“ศก.-กำลังซื้อ”หนุนรับสร้างบ้านครึ่งหลังฟื้น

“ศก.-กำลังซื้อ”หนุนรับสร้างบ้านครึ่งหลังฟื้น

ธุรกิจรับสร้างบ้าน มองบวกตลาดครึ่งปีหลังฟื้น รับปัจจัยบวกเศรษฐกิจ-กำลังซื้อ “อยุธาสร้างบ้าน” รุกเจาะอีสานล่าง ชี้ตลาดคึกคัก สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านลุยจัดเอ็กซ์โป

นายธีร์ บุญวาสนา กรรมการผู้จัดการ บริษัทอยุธยา สร้างบ้าน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลังว่า มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก เป็นผลมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น 

นอกจากนี้ โดยปกติคนทั่วไปจะใช้เวลาตัดสินใจสร้างบ้านอย่างน้อย 4- 6 เดือน จึงคาดว่าตลาดจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่ราคาบ้านมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้า หากต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น

สำหรับสถานการณ์ธุรกิจของบริษัทในช่วง 4-5เดือนที่ผ่านมา ยังใกล้เคียงกับปีก่อน โดยปิดยอดขายแล้วกว่า 30 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างดีลงานกับลูกค้าเพิ่มเติม คิดเป็นมูลค่ากว่า 80-90 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ อยู่ที่ 180 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่ตั้งไว้ 160 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายเติบโต15%

ปีนี้จะรุกตลาดต่างจังหวัด โดยเฉพาะตลาดอีสานตอนล่างที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดี โดยตั้งเป้าหมายยอดขายจากตลาดกรุงเทพฯและปริมณฑล 60% และต่างจังหวัด 40% ซึ่งเป็นสัดส่วนใกล้เคียงกัน

นายธีร์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการควบคุมสัญญาในธุรกิจรับจ้างก่อสร้างบ้าน โดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ออกประกาศให้ธุรกิจนี้ต้องชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับราคาก่อสร้างทั้งหมดรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงบัญชีแสดงปริมาณวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างและราคา หรือ BOQ (Bill of Quantity) ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการหลายรายปรับตัวตามสัญญามาตรฐานที่กำหนด โดยหลังจากทางสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อศาลปกครอง เพื่อขอความคุ้มครองชั่วคราว ให้สคบ.ทบทวนรายละเอียดBOQ

ล่าสุด สคบ. ยืดเวลาในการทำรายละเอียดต่อศาลปกครองอีกครั้ง จากเดิมที่ครบกำหนดในวันที่ 29 เม.ย.2560 เลื่อนมาเป็นวันที่ 28 พ.ค.2560

ทั้งนี้ มองว่าธุรกิจยังมีค่าอื่นๆที่ต้องดำเนินการทั้งการวิจัย การใส่นวัตกรรมกรรมต่างๆในการก่อสร้าง ซึ่งถือเป็นต้นทุนการพัฒนาธุรกิจ แต่ถ้าจะใช้ระบบแจกแจงต้นทุนอย่างละเอียดก็อาจเกิดการเปรียบเทียบต่างๆ ทำให้ลูกค้าลังเล และยกเลิกว่าจ้าง เป็นต้น

นายโกศล โควิสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด เห็นสอดคล้องกันว่า ครึ่งปีหลังธุรกิจรับสร้างบ้านมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาพรวมตลาดในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ผนวกกับบ้านเป็น 1 ในปัจจัย4 ที่ต้องปลูกสร้าง ซ่อมแซม อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากเศรษฐกิจโดยรวมไม่แย่มากนัก คนก็จะจัดสรรเงินมาใช้จ่ายกับการสร้างหรือซ่อมแซมบ้าน ซึ่งคาดว่าภาพรวมธุรกิจสร้างบ้านปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีก่อน

สำหรับภาพรวมของบริษัทในช่วง 4 เดือนแรก มีรายได้อยู่ที่ 400 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเกินคาด โดยมองว่าคนที่ต้องการสร้างบ้านก็ยังมีความต้องการต่อเนื่อง ผนวกกับบริษัทได้นำเสนอโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เริ่มมีกลุ่มลูกค้าจากตลาดอีสานติดต่อเข้ามามากขึ้น

นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ริชชี่ เฮ้าส์ จำกัด คาดว่า ภาพรวมตลาดธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาส2 จนถึงครึ่งปีหลังนี้จะมีทิศทางดีขึ้น จากปัจจัยสถานการณ์ต่างๆภายในประเทศที่เริ่มคลี่คลาย เช่น ปัจจัยการเมือง รวมถึงการลงทุนของภาครัฐที่มีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากในช่วงไตรมาสแรกตลาดยังทรงตัว 

ทั้งนี้ จากการกระตุ้นตลาดจัดงานของสมาคม ผ่าน “รับสร้างบ้าน Home Builder Focus 2017” เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ยังเป็นดัชนีชี้วัดตลาดได้พอสมควร ยอดขายภายในงานใกล้เคียงกับปีก่อน

ทั้งยังเตรียมจัดงานเอ็กซ์โปกระตุ้นตลาดเพิ่มเติมในเดือน ส.ค.โดยในปีนี้คาดการณ์ว่าตลาดรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีมูลค่า 11,000 ล้านบาท ส่วนตลาดรวมทั่วประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 -45,000 ล้านบาท และมีโอกาสเติบโตอีก 5%

ส่วนการควบคุมสัญญาธุรกิจรับจ้างก่อสร้างบ้าน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง โดยมองว่าการควบคุมสัญญาแบบเดิมๆอาจไม่สอดคล้องกับธุรกิจรับสร้างบ้านที่ให้บริการแบบสร้างมูลค่าอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การตกแต่งต่างๆ และประกาศดังกล่าวที่ออกมาจากสคบ.มองว่าค่อนข้างซ้ำซ้อนกับ พ.ร.บ.เดิมที่มีอยู่ ถ้าออกประกาศสัญญาควบคุมนี้มาอาจจะสร้างให้เกิดความสับสนได้