‘โฮมโปร’โกยรายได้ไตรมาสแรก 1.5 หมื่นล้าน

‘โฮมโปร’โกยรายได้ไตรมาสแรก 1.5 หมื่นล้าน

‘โฮมโปร’ โชว์ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 60 กวาดรายได้ 1.5 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 4.52% กำไรสุทธิ 1,046 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อย สำหรับไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2560 ว่ามีผลกำไรสุทธิ 1,046 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีปัจจัยมาจาก รายได้รวม 15,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.52%

ทั้งนี้ มาจากปัจจัยการขายจำนวน 14,270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.69% เป็นผลมาจากการเติบโตจากสาขาใหม่ ทั้งธุรกิจโฮมโปร เมกาโฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย

นอกจากนี มีรายได้ค่าเช่า และบริการอีกจำนวน 481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.36% เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นจากพื้นที่ให้เช่าเพิ่มเติมของสาขาโฮมโปร นอกจากนี้ยังมีรายได้อื่น จำนวน 520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ค่าโฆษณา รายได้จากการส่งเสริมการขาย และรายได้จากค่าบริการ “โฮม เซอร์วิส” จากลูกค้า

นายคุณวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่าบริษัทมีกำไรขั้นต้นไตรมาสแรก 3,711 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 298 ล้านบาท หรือ 8.76% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 25% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 26% โดยเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนของส่วนผสมสินค้ามีไว้เพื่อขายทั้งกลุ่มสินค้าทั่วไป และกลุ่มสินค้า Direct Sourcing รวมถึงธุรกิจเมกาโฮม ที่มีอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้น

ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ แม้ว่าดัชนีทางเศรษฐกิจบางตัวจะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่เห็นการฟื้นตัวของกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างชัดเจน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายของสินค้าบางกลุ่ม เช่น กลุ่มเครื่องทำความเย็น ซึ่งมียอดขายสูงกว่าปกติในปีที่ผ่านมา ทำให้ยอดขายยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ อย่างไรก็ตามได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น งาน HomePro Expo ในช่วงวันที่ 17-26 มี.ค.ที่ผ่านมาซึ่งมียอดขายอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

จากสถานการณ์ที่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า จึงได้มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพอัตราทำกำไรในแต่ละกลุ่มสินค้าให้ดีขึ้น เช่น การเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มสินค้า Direct Sourcing การเลือกสินค้าจากแหล่งต่างๆ ให้ได้ต้นทุนในราคาที่เหมาะสม การเพิ่มคุณภาพของสินค้าให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้น การวางแผนการจัดซื้อสินค้า