รวบแล้ว!! ฆาตรกรฆ่าหนุ่มหล่อเผาฝังดินชัยภูมิ-ปิดเขาล่าอีก1

รวบแล้ว!! ฆาตรกรฆ่าหนุ่มหล่อเผาฝังดินชัยภูมิ-ปิดเขาล่าอีก1

ตร.ชัยภูมิ ตามรวบฆาตรกรสองพี่น้อง ลงมือฆ่าชิงทรัพย์หนุ่มหล่อก่อนอุ้มไปเผา และฝังในป่าหลังวัดดังรวบได้แล้ว 1 เร่งปิดล้อมเขาไล่ล่าอีกราย คาดได้ตัวในเร็วๆนี้

พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชย. ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.วิรัช เบ้าคำ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ หัวหน้าคุมทีมชุดสืบสวนคลี่คลายคดีว่าจากการตรวจสอบในเชิงลึกหลังติดตามผู้ต้องสงสัยเพื่อนชายของนายนิรันดร์ สร้อยสูงเนิน อายุ 25 ปีอยู่บ้านเลขที่ 82/2หมู่ที่ 2 บ้านท่าแก ตำบลลุ่มลำชี อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ

คือนายปรีชา ชาวอ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา ที่มีภาพอยู่ในกล้องวงจรปิดของรีสอร์ทแห่งหนึ่งก่อนผู้ตายหายตัวไปยืนยันความบริสุทธิใจต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด หลังได้แยกจากผู้ตายมาตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 8 เม.ย.60 แล้ว ก่อนที่ผู้ตายจะหายตัวลึกลับไม่เดินทางกลับบ้านจนมากลายเป็นศพดังกล่าว

ล่าสุดทางจนท.พบว่ามีสัญญาณโทรศัพท์จากเพื่อนชายคนสนิทของนายนิรันดร์อีกรายที่โทร.ติดต่อเข้าเครื่องนายนิรันดร์ผู้ตายตลอดเวลาที่นายนิรันดร์ขับรถออกจากกรุงเทพฯจนถึงในเขต ต.หนองบัวโคก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เป็นครั้งสุดท้ายที่ติดต่อได้และจากการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุลงมือฆ่านายนิรันดร์ สร้อยสูงเนิน มีด้วยกันรวม 2 ราย คือนายวัชระหรือน๊อต สาแก้ว อายุ 22ปี และนายสาธิต อายุ 18 ปี ที่ไปหลบอาศัยอยู่ในหมู่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านท่าหินโงม ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายวัชระหรือน๊อต สาแก้ว อายุ 22ปี พี่ชายได้ที่หอพักแม่ปราณี ตั้งอยู่ใกล้บริเวณศาลเจ้าพ่อพระยาแล ต.ในเมืองชัยภูมิ ที่ยอมรับว่าเป็นคนนำศพไปฝังส่วนคนลงมือฆ่าคือนายสาธิตที่อยู่ระหว่างหลบหนีไปอยู่ที่ใดยังไม่ทราบ และนายวัชระ สาแก้ว ได้ขับรถคันของผู้ตายไปตะเวนไปขายตามเต็นท์รถมือสองในเมืองชัยภูมิแต่ไม่มีใครซื้อเพราะรถไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน ต่อมาจึงขับหลบหนี กลับไปบ้านพักของพ่อแม่ที่อยู่บนเทือกเขาภูแลนคา ในเขต ต.ท่าหินโงม อ.เมืองชัยภูมิ

ขณะนี้พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชย.ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตติดต่อสภ.ชัยภูมิประกอบไปด้วย สภ.เกษตรสมบูรณ์และสภ.ก้งคร้อ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวสจกว่า100นายปูพรหมออกตามจับกุมตัวนายสาธิตอายุ 18ปี เป็นการด่วนแล้ว

ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกจับในคดีชิงทรัพย์ที่ ในเขตพื้นที่ สภ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ในปี2555และมาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ที่เขตพื้นสน.อุดมสุข กรุงเทพฯ

และล่าสุดนายนายวัชระหรือน๊อต สาแก้ว อายุ 22ปีพี่ชาย ให้การรับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุนายสาธิต สาแก้ว อายุ 18ปีและนายนายวัชระหรือน๊อต สาแก้ว อายุ 22ปีสองพี่น้อง ได้รับโทรศัพท์จากนายนิรันดร์ผู้ตาย ว่าจะมาหาที่ ผับดังในตัวเมืองชัยภูมิ ในวันที่ 8 เมษายน 2560เวลา 21.00น.โดยทั้งสองได้ชวนกันไปดื่มกินเหล้าจนเมาได้ที่แล้วจึงชักชวนกันมาหลับนอนที่หอพักแห่งหนึ่งตั้งอยู่ด้านข้างศาลเจ้าพ่อพระยาแล ต.ในเมือง จ.ชัยภูมิ

