‘ค่ายมือถือ’ ยันตลาดแข่งสูง 4จี+สมาร์ทโฟนแรง จับลูกค้าคุณภาพ

‘ค่ายมือถือ’ ยันตลาดแข่งสูง 4จี+สมาร์ทโฟนแรง จับลูกค้าคุณภาพ

จบ 3 เดือนแรก ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม “ค่ายมือถือ” รายใหญ่ทั้ง “เอไอเอส-ดีแทค” ต่างรายงานผลดำเนินงานไตรมาส 1/2560 ซึ่งระบุตรงกันว่าปีนี้ การแข่งขันยังคงมีอยู่ แต่การแจกเครื่องหรือให้ส่วนลดไม่ค่อยรุนแรงเหมือนปีที่่ผ่านมา

หากยังคงมุ่งเน้นทำแคมเปญมือถือและใช้กลยุทธ์ทางด้านราคา ให้ลูกค้าใหม่ที่มีคุณภาพในระบบรายเดือนมากขึ้น การแข่งขันส่วนใหญ่มุ่งความเร็วของบริการ 4จี และความครอบคลุม ด้าน “ทรู” หลังขึ้นเบอร์ 2 ในตลาด “ศุภชัย” ยันได้เห็นความน่าสนใจเพิ่มขึ้นทั้งเชิงกลยุทธ์และการแข่งขันในตลาดของกลุ่มทรูจากนี้ไปแน่นอน

เอไอเอสคงรายได้โต 4-5%
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ระบุในคำอธิบายงบผลการดำเนินงานล่าสุดไตรมาส 1/2560 ว่า เอไอเอสมีรายได้รวม 38,858 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 7,693 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 37,252 ล้านบาท แต่ลดลงเล็กน้อยหากเทียบกับกำไรไตรมาส 1/2559 ที่ 8,073 ล้านบาทตามลำดับ

โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา บริษัทเน้นในบริการดาต้าอย่างต่อเนื่อง จากการพัฒนาคุณภาพบริการ 4จี และสร้างการรับรู้ในแบรนด์ โดยไตรมาสดังกล่าว เอไอเอสใช้เงินลงทุน 11,509 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของคุณภาพโครงข่าย 4จี ส่งผลให้เอไอเอสมีลูกค้ารวม 40.6 ล้านราย

ขณะที่การแข่งขันยังคงมุ่งเน้นการทำแคมเปญมือถือ และใช้กลยุทธ์ทางด้านราคา เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า และดึงดูดลูกค้าใหม่ที่มีคุณภาพในระบบรายเดือน โดยภาพรวมรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโต 2.6% จากไตรมาส 1/2559 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากระบบรายเดือน ขณะที่ปริมาณการใช้ดาต้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 4 กิกะไบต์/เลขหมายที่ใช้บริการดาต้า/เดือน จากแนวโน้มการใช้งานสมาร์ทโฟน 4 จีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง คิดเป็น 35% ของฐานลูกค้ารวม

ทั้งนี้ เป็นผลต่อเนื่องจากการใช้กลยุทธ์เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพ และลดแคมเปญมือถือสำหรับกลุ่มเติมเงินลง ในขณะที่มีการออกแพ็คเกจราคาที่จูงใจเทียบเคียงกับคู่แข่ง แนวโน้มที่ลูกค้าในระบบเติมเงินหันมาใช้บริการระบบรายเดือนมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการนำเสนอแพ็คเกจควบคู่กับสมาร์ทโฟนที่จูงใจ ทำให้ลูกค้าระบบรายเดือนเพิ่มขึ้น 231,800 ราย ขณะที่ลูกค้าระบบเติมเงินลดลง 615,200 ราย

ในส่วนของธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มุ่งเน้นที่กลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพ และการเพิ่มรายได้ต่อเดือน อัตราการใช้งานโครงข่าย (network utilization) เติบโตขึ้นรับกับการพัฒนาประสิทธิภาพของตัวแทน และช่องทางจำหน่าย และการนำเสนอแพ็คเกจที่จูงใจในไตรมาส 1/2560 เอไอเอส ไฟเบอร์มีจำนวนผู้ใช้งาน 373,900 ราย เพิ่มขึ้น 72,400 ราย จากไตรมาสก่อน และคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 1.7% ของรายได้จากการให้บริการรวม ดังนั้น การเติบโตของเอไอเอสในภาพรวมของไตรมาสนี้สอดคล้องกับที่คาดการณ์ทั้งปี 2560 ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น 4-5%

