AOT - ซื้อ

AOT - ซื้อ

คาดกำไรหลักไตรมาส 2/60 ทำสถิติสูงสุดใหม่

ประเด็นการลงทุน

จำนวนผู้โดยสารที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.จะเป็นปัจจัยหนุนกำไรของ AOT ให้เติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ สำหรับในช่วงเวลาดังกล่าว เราคาดว่ากำไรหลักจะทำสถิติสูงสุดรอบใหม่ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุน ให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้จำนวนผู้โดยสารตั้งแต่เดือนเม.ย.จนถึงปัจจุบันก็เติบโต YoY ต่อเนื่อง ราคาหุ้น AOT ในปัจจุบันที่ปรับตัวด้อยกว่าตลาดได้สะท้อนถึงความกังวลต่อค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเช่าทรัพย์สินของรัฐไปแล้ว โดยปัจจุบันซื้อขายกันอยู่ที่ค่า PBV/ROE ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2560 ที่ 0.27 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยภูมิภาค โดยที่ผ่านมาปกติหุ้นของบริษัทจะซื้อขายอยู่ ในระดับพรีเมี่ยมจากค่าเฉลี่ยภูมิภาค


แนวโน้มกำไรเติบโตดีในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.

เราคาด AOT จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 (ม.ค.-มี.ค.) ที่ 5,883 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY และ 16% QoQ เราประมาณการกำไรหลักทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 5,883 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% YoY และ 20% QoQ โดยมีปัจจัยหนุนการเติบโตดังนี้ 1) จำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น, 2) จำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น, 3) รายได้ที่ไม่ใช่ธุรกิจการบินที่สูงขึ้น (รายได้จากค่าเช่า, รายได้จากค่าบริการ และรายได้จากค่าสัมปทาน), 4) ค่าเสื่อมราคาที่ปรับตัวลดลง (เนื่องจากสิ้นสุดอายุการใช้งานของสินทรัพย์บางรายการ) และ 5) ภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง เนื่องจากสินเชื่อคงค้างที่ลดลง (รายละเอียดในรูปประกอบที่ 1 และ 2) จำนวนผู้โดยสารรวมขยายตัวขึ้น 7.9% YoY และ 13.6% QoQ มาอยู่ที่ 34.5 ล้านคนในไตรมาสนี้ โดยมีการเติบโตของผู้โดยสารมาจากทั้งผู้โดยสารระหว่างประเทศ (เพิ่มขึ้น 4.9% YoY และ 18.6% QoQ มาอยู่ที่ 19.6 ล้านคน) และผู้โดยสารภายในประเทศ (เพิ่มขึ้น 12.2% YoY และ 8.0% QoQ มาอยู่ที่ 15.3 ล้านคน)

คาดกำไรหลักเติบโตแข็งแกร่ง YoY ในไตรมาสหน้า

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง YoY ในเดือนเม.ย.จนถึงปัจจุบัน โดยเพิ่มขึ้น 3.1% YoY มาอยู่ที่ 1.5 ล้านคนในระหว่างวันที่ 1-17 เม.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าการเติบโตในช่วงเดือน ม.ค-มี.ค ที่ 1.6% YoY (18.3% QoQ) (รูปประกอบที่ 3) นอกจากนี้จากข้อมูลสถิติของ AOT ในเบื้องต้นระบุว่าจำนวนผู้โดยสารรวมขยายตัว 9.0% YoY ในระหว่างวันที่ 1-24 เม.ย. โดยมาจากทั้งการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศ (เพิ่มขึ้น 7.7% YoY) และ ผู้โดยสารภายในประเทศ (เพิ่มขึ้น 10.8% YoY) ดังนั้นเราคาดว่ากำไรหลักของ AOT จะขยายตัว YoY ในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. อย่างไรก็ตามกำไรหลักของไตรมาสดังกล่าวคาดว่าจะปรับตัวลดลง QoQ เนื่องจากโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย


ปรับลดประมาณการกำไรเล็กน้อย จากต้นทุนค่าเช่าทรัพย์สินของรัฐที่อาจปรับตัวเพิ่มขึ้น

จากการที่เราคาดการณ์ว่า AOT จะบันทึกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเช่าทรัพย์สินของรัฐอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาทต่อปีให้แก่กรมธนารักษ์โดยเริ่มในปี 2560 เป็นต้นไป ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 ลดลง 1% มาอยู่ที่ 20,764 ล้านบาทและปรับประมาณการกำไรสุทธิในระยะยาวลดลง 2% บนสมมติฐานชิงอนุรักษ์นิยมว่า AOT ไม่สามารถปรับขึ้นค่า
เช่ากับลูกค้าได้ เราปรับลดราคาเป้าหมาย (ตามวิธิคิดลดกระแสเงินสด) จาก 49 บาทมาอยู่ที่ 48 บาท อย่างไรก็ตาม AOT และกรมธนารักษ์ยังคงอยู่ในระหว่างการเจรจาอัตราส่วนแบ่งรายได้และ/หรือวิธีการคำนวณผลตอบแทน ใหม่สำหรับการเช่าทรัพย์สินของรัฐ ดังนั้นสมมติฐานของเราในเรื่องของ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเช่าทรัพย์สินของรัฐอาจเปลี่ยนแปลงได้