ตร.รู้ตัวกลุ่มวัยรุ่นข่มขืนสาว 18 สงกรานต์ถนนข้าวตังแล้ว

ความคืบหน้ากรณี นางสาว เอ(นามสมมุติ) อายุ18ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 6-7 คน มาตีสนิทขณะเล่นน้ำสงกรานต์บริเวณถนนข้าวตัง อำเภอเมือง พิจิตร จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวมาลวนลามและฉุดกระชากลากขึ้นรถยนต์กระบะ 4 ประตู และมีวัยรุ่น 1 คนในกลุ่มข่มขืน ตามคำให้การของผู้เสียหาย ที่ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจเมืองพิจิตร ไว้ เมื่อคืนวันที่15เมษายน2560นั้น

ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร พลตำรวจตรีจรวย ผลประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามงาน ถึงความคืบหน้าของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งรวมถึงคดีของสาว18ที่เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกข่มขืนจากวัยรุ่น ขณะเล่นสงกรานต์ที่ถนนข้าวตังในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีการรายงานผลการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะนี้ทราบแล้วว่ากลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มไหน แต่ยังไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปได้เนื่องจากผู้เสียหายยังไม่สามารถยืนยันตัวผู้กระทำความผิดได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องสืบสวนสอบสวนเพื่อเติมเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

พันตำรวจเอกธวัชชัย มวญนรา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ซึ่งรับผิดชอบการติดตามคดี กล่าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก เราพอจะทราบแล้วว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ใด มีใครบ้าง และชื่ออะไรบ้าง แต่ขออภัยที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตัวผู้กระทำความผิด เนื่องจากอุปสัคสำคัญคือ ผู้เสียหายไม่สามารถที่จะจำผู้ก่อเหตุได้ อาจจะด้วยความมืด หรือตกใจก็ตาม

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ ตำรวจกำลังเร่งติดตามจับกุมเนื่องจากหลังก่อเหตุกลุ่มวัยรุ่นซึ่งก่อเหตุได้หลบหนีออกจากบ้าน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว เป็นสิ่งที่ส่อเค้าว่ากลุ่มวัยรุ่นที่หลบหนีก่อเหตุดังกล่าวจริง ส่วนจะเป็นการข่มขืนตามที่ผู้เสียหายแจ้งความหรือไม่ต้องมีการสืบสอบสวนอย่างละเอียดหลังจากติดตามจับกุม แต่อย่างไรก็ตามเราแจ้งข้อหาในข้อหา ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงที่ไม่ใช้ภรรยาตนกับผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 

ขณะที่กุญแจสำคัญของการรวบรวมพยานหลักฐานคือรถกระบะ2ตอน4ประตู ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแม็ค สีดำเทา ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน คาดว่าอายุรถไม่เกิน5ปี ซึ่งจะใช้เป็นพยานหลักฐานสำคัญในการมัดผู้กระทำความผิด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือสำนักขนส่งจังหวัดพิจิตร เพื่อตรวจสอบหาข้อมูล เจ้าของรถ โดยขณะนี้ทำการคัดกรองรถต้องสงสัยที่มีลักษณะใกล้เคียงกับรถคันก่อเหตุว่ามีใครเป็นผู้ครอบครอง และวันเกิดเหตุใครเป็นผู้ใช้รถคันดังกล่าวเพื่อเป็นข้อมูลในการคี่คลายคดีต่อไป