ดีแทคอัดงบลงทุน2หมื่นล.
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส1/2560 ดีแทคมีรายได้รวมอยู่ที่ 19,748 ล้านบาท ลดลงหากเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาระดับ 8.9% คิดเป็น 21,676 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิเท่ากับ 229 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 1,255 ล้านบาท คิดเป็น 82% ส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ลบด้วยค่าใช้จ่ายในการลงทุน หรือ CAPEX ในไตรมาส 1/2560 ที่แข็งแกร่งคิดเป็น 2,400 ล้านบาท โดยรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) 16,200 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการแข่งขันในตลาดยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ผู้ให้บริการต่างใช้โปรโมชั่นเกี่ยวกับมือถือ ในการสร้างฐานลูกค้าระดับบน รวมทั้งยังมีการให้ส่วนลดค่าเครื่องในตลาดบริการเติมเงินอยู่บ้างแต่ไม่รุนแรงเท่าปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุมมองแนวโน้มผลประกอบการในปี 2560 โดยคาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายจะอยู่ในระดับเดียวกับในปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยจากภาพลักษณ์ของโครงข่ายที่ดีขึ้นรวมทั้งการนำเสนอบริการที่คุ้มค่าให้กับลูกค้า

ทั้งนี้ บริษัทยังคงแผนการลงทุนในปี 2560 ด้วยวงเงินประมาณ 17,000-20,000 ล้านบาท เพื่อทำให้โครงข่ายมีความหนาแน่นและความต่อเนื่องมากขึ้น ขณะที่บริษัทจะรักษาสถานะทางการเงินให้มีความคล่องตัวและให้ความสำคัญกับการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพื่อให้พร้อมต่อโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงการจัดสรรคลื่ความถี่ในอนาคต

อย่างไรก็ดี ไตรมาส 1/2560 ดีแทคยังคงลงทุนอย่างหนักในโครงข่ายเพื่อรองรับการเติบโตของความต้องการใช้บริการข้อมูล จำนวนสถานีฐานเพิ่มขึ้น 17,500 สถานีจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีการขยายโครงข่าย 4จีอย่างต่อเนื่อง โดย สิ้นไตรมาสที่ 1/2560 ฐานจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 24.3 ล้านเลขหมาย

ทรูมูฟขายหุ้นกู้รองรับธุรกิจ

ในส่วนของกลุ่มทรูนั้น หลังจากก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 2 ของตลาดด้วยฐานลูกค้า 24.53 ล้านราย แซงหน้าดีแทคไปแบบฉิ่วเฉียด

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ซีอีโอใหญ่ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี กรุ๊ป กล่าวว่า หลังจากทรูขึ้นเป็นเบอร์ 2 ของตลาด จากนี้จะเห็นความน่าสนใจที่เพิ่มขึ้นทั้งในแง่ของการแข่งขัน และกลยุทธ์ของกลุ่มทรูในตลาดโทรคมไทยแน่นอน

ด้านนายวิลเลี่ยม แฮริส หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า จากการที่ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัดได้เสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 4/2560 ด้วยมูลค่าที่เสนอขายรวมทั้งสิ้น 13,000 ล้านบาท โดยเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 27-28 เม.ย.2560 และวันที่ 2-3 พ.ค.2560 และออกหุ้นกู้ในวันที่ 4 พ.ค.2560 ที่ผ่านมานั้น มีนักลงทุนสนใจจองซื้อหุ้นกู้เต็มจำนวนที่บริษัทออกเสนอขาย

หุ้นกู้ของบริษัทที่จัดจำหน่ายครั้งนี้ ประกอบด้วยหุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.50% อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.00% อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.50% และอายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.75% ซึ่งบริษัทมีสิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ทุกชุดก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ ณ วันครบรอบ 1 ปีนับแต่วันออกหุ้นกู้ หรือ ณ วันกำหนดชำระดอกเบี้ยใดๆ ภายหลังจากนั้น ทั้งนี้หุ้นกู้ที่เสนอขายในครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable” เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2560

โดยการออกหุ้นกู้ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการจัดหาเงินทุน เพื่อชำระตั๋วแลกเงิน และ/หรือ หุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระ และ/หรือ ขยายธุรกิจของบริษัท และบริษัทย่อย และ/หรือ บริษัทในเครือของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ประกอบธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และการสื่อสารแบบไร้สาย รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการดำเนินการของบริษัท และ/หรือ กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่