ไทยวางเป้าจัดมหกรรมกีฬาต่อเนื่อง

ไทยวางเป้าจัดมหกรรมกีฬาต่อเนื่อง

“บิ๊กเสือ” สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการกกท. ระบุ ไทยมีศักยภาพจัดมหกรรมกีฬาในอนาคตอย่างต่อเนื่อง ทั้งเวิลด์บีชเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ และเอเชี่ยนอินดอร์มาร์เชียลอาร์ตเกมส์

     “บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ ประเทศไทย ได้สิทธิเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ หรือ สปอร์ต แอคคอร์ด คอนเวชั่น 2018 ระหว่างวันที่ 15-20 เม.ย.2561 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ราชประสงค์ ซึ่งเป็นงานใหญ่ ที่จะมีผู้บริหาร ประธานสหพันธ์กีฬา ผู้เกี่ยวข้อง ผู้ติดตามจากทั่วโลก ไม่ต่ำกว่า 5,000 คน เดินทางมายังประเทศไทย สร้างความคึกคักทางธุรกิจ อุตสาหกรรมกีฬา เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับกีฬา สร้างศักยภาพให้สมาคมกีฬาของไทย ที่จะได้ประสานงานกับสหพันธ์กีฬาของตนเองอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เกิดการใช้จ่าย มีเงินหมุนเวียน กระตุ้นการท่องเที่ยว ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้  หากไทยได้รับเลือก ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก โมโต จีพี ในปีหน้า ก็จะทำให้ไทย เป็นเจ้าภาพกีฬาระดับยักษ์ใหญ่ของโลก  หมายถึงศักยภาพของวงการกีฬาไทยดีขึ้นตามลำดับ 

    “แน่นอนว่า แนวคิดที่จะจัดกีฬาใหญ่ ๆ รายการระดับนานาชาติในไทย ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะการจัดเกมกีฬาระดับนี้ ส่งผลดีหลายด้าน อย่างมหกรรมกีฬาเราก็ให้ความสนใจ ในอนาคตอันใกล้ ก็มองไปที่ เวิลด์บีชเกมส์ รวมถึงเอเชี่ยนเกมส์ และเอเชียนอินดอร์มาเชียลอาร์ตเกมส์ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าคิดจะจัดก็ได้จัดเลย ต้องอาศัยเวลา และนับจากนี้จำเป็นต้องประสานกับ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เพื่อขอข้อมูลความเป็นไปได้ พร้อม ๆ กับศึกษารายละเอียดให้รอบด้านมากที่สุด คำนึงถึงผลดีผลเสีย งบประมาณที่ต้องใช้ ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ให้รอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าควรจะเดินหน้าหรือไม่” นายสกล กล่าว 

    นอกจากนี้ ผู้ว่าการกกท. ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าแนวทางการก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ (เอ็นทีซี ) ภายในสนามกีฬาหัวหมาก ว่า ในตอนนี้มีการศึกษาความเป็นไปได้ ด้วยการตั้งคณะทำงาน พร้อมกับให้สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ศึกษาข้อมูล ทั้งความเป็นไปได้ ความเหมาะสม คุ้มค่า และรูปแบบของอาคาร ว่าควรเป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อมีข้อมูลที่พร้อมแล้ว กกท. ก็จะได้นำเสนอให้คณะรัฐมนตรี รับทราบเพื่อพิจารณาต่อไป