‘เวิร์คพอยท์’อัดฟอร์แมทเกาหลีใหม่แน่นผังไพร์มไทม์

นายชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานดิจิทัลทีวี บริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในไตรมาส2 ปีนี้ เตรียมเปิดตัวรายการใหม่  4-5 รายการ มีทั้งพัฒนาช่วงเวลาใหม่และแทนรายการเดิม  

เดือนเม.ย.นี้ เริ่มด้วยรายการ Small Talk ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 8.30 น. รูปแบบเกมโชว์สำหรับเด็ก โดยซื้อลิขสิทธิ์รูปแบบรายการจากต่างประเทศ  ,ซิทคอม“พ่อบ้านใจกล้า” ทุกเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.15 น. เริ่ม 22 เม.ย.นี้  ,รายการ“อายุน้อย100 ล้าน”ทุกวันอาทิตย์ เวลา 22.00 น. เริ่ม 23 เม.ย.นี้

ในเดือน มิ.ย.จะเสริมผังฟอร์แมทจากเกาหลีใต้ อีก 2 รายการ ในช่วงไพร์มไทม์ เวลา 20.00-22.00 น. คือ รายการ My Little TV ซึ่งเป็นรูปแบบผสานวิธีนำเสนอคอนเทนท์ 2 หน้าจอ ทั้งจอทีวีและออนไลน์เข้าด้วยกัน  เป็นรายการวาไรตี้แนวแข่งขันทำรายการทีวี เจาะผู้ชมกลุ่มแมสและครอบครัว  โดยซื้อลิขสิทธิ์จากผู้ผลิตเดียวกับ The Mask Singer  

อีกรายการคือ wekid ฟอร์ทแมทรายการจาก CJ เกาหลีใต้ เจ้าของเดียวกับรายการ I can see your voice สำหรับรายการ wekid เป็นรูปแบบรายการทาเลนท์ โชว์ของกลุ่มเด็ก ที่จะเข้ามาร่วมแข่งขันตามความสามารถแต่งละด้าน ซีซันละ 13 ตอน  โดยทั้ง 2 รายการฟอร์แมทใหม่ ที่จะลงผังเดือน มิ.ย.นี้ กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาวันที่เหมาะสมอีกครั้ง  ซึ่งในช่วงเวลานี้ มี 2 รายการฮิต ที่นำเสนออยู่แล้ว คือ วันพุธ รายการ I can see your voice และ วันพฤหัส รายการ The Mask Singer   

ทั้งนี้ ตั้งแต่ไตรมาส2 หลังเปิดตัวรายการใหม่ จะมีการประกาศราคาโฆษณาเสนอขาย(rate card) ในแต่ละช่วงเวลาเป็นอัตราเดียวกันทั้งช่วงเวลา จากเดิมที่มีแต่ละรายการเสนอราคาแตกต่างกัน  โดยเริ่มช่วงเวลาแรก 20.00-22.00 น. วันจันทร์-อาทิตย์ ที่ราคา 3.8-4.2 แสนบาท/นาที  โดยมีส่วนลดแตกต่างกันขึ้นอยู่กับเรทติ้งแต่ละรายการ  ซึ่งในช่วงเวลานี้รายการ  The Mask Singer และ I can see your voice  มีราคาโฆษณาสูงสุดที่ 4.2 แสนบาท/นาที

นอกจากนี้กำลังอยู่ระหว่างกำหนดราคาโฆษณา rate card เป็นอัตราเดียวกัน อีก 3 ช่วงหลัก คือ เวลา 18.00-20.00 น. , เวลา 22.00-24.00  น. วันจันทร์-ศุกร์  และช่วงเวลา 8.00- 22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์  หลังการประกาศปรับราคาโฆษณาเป็นอัตราเดียวกันทั้งช่วงเวลา จะปรับลด“ส่วนลด”โฆษณาลง หรือเท่ากับเป็นการปรับขึ้นราคาโฆษณาขึ้นเฉลี่ย 10-30%  

“การกำหนดราคาโฆษณา rate card อัตราเดียว ในช่วงเดียวกันของทีวีดิจิทัล จะทำให้ราคาโฆษณาขยับขึ้น ซึ่งผู้ลงโฆษณาสามารถต่อรองอัตราส่วนลด ที่ขึ้นอยู่กับความนิยมในแต่ละรายการ” 

แต่โดยภาพรวมจะส่งผลดีกับทีวีดิจิทัล ช่องใหม่  ที่สามารถกำหนดราคาขายโฆษณาได้ใกล้เคียงฟรีทีวีรายเดิม ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นตามความสามารถในการเพิ่มเรทติ้งผู้ชม และทีวีดิจิทัลช่องใหม่ มีเม็ดเงินลงทุนคอนเทนท์เพิ่มขึ้น