Daily Market Outlook (8 พ.ค.60)

Daily Market Outlook (8 พ.ค.60)

คลายความกังวลหลัง Macron คว้าชัยการเลือกตั้ง

คาดตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้เนื่องจากความกังวลทางการเมืองในยุโรปลดลง หลังจาก Emmanuel Macron คว้าชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีไปอย่างง่ายดายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ลดความเสี่ยงของการแยกกลุ่ม EU ปัจจัยความเสี่ยงทางการเมืองในยุโรปครั้งใหม่ คือ การเลือกตั้งในเยอรมันในเดือน ก.ย.นี้ โดยความนิยมของ Markel จากพรรค Christian Democrats ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ ช่วยหนุนความเป็นไปได้ของการที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.และช่วงที่เหลือของปี ก่อให้เกิดความกังวลที่เงินทุนจะไหลออกจากตลาดเกิดใหม่อีกครั้ง ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ค่อนไปทางลบ ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์อาจล่าช้าไปอีก 3 เดือนเป็น ก.ย. การลงทุนรัฐวิสาหกิจ ณ สิ้นเดือน มี.ค. ไม่เป็นไปตามเป้า นอกจากนี้ ยอดขออนุญาตตั้งโรงงานเดือน เม.ย. ลดลง 5% YoY

หุ้นเด่นวันนี้: MTLS (ราคาปิด 29.00 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 35.00 บาท)

เราคาด บมจ. เมืองไทย ลิสซิ่ง จะแสดงการเติบโตของกำไรอย่างแข็งแกร่งทั้งในไตรมาส 1/60 และไตรมาสต่อๆ ไป โดยปกติแล้ว ผลการดำเนินงานของบริษัทจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละไตรมาสและจะโตสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายของปี สำหรับไตรมาส 1/60 เราคาดกำไรจะทำนิวไฮอีกครั้งอยู่ที่ 527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% QoQและ 88.1% YoYการเติบโตดังกล่าวเป็นไปตามสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายเครือข่ายสาขาของบริษัท เราคาดสินเชื่อไตรมาส 1/60 จะกระโดดขึ้น 10% QoQและ 79% YoYโดยการเติบโตดังกล่าวคาดว่าจะมาจากทุกๆ ผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ จำนวนสาขาของ MTLS ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,874 สาขา จาก 1,664 สาขา ณ สิ้นปี 59 บริษัทตั้งเป้าจำนวนสาขาปี 60 ที่ 2,200 สาขา แม้บริษัทจะแสดงการเติบโตของสินเชื่ออย่างรวดเร็ว แต่เราคาดอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) จะยังอยู่ในระดับต่ำที่ประมาณ 1% ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (coverage ratio) น่าจะอยู่สูงกว่า 200% บ่งบอกถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัททั้งในแง่ของการขยายสินเชื่อและคุณภาพสินทรัพย์ เราคาดสินเชื่อในปีนี้ของ MTLS จะกระโดดสูงขึ้นถึง 70% YoY เราคาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโตต่อเนื่องที่ 42.4% ในปี 60 และ 42.6% ในปี 61 Price Pattern ของ MTLS มีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิด Monthly Buy Signal แต่ Price Pattern ของ MTLS ทั้งในระยะสั้นและระยะกลางยังอยู่ในช่วงของการปรับฐานจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Sell Signal โดย Price Pattern ของ MTLS จะกลับมาเกิดความแข็งแกร่งในระยะสั้นจากการกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่อีกครั้งเมื่อสามารถปิดตลาดที่ 30.25 บาทเป็นอย่างน้อย ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ MTLS พบว่าการอ่อนตัวระยะสั้นของ MTLS ที่ผ่านมายังเป็นโอกาสในการทยอยซื้อ ตราบเท่าที่ Price Pattern ของ MTLS ยังสามารถปิดตลาดได้ที่ 28.50 บาทเป็นอย่างน้อย Price Pattern ของ MTLS จะดูไม่ดีในกรณีที่ปิดตลาดต่ำกว่า 28.50 บาท ซึ่งตราบเท่าที่ Price Pattern ของ MTLS ยังปิดตลาดได้ที่ 28.50 บาท ยังมีโอกาสเกิดการทำ New High โดยมีเป้าหมายสำคัญของการทำ New High อยู่ที่ 36.50 บาท (Resistance: 29.50, 30.00, 30.50; Support: 28.75, 28.25, 27.75)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• TFF ถูกเลื่อนไปเดือน ก.ย. การเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์อาจล่าช้าออกไปอีก 3 เดือนเป็นเดือน ก.ย. การเลื่อนดังกล่าวเกิดจากความกังวลในเรื่องต้นทุนทางการเงินที่สูง โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จะมีการแจกแจงเรื่องดังกล่าวกับคณะกรรมการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเร็วๆ นี้ (Bangkok Post)

