมาท่องเที่ยวอียิปต์ซึ่งเคยมีจุดขายที่น่าสนใจเกี่ยวกับอารยธรรมโบราณของอียิปต์ทั้งวิหารฟาโรห์และปิระมิด แต่การท่องเที่ยวกลับต้องมาสะดุดเพราะสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศเมื่อปี 2554

ศาสตราจารย์ซาลาห์ อัล-โคห์ลี นักวิชาการด้านอียิปต์วิทยาแห่งมหาวิทยาลัยไคโร หัวหน้าคณะนักโบราณคดี กล่าวว่า อาจมีซากมัมมี่มากถึง 32 ศพภายในห้องเก็บศพใต้ดิน ซึ่งมีทั้งมัมมี่ผู้หญิง เด็กและทารก

เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา นายเยเฮีย ราชีด รัฐมนตรีท่องเที่ยวของอียิปต์ กล่าวว่า การค้นพบเกี่ยวกับโบราณสถานของอียิปต์จะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวอียิปต์ในปีนี้ราว 10 ล้านคน ซึ่งจะมากกว่าเมื่อปี 2558 ที่มี 9.3 ล้านคน แต่ก็ยังน้อยกว่าปี 2553 ซึ่งมีจำนวนมากถึง 14.7 ล้านคน

การท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของประเทศอียิปต์ที่กำลังหาทางกระตุ้นด้านการท่องเที่ยวท่ามกลางเหตุรุนแรงอันเนื่องจากการโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรงไอเอสซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว โจมตีด้วยระเบิดในโบสถ์ของชาวคริสต์