พายุโหดพัดถล่มพระธาตุพนม ต้นตาลล้มทับแม่ลูกดับ

พายุโหดพัดถล่มพระธาตุพนม ต้นตาลล้มทับแม่ลูกดับ

พายุฤดูร้อนโหด พัดต้นตาลในวัดพระธาตุพนม หักโค่นล้มทับ 2 แม่ลูกเสียชีวิตคาที่

เวลา 15.30 น. วันที่ 24 เมษายน 60 ร.ต.อ.ณัชพล ดวงกางกอ พนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้รับแจ้งจากพระครูพนม ปรีชากร เลขานุการวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารว่า เกิดพายุฝนตกหนัก ลมพัดกระหน่ำแรง เป็นเหตุให้ต้นตาลที่มีอายุกว่า 100 ปี ขนาดหนึ่งคนโอบ สูงประมาณ 22 เมตร ซึ่งอยู่ทางด้านทิศใต้ภายในวัดหักโค่นล้มทับสองแม่ลูกที่เป็นช่างภาพรับถ่ายภาพมานานกว่า 10 ปีเสียชีวิตทั้งคู่

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยนาวาธาตุพนม และเจ้าหน้าที่ทหารเร่งนำเครื่องตัดถ่าง ตัดซากใบต้นตาลออก นำร่างสองแม่ลูกออกมาอย่างทุลักทุเล ทราบชื่อว่าชื่อ นางนิภาพร อนุ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 47 หมู่ 7 บ้านดอนกลาง ต.ธาตุพนม และ นายพิชญ์ อนุ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 1/1042 หมู่ 5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทั้งสองป็นแม่ลูกกัน สภาพศพถูกต้นตาลฟาดบริเวณศีรษะและตามร่างกาย แขนขาหักหลายท่อน จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม

เบื้องต้นช่วงบ่ายมีก้อนเมฆดำทะมึนเต็มท้องฟ้า พร้อมลมพายุฤดูร้อนกรรโชกแรง ประชาชนที่มากราบไหว้องค์พระธาตุพนมและพ่อค้าแม่ค้าภายในวัดพระธาตุพนม ต่างวิ่งหนีกันอลหม่านเข้าที่กำบังตามบริเวณต่างๆ สองแม่ลูกไปหลบในเต็นท์เป็นแผงร้านค้าที่สร้างขึ้นอย่างง่าย ๆ ซึ่งอยู่ใกล้กับต้นตาลอายุกว่าร้อยปี โดยขณะนั้นนายพิชญ์ผู้เป็นลูกกำลังนั่งปริ้นท์รูปถ่ายให้นักท่องเที่ยว ส่วนนางนิภาพรผู้เป็นแม่ก็สาละวนกับงานถ่ายภาพที่ค้างอยู่ในกล้อง ไม่มีใครคาดคิดต้นตาลดังกล่าว ต้านทานแรงลมพายุไม่ไหวจึงหักโค่นล้มทับสองแม่ลูกที่อยู่ใต้เต็นท์เป็นเหตุให้เสียชีวิตทั้งคู่ ทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการตายจึงมอบศพไปบำเพ็ญกุลพิธีทางศาสนาต่อไป

พายุโหดพัดถล่มพระธาตุพนม ต้นตาลล้มทับแม่ลูกดับ