ผบก.ป.ชี้ 'ซินแสโชกุน' ตัวการใหญ่สุด ตัดนายทุนฮ่องกงออกแล้ว

ผบก.ป.ชี้ 'ซินแสโชกุน' ตัวการใหญ่สุด ตัดนายทุนฮ่องกงออกแล้ว

ผู้การกองปราบ ชี้ "ซินแสโชกุน" เป็นตัวการใหญ่สุด ตัดนายทุนฮ่องกงออกแล้ว เหตุไม่พบข้อมูลกล่าวอ้างเชื่อมโยง เผย8ผู้ต้องหาโดนเพิ่ม2ข้อหา

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 เมษายน 2560 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท. และเจ้าหน้าที่คอมมานโดกองปราบปราม นำตัว นางมณฑญาณ์ นิรันดร หรือ จันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ อายุ 55 ปี เป็นแม่ของซินแสโชกุน นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 22 ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องกับซินแสโชกุน น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ อายุ 35 ปี หญิงสาวคนสนิทของซินแสโชกุล นางประนอม พลานุสนธิ์ อายุ 40 ปี เลขาฯซินแสโชกุน นางณิชมน แสงประภา อายุ 64 ปี ป้าซินแสโชกุน(แม่ก้องศรัณย์) นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 35 ปี น.ส.สุดารัตน์ อเนกนวล อายุ 25 ปี และ นายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 951-958/2560 ลงวันที่ 17 เมษายน 2560 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และเป็นซ่องโจรฯ ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ร่วมขบวนการซินแสโชกุน ไปทำการขออำนาจศาลอาญารัชดา ฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน โดยทั้งหมดทางพนักงานสอบสวนได้ทำการคัดค้านการให้ประกันตัว

พล.ต.ต.สุทิน กล่าวว่า วันนี้ (20 เม.ย.) ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ที่ร่วมขบวนการซินแสโชกุนไปทำการขออำนาจศาลอาญารัชดา ฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน โดยเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำการคัดค้านการให้ประกัน เนื่องจากคดีนี้มีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก และมีผู้เสียหายจำนวนมาก เกรงว่าหากได้รับการประกันตัว กลุ่มผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน นอกจากนื้ทางคณะพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มกับซินแสโชกุนพร้อมพวกอีก 8 ราย ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

พล.ต.ต.สุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของความคืบหน้าคดี จากการสืบสวนยังไม่พบความเชื่อมโยงกับนักธุรกิจชาวฮ่องกง ที่ทางซินแสโชกุนแอบอ้าง ซึ่งไม่ทราบว่านักธุรกิจชาวฮ่องกงรายนี้มีตัวตนหรือไม่ หรือเป็นเพียงการกล่าวอ้างของผู้ต้องหา ทำให้ตอนนี้ซินแสโชกุนเป็นหัวหน้าขบวนการดังกล่าวที่ใหญ่ที่สุด โดยในวันพรุ่งนี้(21 เม.ย.) เวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าคณะสืบสวนสอบสวน จะเรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี รวมทั้งทาง ปปง. นำรายละเอียดเส้นทางการเงินของขบวนการนี้เพื่อที่จะนำมาสรุปว่ามีใครเชื่อมโยงอีกบ้าง ซึ่งเชื่อว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการที่เหลืออยู่

“ในส่วนของแม่ข่ายก็อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเป็นรายบุคคลว่ามีใครบ้าง ที่เข้าข่ายในการกระทำความผิด ซึ่งทางคณะทำงานมีเกณฑ์ในการพิจารณาอยู่แล้ว ท้ายที่สุดอยากจะฝากไปยังพี่น้องประชาชน ว่า ปัจจุบันมีรูปแบบกลโกง การฉ้อโกงเป็นจำนวนมาก จึงขอเตือนว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ไม่มีของดีในราคาถูก ขอให้มีสติอย่าตกเป็นเหยื่อของขบวนการต่างๆเหล่านี้” ผบก.ป. กล่าว