ต่อมาทั้งสองได้วางแผนกันฆ่านายนิรันดร์เพื่อชิงทรัพย์เอาโทรศัพท์มือถือเงินสดและรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ มิลาจ สีขาว ทะเบียน 3กท-4210 กทม.โดยนายวัชระพี่ชายได้จับนายนิรันดร์ไว้แล้วให้นายสาธิต น้องชายลงมือใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงนายนิรันดร์จนขาดใจตายภายในหอพักและได้นำผ้าห่มสีแดงมาห่อศพขึ้นรถโดยให้นายวัชระพี่ชายได้ไปหาจอบและเสียม มาและขับรถบรรทุกศพขับมุ่งหน้าไปยังป่ายูคาท้ายหมู่บ้านหลังวัดบ้านโสกตลับ ต.โคกสูง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เมื่อถึงป่าฯได้ทำการขุดหลุมฝังศพพร้อมป้ายทะเบียนหลักฐานต่างแล้วจุดไฟเผาเพื่อทำลายหลักฐานแล้วขุดดินกลบแล้วพากันเดินทางกลับมานอนที่หอพัก

หลังรุ่งเช้านายสาธิต ได้ขับรถเก๋งของนายนิรันดร์ฯไปตะเวนขายตามเต็นท์รถมือสองและตามบ้านเพื่อนฝูงในหมู่บ้านท่าหินโงม แต่ไม่มีใครซื้อหลังจากนั้นนายสาธิต สาแก้ว อายุ 18ปีได้ขับรถคันดังกล่าวหลบหนีขึ้นไปในไร่บนเทือกเขาภูแลนคา ที่เป็นเขตติดต่อ 3 อำเภอคืออ.เมือง อ.เกษตรสมบูรณ์และอ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจัดกำลังออกไล่ล่าคาดว่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน

ด้านพ.ต.อ.ไชยยุทธ วงค์โคกสูง ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ได้สั่งการให้พ.ต.ท.ณัฐพล กิ้งโชค รอง.ผกก.หน.พนักงานสอบสวนได้เร่งสอบพยาน รวมถึงหาหลักฐานต่างๆ จากกล้องวงจรปิดในผับดังแห่งหนึ่งในเมืองชัยภูมิ และสอบสวนพยาน รวมถึงหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ ที่มีความชัดเจนหลายจุด ตำรวจจึงได้รวบรวมหลักฐานเสนอขออนุมัติศาลจังหวัดชัยภูมิเพื่อขออนุมัติขอออกหมายจับ นายสาธิต ผู้ต้องหาที่เหลืออีก1คน ในข้อหากระทำความผิดฐาน ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตาย หรือเหตุแห่งการตายและฆ่าชิงทรัพย์ โดยมีอายุความ เป็นเวลา 15 ปี สำหรับพยานหลักฐาน ที่มีการเก็บรวบรวมในที่เกิดเหตุ รวมถึงพยานสำคัญที่เกี่ยวข้อง มีความเชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักพอที่จะเอาผิดผู้ต้องหาทั้ง2คน โดยเร็วต่อไป

ด้านนางบัวลี สร้อยสูงเนิน แม่ผู้ตาย ได้นำพระและญาติพี่น้องมาทำพิธีจุดธุปบวงสรวง ดวงวิญญานายนิรันดร์ผู้ตาย ได้ดลบันดาลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว พร้อมได้ออกมาเปิดใจว่า ตนมีลูกทั้งหมด 2 คน คนเสียชีวิตเป็นลุกคนสุดท้องที่ เป็นความหวังของครอบครัว เพราะเป็นคนเดียวที่ได้รับการศึกษาสูงกว่าลูกๆทั้งหมด ซึ่งปกติลูกชายตนจะเป็นคนร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นที่รักของญาติพี่น้อง และเพิ่งจบการศึกษารับปริญาตรีหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ และเตรียมตัวทำพาสปอตร์จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ และยืนยันว่าลูกชายไม่เคยมีปัญหาหรือไปทะเลาะกับใครมาก่อน เชื่อว่าต้องเป็นคนใกล้ตัวที่ทำร้าย มาถึงวันนี้สูญเสียทุกอย่าง สูญเสียเสาหลักครอบครัว อยากให้ตำรวจเอาผิดคนร้ายให้ได้ ตนคาใจที่สุดอยากถามว่า ฆ่าลูกชายตนทำไม มีอะไรถึงต้องฆ่ากันโหดแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครตนไม่ขออาฆาต หรือจองเวร แต่ตนขอให้ไปรับกรรมจากการกระทำโดดยเร็วด้วย