• ธปท.จับมือญี่ปุ่น ให้ช่วยเหลือการเงิน วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธปท. และ Haruhiko Kuroda ผู้ว่า BOJ ได้ลงนามความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตรา (swap) เพื่อให้สามารถ swap ค่าเงินเทียบสกุลดอลลาร์ในยามที่ต้องการความช่วยเหลือสภาพคล่องระยะสั้นและรักษาดุลการชำระเงินของทั้งสองประเทศ ข้อตกลงนี้มีวงเงินความช่วยเหลือสูงสุด 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (Bangkok Post)

• สคร. ชี้ มี.ค.เบิกจ่ายงบหลุดเป้า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจทั้งในส่วนรัฐวิสาหกิจที่เบิกจ่ายตามปีงบประมาณและปีปฏิทินสิ้นสุด ณ เดือน มี.ค. เบิกจ่ายได้แล้ว 63,000 ล้านบาท จากวงเงินงบลงทุนทั้งปีที่ 342,000 ล้านบาท ลดลง 22,000 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ที่ตั้งไว้ 364,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้แม้ยังเบิกจ่ายได้ไม่มาก แต่มั่นใจว่าจะเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 95% โดยเฉพาะไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ การเบิกจ่ายจะเริ่มมีเพิ่มขึ้น (เดลินิวส์)

• ยื่นขอตั้งโรงงานลดลง 5% กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า การขอใบอนุญาตประกอบกิจการ รง.4 และขยายกิจการในเดือนมกราคม-เมษายน 2560 มีจำนวนโรงงานทั้งสิ้น 1,533 โรงงาน ลดลง 5.07 % จากช่วงเดียวกันในปี 2559 ที่มีอยู่ 1,615 โรงงาน (แนวหน้า)

• PTTEP (ราคาปิด 94.50 บาท)รัฐบาลอินโดนีเซียเรียกร้องค่าชดเชย 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (7 หมื่นล้านบาท) จาก PTTEP และ PTTEP Australasia ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ PTTEP สำหรับการรั่วไหลของน้ำมันของแหล่งมอนทารา ออสเตรเลียลงไปในทะเลติมอร์ เมื่อเกือบแปดปีก่อน (บางกอกโพสต์)ความเห็น: เรื่องนี้เพิ่มผลกระทบในเชิงลบทางจิตวิทยาให้กับ PTTEP แต่ PTTEP แจ้งว่ายังไม่ได้รับหนังสือเรียกร้อง หรือหมายศาลจากทางการของอินโดนีเซีย กรณีนี้ต้องการข้อสรุปสุดท้ายจากทั้งสองฝ่าย (PTTEP และรัฐบาลอินโดนีเซีย) ก่อน เรายังคงแนะนำ "ขาย" PTTEP ด้วยราคาเป้าหมาย 78.50 บาท

ต่างประเทศ:

• นายเอมมานูเอล มาครอง ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ด้วยวิสัยทัศน์ที่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจที่ต้องการรวมอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป โดยเอาชนะนางมารีน เลอเปน ที่มีแนวคิดชาตินิยมฝ่ายขวาจัดซึ่งคิดที่จะให้ฝรั่งเศสออกจากสหภาพยุโรป จากผลการนับคะแนน นายมาครองได้รับคะแนนในสัดส่วน 66% ห่างจากนางเลอเปนซึ่งได้คะแนนราว 34% โดยมีส่วนต่างกว่า 20% ตามผลสำรวจก่อนการเลือกตั้งที่ได้ระบุไว้ (Reuters) ความเห็น: ประเด็นที่จับตาจะเปลี่ยนไปที่รายละเอียดของนโยบายของนายมาครองและความสามารถของเขาในการควบคุมสภาโดยจะมีการเลือกตั้งในระดับรัฐสภาในวันที่ 11 มิ.ย. และ 18 มิ.ย. ความพ่ายแพ้ของนางเลอเปนเป็นสัญญาณว่าแนวคิดที่ต่อต้านสหภาพยุโรปซึ่งทำให้อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรปได้ถูกจำกัดสำหรับประเทศอื่น ๆ ที่เหลือในยุโรป ซึ่งสร้างความโล่งใจให้แก่ตลาด

• เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวแบนราบลงเมื่อวันศุกร์ ถึงแม้ว่าการเติบโตของการจ้างงานฟื้นตัวและอัตราการว่างงานลดลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี หนุนมุมมองว่าเฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 2/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.35% ลดลงจากที่ระดับ 2.36% เมื่อวันพฤหัส Spread ระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธระหว่างอายุ 2 ปีและ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 103 bps จาก 105 bps ก่อนการประกาศข้อมูลดังกล่าว (Reuters)

• ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเช้าวันนี้ทรงตัว ทรงตัวเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 112.79 เยน หลังจากพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ระดับ 113.14 เยน ในการซื้อขายก่อนหน้านี้ เงินยูโรแข็งค่าสู่ระดับ 1.1024 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 9 พ.ย. และยังแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 124.58 เยน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 98.673 หลังจากปรับตัวลงที่ระดับ 98.387 ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนพ.ย. (Reuters)

สหรัฐ:

• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวันศุกร์ ดัชนี Nasdaqทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวและการจ้างงานในสหรัฐที่เพิ่มขึ้น (Reuters)

• ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 211,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 79,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และอัตราการว่างงานลดลงอยู่ที่ 4.4% ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี นักลงทุนในขณะนี้มองว่ามีโอกาส 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. จากข้อมูลของ Thomson Reuters (Reuters)

• ผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ โดยรวมดีกว่าที่คาด กำไรของบริษัทใน S&P500 ในไตรมาส 1/60 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 14.7% ซึ่งสูงสุดนับแต่ปี ค.ศ. 2011 ลดลงเล็กน้อยจาก 14.8% เมื่อวันพฤหัส แต่เพิ่มขึ้นจาก 12.4% เมื่อวันที่ 28 เม.ย. และ 10% เมื่อวันที่ 12 เม.ย. จากข้อมูลของ Thomson Reuters I/B/E/S (Reuters)

ยุโรป:

• หุ้นยุโรปปรับขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 21 เดือนเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากการรายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี และความกังวลทางการเมืองที่ลดลง (Reuters)

• กำไรไตรมาส 1/60 แข็งแกร่ง ข้อมูล Thomson Reuters I/B/E/S ซึ่งรายงานเมื่อวันศุกร์เผย จากประมาณครึ่งนึงของบริษัทที่ได้รายงานผลการดำเนินงานไปแล้วนั้น 78% ของบริษัททั้งหมดออกมาดีเกินคาด ขณะที่ 21% ออกมาน้อยกว่าคาด โดยรวมแล้วกำไรไตรมาส 1/60 เติบโต 17% (Reuters)



เอเชีย:

• ญี่ปุ่นและจีนตกลงที่จะหนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเงิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น Taro Asoกล่าวเมื่อวันเสาร์ ท่ามกลางการกีดกันทางการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และความตึงเครียดเหนือเกาหลีเหนือ มีผลต่อแนวโน้มการเติบโตของเอเชีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของจีน Xiao Jieซึ่งพลาดการประชุมแบบไตรภาคีกับคู่เจรจาญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในวันศุกร์ในการเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีในต่างประเทศได้เดินทางเข้าร่วมการเจรจากับ Asoเพื่อหาทางปฏิเสธการเก็งกำไรของตลาดที่จะเกิดขึ้นจากการที่เขาในปรากฎตัวซึ่งอาจจะมีผลกระทบทางการทูต (Reuters)

• ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย. เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นไปตามความคาดหวังของตลาดเนื่องจากการควบคุมเงินทุนและทิศทางของเงินดอลลาร์ที่หยุด Rally ชั่วคราว ช่วยหยุดการไหลออกของเงินทุน เงินหยวนมีเสถียรภาพขึ้น เงินทุนสำรองเพิ่มขึ้น 21 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย. เป็น 3.03 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับการเพิ่มขึ้น 3.96 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือน มี.ค.เป็น 3.009 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าทุนสำรองเงินตราต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นราว 11.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 3.02 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย.(Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• น้ำมันดิบบวก 1.5% วันศุกร์ ดีดกลับจากจุดต่ำสุดรอบ 5 เดือนตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่เป็นบวกและเพราะซาอุยืนยันว่ารัสเซียพร้อมร่วมมือ OPEC ในการลดกำลังการผลิตเพื่อลดอุปทานที่ล้นเกินมาอย่างยาวนาน น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าบวก 72 เซนต์ (1.5%) ปิด 49.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าบวก 70 เซนต์ (1.5%) ปิด 46.22 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

• ทองคำบวกแล้วย่อลงวันศุกร์ หลังตัวเลขชี้ว่าการจ้างงานสหรัฐมีการเติบโตใน เม.ย. และนับแต่การลดลงรายสัปดาห์มากสุดในรอบหกเดือนเพราะมีการเก็งมากขึ้นว่าสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยใน มิ.ย. และความเสี่ยงด้านการเมืองในยุโรปผ่อนคลาย ทองคำตลาดจรบวก 0.05% ปิด 1,227.89 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่รายสัปดาห์ลงไปถึง 3.2% ลดมากสุดนับแต่ พ.ย. ทองคำล่วงหน้าส่งมอบ มิ.ย. ลบ 0.14% ปิด 1,226.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)