เด้ง! 'ดาบตำรวจ' เหตุเมาขับรถชนชาวบ้าน สั่งสอบวินัย-อาญาด้วย

จากกรณีที่หนุ่มวัย15 ปี สมาชิกเฟสบุ๊ค ใช้ชื่อว่า เสหนุ่ย'ย ออกมาโพสต์คลิปแฉดาบตำรวจนายหนึ่ง ประจำสภ.บางเสาธง เมาสุราขับรถพุ่งชนจนรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย เมื่อช่วงค่ำคืนวันที่ 28 เม.ย. 60 ที่ผ่านมา เหตุเกิดบนถนนสายC4 หมู่บ้านการเคหะเมืองใหม่บางพลีตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารท์ต่อสังคมไทยอย่างหนัก สำหรับชาวโซเชียล โดยเรียกร้องให้ต้นสังกัดดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ ( 30 เม.ย. 60 )นาย สราวุธ (สงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี พร้อมกับมารดาและพี่ชาย เดินทางมายังสภ.บางเสาธง ท้องที่เกิดเหตุและเป็นต้นสังกัดของนายดาบที่ปรากฏในคลิปฉาว เพื่อเข้าพบกับ พ.ต.อ.สุเนตร หอกลาง ผกก.สภ.บางเสาธง โดยมี พ.ต.ท. ธวัชชัย ล่ามกิจจา สารวัตรจราจร ร่วมพูดคุยสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ผกก.สภ.บางเสาธง ระบุว่าจากการตรวจสอบคลิปดังกล่าวพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือ ด.ต.พัชร ศิริงามรอบ ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.บางเสาธง ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจเดินเท้าร้านค้าทองเคหะเมืองใหม่บางพลีนั้น มีความผิดจริง เบื้องต้นได้สั่งให้เยียวยาผู้เสียหายด้วยการชดเชยค่าเสียหายในส่วนของการรักษาพยาบาล การซ่อมรถจักรยานยนต์ รวมถึงเงินทำขวัญ เบื้องต้นตกลงกันที่35,000บาท ซึ่งเป็นที่พอใจและยินดีต่อครอบครัวของผู้เสียหาย

ส่วนประเด็นที่พบว่ามีบุตรชายของดาบตำรวจ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของสถาบันการศึกษาเดียวกันกับผู้เสียหายนั้น ออกมาโพสต์ของความเชิงข่มขู่ผู้เสียหายที่ออกมาโพสต์คลิปแฉดาบตำรวจนั้นจนทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัว

ล่าสุดตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเชิญตัวผู้ที่ออกมาโพสต์ข้อความเชิงข่มขู่มาสอบปากคำแล้วหากพบว่าเป็นการข่มขู่เหยื่อจริงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน ทั้งนี้จะประสานไปยังโรงเรียนต้นสังกัดให้เข้ามาดูแลพฤติกรรมของผู้ที่ออกมาโพสต์ขู่เหยื่อในครั้งนี้ด้วย

ต่อมา พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีคำสั่งด่วน ย้ายด.ต.พัชร ศิริงามรอบ ผบ.หมู่ ป้องกันปราบปราม สภ.บางเสาธง ไปช่วยงานธุรการที่ศูนย์ ศปก.ประจำตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการมีผลตั้งแต่วันที่1พ.ค.60เป็นต้นไปโดยไม่มีกำหนด จนกว่าระหว่างที่ตั้งกรรมการสอบอาญาและวินัยจะแล้วเสร็จโดยให้ความมั่นใจไม่มีการช่วยเหลือแต่อย่างใดหากพบว่าผิดจริง