ห้างค้าปลีกแข่งเดือดไม่สนไฟใต้!

ห้างค้าปลีกแข่งเดือดไม่สนไฟใต้!

ห้างค้าปลีกแข่งเดือดไม่สนไฟใต้!

เหตุระเบิดบริเวณห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่าง “บิ๊กซี ปัตตานี” ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพียงแต่ครั้งนี้หนักที่สุด เพราะเป็น “คาร์บอมบ์”

ย้อนกลับไปในห้วง 13 ปีไฟใต้ “ห้างบิ๊กซี” ซึ่งเป็นห้างแบรนด์ระดับชาติใหญ่ที่สุดเพียงแห่งเดียวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยตกเป็นเป้าก่อเหตุรุนแรงมาแล้ว 2 ครั้ง / ครั้งแรกเมื่อปี 2548 และต่อมาเมื่อปี 2555 แต่ทั้งสองครั้งเสียหายไม่มากนัก / ส่วนคาร์บอมบ์รอบนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งต้องบอกว่าเสียหายหนักที่สุด

สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้จะมีเหตุรุนแรงต่อเนื่องยาวนานกว่า 1 ทศวรรษ แต่ในพื้นที่นี้ก็มีห้างสรรพสินค้าหลายห้างอยู่เหมือนกัน ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ท้องถิ่น

ห้างฯดังที่สุดของปัตตานีนอกจากบิ๊กซี คือ ห้างไดอาน่า ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล ตรงข้ามตลาดสดเทศวิวัฒน์ ส่วนจังหวัดยะลามีห้างโคลิเซียม ขณะที่จังหวัดนราธิวาส มีห้างประเภทซุปเปอร์เซ็นเตอร์ของท้องถิ่น เช่น ซุปเปอร์ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ เช่นเดียวกับที่ปัตตานีและยะลาก็มีห้างในลักษณะซุปเปอร์ของท้องถิ่นด้วยเช่นกัน แต่ละแห่งล้วนเคยตกเป็นเป้าการก่อเหตุรุนแรงมาแล้วทั้งสิ้น หากไม่ใช่ลอบวางระเบิด ก็เป็นลอบวางเพลิง ต้องเผชิญกับความเสียหายกันมาไม่ใช่น้อย

หากเจาะลงไปถึงแหล่งทุนของห้างแบรนด์ท้องถิ่นเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุนของคนไทยเชื้อสายจีน กับกลุ่มทุนระดับภูมิภาค เช่น กลุ่มธุรกิจภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุนดั้งเดิมที่ทำธุรกิจมานาน

แต่ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจก็คือ ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะยุติ กลับมีการเติบโตของกลุ่มทุนใหม่ เป็นกลุ่มทุนมุสลิมทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาสร้างสีสันในพื้นที่ไม่น้อยทีเดียว

อย่างเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุระเบิดที่ห้างบิ๊กซี ปัตตานี เพียงวันเดียว เพิ่งมีกิจกรรมเปิดตัวห้าง G.PA ซุปเปอร์มาร์ท ปัตตานี ที่ประกาศตัวเป็นศูนย์รวมสินค้าท้องถิ่นชายแดนใต้ ห้างนี้ตั้งอยู่ในตัวเมืองปัตตานีเช่นกัน โดยใช้งบลงทุนถึง 120 ล้านบาท

พิธีเปิดห้างฯ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา และอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยเป็นประธาน และมีผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ตัวแทนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด มาร่วมเป็นสักขีพยานคับคั่ง

นอกจากนั้น เมื่อตอนต้นปีก็มีพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อเริ่มก่อสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ใช้ชื่อ “ปัตตานี อาเซียนมอลล์” ในพื้นที่โครงการปัตตานีจายา ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ของกลุ่มทุนมุสลิมหลายประเทศบนพื้นที่กว่า 1 พันไร่ชานเมืองปัตตานี

จุดขายของห้างทั้งสองแห่ง คืออาหารฮาลาลที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม อย่างที่ห้าง G.PA ซุปเปอร์มาร์ท ปัตตานี โฆษณาว่ามีไก่ทอดแบรนด์ GFC หรือ จีปาฟราย ชิกเก้น ที่คิดค้นและพัฒนาสูตรขึ้นมาเอง เพื่อตอบสนองผู้บริโภคมุสลิมที่นิยมอาหารฟาสต์ฟู้ด และยังใช้ไก่จากเกษตรกรในพื้นที่ด้วย

หากพูดถึงอาหารจานด่วนประเภทไก่ทอด ย้อนกลับไปเมื่อปี 2557 ร้านเคเอฟซี ไก่ทอดแบรนด์ดังระดับโลก ต้องประกาศปิดทุกสาขาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะถูกตั้งคำถามเรื่องตรารับรอง “ฮาลาล” ที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม ทำให้ปัจจุบันไม่มีร้านเคเอฟซีในพื้นที่แม้แต่แห่งเดียว จากเดิมเคยมี 3 แห่งที่ปัตตานีและยะลา

หลังการปิดตัวของเคเอฟซี ก็มีไก่ทอดแบรนด์ท้องถิ่นที่จัดร้านแบบฟาสต์ฟู้ดเกิดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ด

การจากไปของ “เคเอฟซี” กับการบูมของไก่ทอดแบรนด์ท้องถิ่นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อ 3 ปีก่อน กำลังจะกลายเป็นวงจรธุรกิจที่คล้ายคลึงกับห้างค้าปลีกที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดท่ามกลางเสียงปืนและเสียงระเบิดในดินแดนแห่งนี้หรือไม่...เป็นทิศทางที่น่าติดตาม