ขนส่งกาฬสินธุ์ตรวจเข้มรถโดยสารสาธารณะ

ขนส่งกาฬสินธุ์ตรวจเข้มรถโดยสารสาธารณะ

ผู้ตรวจราชการกรมการขนส่งทางบกเขต 11 และ 12 ลงพื้นที่สุ่มตรวจเข้มรถโดยสารธารณะในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์

นายสุทธิพงษ์ เตชะภูสิทธิพงศ์ ผู้ตรวจราชการกรมการขนส่งทางบกเขต 11 และเขต 12นายชีพ น้อมเศียร ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าตรวจเยี่ยมศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะจังหวัดกาฬสินธุ์และจุดตรวจความพร้อมของตัวรถและพนักงานขับรถสาธารณะภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมเข้าสุ่มตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และสารเสพติดในตัวคนขับ อีกทั้งยังเข้าตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะ โดยเน้นการตรวจสอบความปลอดภัยของรถ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนดและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560

 นายสุทธิพงษ์ เตชะภูสิทธิพงศ์ ผู้ตรวจราชการกรมการขนส่งทางบกเขต 11 และเขต 12 กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 นี้ทางกรมขนส่งทางบกได้มีนโยบายและมาตรการตรวจความปลอดภัยในการเดินทาง โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มวัดแอลกอฮอล์ สารเสพติด ตรวจความพร้อมของตัวรถ และความปลอดภัยในตัวรถ อีกทั้งยังได้ร่วมกับสถาบันอาชีวะศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะจังหวัดกาฬสินธุ์และจุดตรวจความพร้อมของตัวรถและพนักงานขับรถสาธารณะภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ภายใต้สโลแกน รถพร้อม คนพร้อม มั่นใจทั่วไทย ปลอดภัยในระบบรถโดยสาร

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการออกเยี่ยมและตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะจะเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก โดยเฉพาะรถตู้โดยสารสาธารณะ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการจำกัดที่นั่งเบาะผู้โดยสารจะต้องไม่เกิน 13 ที่นั่ง และต้องมีเข้มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง มีประตูทางออกฉุกเฉิน มีถังดับเพลิงและค้อนเคาะกระจก ส่วนรถโดยสารที่เป็นรถบัสจะต้องมีการตรวจความพร้อมของตัวรถก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ผู้โดยสารต้องคาดเข้มขัดทุกที่นั่ง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด 100 %กับพนักงานขับรถทุกคน ซึ่งนอกจากการเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยของตัวรถและคนขับแล้ว เจ้าหน้าที่ยังได้ติดเครื่องจีพีเอสกับรถโดยสารทุกคัน เพื่อตรวจสอบและแสกนตรวจความเร็วอีกด้วย ซึ่งหากตรวจพบรถโดยสารคันใดฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตามหากประชาชนที่เดินทางโดยรถโดยสารพบเห็นสิ่งผิดปกติและต้องการร้องทุกข์หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรทันทีตลอด 24 ชั่วโมงมายังศูนย์คุ้มครองรถโดยสารสาธารณะ