'ทวิช' สุดทน! ฟ้อง 'หมอวิชัย' เพิ่ม 2 คดี

'ทวิช' สุดทน! ฟ้อง 'หมอวิชัย' เพิ่ม 2 คดี

ผู้ถือหุ้นใหญ่ IFEC ฟ้องอาญา "หมอวิชัย" เพิ่มอีก 2 คดี ศาลนัดไต่สวน 6 พ.ย.นี้ สุดทน! ลุแก่อำนาจ เจตนาไม่สุจริต ทำผิดกฎหมายต่อเนื่อง ลั่นจะดำเนินคดีจนถึงที่

นายทวิช เตชะนาวากุล ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) เปิดเผยว่าได้มอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้อง นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IFEC ต่อศาลอาญา รวม 2 คดี เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา โดยคดีแรกเป็นคดีที่นายวิชัย ในฐานะประธานกรรมการ IFEC ทำผิดหน้าที่กรรมการ คือการไม่จัดประชุมผู้ถือหุ้นภายในหนึ่งเดือนนับตั้งแต่วันที่กรรมการ IFEC ลาออกจนองค์ประชุมคณะกรรมการไม่ครบ และเมื่อกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้น ได้กำหนดวาระประชุมโดยผิดกฎหมาย อีกทั้งกีดกันผู้ถือหุ้นในการเสนอชื่อเพื่อเป็นกรรมการ ทำให้การประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 25 มกราคม 2560 ทั้งที่ผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติรายชื่อบุคคลที่นายวิชัยเสนอให้เป็นกรรมการ จึงไม่สามารถแต่งตั้งกรรมการเพิ่มให้ครบองค์ประชุมได้ ทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทและผู้ถือหุ้น จนต้องนัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นอีกครั้งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 นายวิชัยซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้กำหนดวิธีการลงคะแนนโดยผิดกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท เพราะข้อบังคับของบริษัทกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้น 1 หุ้นมีสิทธิเท่ากับ 1 เสียง (One Man One Vote) แต่กลับกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่ถือ 1 หุ้นมีสิทธิออกเสียง 7 เสียง (Cumulative Vote) เป้าหมายเพื่อเทคะแนนให้กับบุคคลที่ฝ่ายนายวิชัยเสนอชื่อบางคน จนทำให้คนที่นายวิชัย เสนอมาได้คะแนนเสียงสูงสุดใน 2 ลำดับแรก

“นายวิชัยอาศัยคะแนนเสียงที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย กำหนดให้กรรมการในฝั่งของผม 3 คนครบวาระการดำรงตำแหน่ง แล้วเร่งรีบจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี เพื่อเลือกกรรมการทดแทนกรรมการในฝั่งของผม จนผมต้องร้องเรียนต่อสำนักงาน ก.ล.ต.ว่า การประชุมคณะกรรมการ IFEC ที่จัดขึ้นวันที่ 15 มีนาคม 2560 และวันที่ 29 มีนาคม 2560 เป็นการประชุมที่ผิดกฎหมาย ทำให้นายวิชัยต้องจัดประชุมคณะกรรมการใหม่ในวันที่ 10 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา” นายทวิชกล่าว

ส่วนคดีที่สองเป็นกรณีที่ บริษัท อีสต์โคสท์ เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) เปิดเผยข้อมูลสารสนเทศผ่านตลาดหลักทรัพย์ กรณี ECF ให้ IFEC กู้ยืมเงินระยะสั้น โดย IFEC นำหุ้น IFEC-T หรือ บริษัท ไอเฟค เทอมอล จำกัด 5,000,000 หุ้นไปจำนำ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559 ทั้งที่ในวันที่ 26 ธันวาคม 2559 IFEC มีกรรมการเหลืออยู่เพียง 4 คน ไม่ครบเป็นองค์ประชุม ซึ่วกรรมการที่เหลืออยู่ไม่มีอำนาจที่จะบริหารจัดการธุรกรรมต่างๆ ในนามคณะกรรมการได้ โดยศาลอาญารับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.1202/2560 ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 6 พฤศจิกายน 2560

“การเดินหน้าฟ้องนายวิชัย ในครั้งนี้ ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกคน เพราะที่ผ่านมานายวิชัยมีเจตนาที่ไม่สุจริต ทำผิดกฎหมายมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นทำผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ หรือพ.ร.บ.มหาชน เพียงเพื่อรักษาตำแหน่งของตน ทั้งที่สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ออกมาท้วงติงโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบริษัทและผู้ถือหุ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้ในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบี/อี หรือ การนำหุ้น ICAP มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ไปค้ำประกันหนี้ตั๋วบี/อี มูลค่า 100 ล้านบาท แล้วปล่อยให้ผิดนัดชำระหนี้ การแอบไปทำสัญญาขายโรงไฟฟ้าชีวมวลให้ ECF ซึ่งจริงๆ แล้วผู้ซื้อต้องเป็นคนเอาเงินมาวางมัดจำ IFEC แต่นายวิชัยกลับทำสัญญากู้ระยะสั้นกับผู้ซื้อ และต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ซื้อ หากไม่เป็นไปตามข้อตกลง มันเป็นอะไรที่ประหลาด และน่าหดหู่มาก ทำไมนายวิชัยถึงลุแก่อำนาจ และกล้าทำได้ถึงเพียงนี้ ฉะนั้นเพื่อหยุดการสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับ IFEC และผู้ถือหุ้นผมต้องเดินหน้าดำเนินคดีกับนายวิชัย ให้ถึงที่สุด”นายทวิชกล่าว

นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ IFEC ยังย้ำว่าการดำเนินการฟ้องร้องนายวิชัยในครั้งนี้ เพื่อให้นายวิชัยดำเนินการจัดประชุมผู้ถือหุ้นให้ถูกต้องตามมาตรฐาน และตามกฎข้อบังคับของบริษัทอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในการประชุมที่จะเกิดขึ้นในคราวต่อๆไป