SCC - ซื้อ

SCC - ซื้อ

กำไรไตรมาส 1/60 ทำจุดสูงสุดใหม่

ประเด็นการลงทุน

เราได้ปรับประมาณการกำไรปี 2560 ขึ้น 7% เป็น 6.06 หมื่นล้านบาท เพื่อสะท้อนกำไรพิเศษและค่าเสื่อมราคาที่ลดลง (เนื่องจากมีการขยายอายุสินทรัพย์) ที่หนุนกำไรสุทธิไตรมาส 1/60 ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ อย่างไรก็ตาม ราคาเป้าหมายปี 2560 ของเรายังไม่เปลี่ยนแปลงที่ 620 บาทเนื่องจากปัจจัย ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดจาการดำเนินงาน ทั้งนี้ปัจจุบัน SCC ซื้อขายในราคาที่ค่อนข้างถูก โดยมี PER ปี 2560 10.9 เท่า (เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 12.6 เท่า) และบริษัทยังจ่ายเงินปันผลในอัตราที่น่าดึงดูดที่ 3.8%


กำไรไตรมาส 1/60 สูงกว่าที่เราและตลาดคาด

SCC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/60 ที่ 1.74 หมื่นล้านบาท สูงขึ้น 29% YoY และ 39% QoQ ผลประกอบการดีกว่าที่เราและตลาดคาด 29% เนื่องจากกำไรจากธุรกิจปิโตรเคมีสูงกว่าคาด และมีกำไรพิเศษหลังหักภาษี 1.4 พันล้านบาท จากการขายหุ้น PTTGC และ 500 ล้านบาทจากการขายที่ดินและทรัพย์สินของ TUP หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักอยู่ที่ 1.46 หมื่นล้านบาท สูงขึ้น 10% YoY และ 25% QoQ ทั้งนี้กำไรเติบโต YoY หลักๆเนื่องจากธุรกิจปิโตรเคมีที่ดีมาก ซึ่งชดเชยการดำเนินงานของธุรกิจซีเมนต์ที่ชะลอตัว ขณะที่กำไรเติบโต QoQ มาจากฤดูการของธุรกิจซีเมนต์, อัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นของโรง ROC หลังปิดซ่อมบำรุงในไตรมาส 4/59, และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในกลุ่มปิโตรเคมีที่แข็งแกร่ง ดูรายละเอียดได้ในรูป 2


ธุรกิจปิโตรเคมีจะหนุนการเติบโตในปีนี้ต่อเนื่อง

ธุรกิจปิโตรเคมีแข็งแกร่งกว่าที่บริษัทและตลาดคาด แม้จะดูเหมือนถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่ยังมีโอกาสที่ส่วนต่างราคา PP จะขยายตัว ก่อนที่อุปทาน PP ใหม่จะเข้ามาอย่างล้นหลามในปี 2558 ส่วนต่างราคา PP เทียบกับแนฟทา กว้างกว่าส่วนต่างราคา HDPE เทียบกับแนฟทาเฉลี่ยประมาณ 50 เหรียญสหรัฐต่อตัน แต่ในไตรมาส 1/60 ช่องดังกล่าวต่ำกว่าอดีต 16 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากความกังวลต่ออุปทานใหม่ที่คลี่คลาย เราเชื่อว่าส่วนต่างราคา PP จะกลับมาสูงอีกครั้ง


อุปสงค์ซีเมนต์ยังคงอ่อนตัว

ความต้องการซีเมนต์ในประเทศชะลอตัวมากกว่าที่บริษัทและตลาดคาดอุปสงค์ลดลง 7% YoY ในไตรมาส 1/60 ส่วนหนึ่งมาจากมีเหตุการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ ซึ่งทำให้อุปสงค์ในพื้นที่ลดลง 20% YoY ซ้ำร้ายกว่านั้นคือการซ่อมแซมหลังเหตุการณ์น้ำท่วมมีน้อยมาก เมื่อแยกรายกลุ่มพบว่าอุปสงค์กลุ่มที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ยังลดลงต่อเนื่อง 9% และ 7% YoY ตามลำดับ อีกทั้งไตรมาสนี้เป็นไตรมาสแรกที่เห็นอุปสงค์ซีเมนต์จากโครงการภาครัฐฯลดลง (ลดลง 4% YoY) เนื่องจากโครงการใหม่ยังไม่เริ่มก่อสร้างอุปสงค์ที่อ่อนตัวส่งผลให้ราคา
ซีเมนต์ลดลง 8% YoY ในไตรมาส 1/60 ทั้งนี้ SCC คาดอุปสงค์จะลดลงต่อเนื่องในไตรมาส 2/60 แต่บริษัทเชื่อว่าอุปสงค์ที่เติบโตในครึ่งหลังปี 2560 จะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะหนุนให้การเติบโตทั้งปีมาอยู่ในแดนบวกเล็กน้อย

กำไรสูงขึ้นเนื่องจากมีการยืดอายุสินทรัพย์

SCC ได้ทบทวนอายุใช้งานและค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ หลักๆในธุรกิจซีเมนต์และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ การทบทวนดังกล่าวจัดทำโดยทีมงานภายในและบริษัทอิสระ โดยพบว่าสินทรัพย์บางอย่างมีอายุการใช้งานเหลือมากว่าที่ได้ประเมินทางบัญชี ส่งผลให้มีค่าเสื่อมราคาลดลง 1.88 พันล้านบาท