MORNING CALL ACTION NOTES (12 เม.ย.60)

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นตามแรงซื้อกลุ่มธนาคารดักผลประกอบการ Q1/17 อย่างไรก็ตามความกังวลสถานการณ์ในซีเรีย อีกทั้งแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดเทศกาลสงกรานต์ กดดันให้ SET ปิดที่ 1,582.78 จุด (+1.59 จุด) ด้วย Volume 4.4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -759 ลบ. , TFEX Net +655 สัญญา ,ตราสารหนี้ไทย Net -548 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นล่าสุด 53.5 US/Barrel หลังซาอุฯสนับสนุนให้ขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 6 เดือน , รัสเซียจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงสู่ระดับ 250,000 บาร์เรล/วันในช่วงกลางเดือนเม.ย. รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรียและเกาหลีเหนือ

+ ครม.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกวางรากฐานรองรับ EEC 3 จังหวัด คือ ชลบุรี, ระยอง และฉะเชิงเทรา

+ รมว.คมนาคม ชงไฮสปีดเทรน กทม.-นครราชสีมา 1.79 แสนลบ.เข้า ครม.ภายใน มิ.ย.

+ กกพ.ออกร่างรับซื้อโซลาร์สหกรณ์-ราชการ รวม 219 MW เริ่มเปิดยื่นคำขอเป็นเจ้าของโครงการ 15-19 พ.ค.นี้ กำหนด COD ภายใน 31 ธ.ค. ปี 61

+/- ตลาดหุ้น DJ อ่อนตัวลงเล็กน้อย จากความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรียและเกาหลีเหนือ

- นักลงทุนมีมุมมองความเสี่ยงการลงทุนเพิ่มขึ้น โดย Bond yield US10ปี ลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 2.28% , VIX index พุ่งขึ้นสู่ระดับ 15 รวมถึงราคาสินทรัพย์ปลอดภัยทองคำดีดตัวขึ้นแรง

+/- Foreign พลิกเป็น Net Sell 2 วันราว 887 ลบ. แต่ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ยังเป็น Net Buy ราว 1.3 พันลบ. ส่วนเงินบาททรงตัวล่าสุด 34.5 Bath/USD.

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงกดดันจากความกังวลสถานการณ์ตรึงเครียดในซีเรียและเกาหลีเหนือ ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ปลอดภัยทั้ง US Bond และทองคำพุ่งขึ้น อีกทั้งแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดสงกรานต์ อย่างไรก็ตามคาดว่ากลุ่มพลังงานจะช่วยพยุงดัชนีได้หลังราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือ 53 US/Barrel ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,575 - 1,590 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- กลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันยืนเหนือ 53 US/Barrel

- กลุ่มเหล็ก ราคาเหล็กรีดร้อนพุ่งทำ High ในรอบ 2 ปีล่าสุด 655 US/Ton

- ILINK ITD ชิงดำงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) 2.89 พันล้านบาท ประกาศผล 12 เม.ย.

- หุ้นที่คาดว่ากำไร Q1/17 เติบโต SCB TISCO PTTEP PTTGC TOP BANPU TASCO TPCH

หุ้นแนะนำพิเศษ

BANPU ราคาปิด 21.10 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 25.15 บาท

- คาดกำไรปี 60 ที่ 9 พันล้านบาท +438%YoY เนื่องจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้น โดยบริษัทยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายถ่านหินราว 50% ของกำลังการผลิตในปี 60 ซึ่งคาดว่าราคาขายจะถูกปรับลด 15% จากราคาถ่านหินเฉลี่ยในปี 60 ที่ 77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

- โดยเราคาดว่าราคาถ่านหินจะปรับตัวขึ้นโดยคาดการณ์ราคาขายเฉลี่ยปี 60 ที่ 77 ดอลลาร์จากทางการจีนเตรียมปรับลดวันทำงานของเหมืองถ่านหินลงเหลือ 276 วันในช่วงเดือนมี.ค. – ส.ค. เพื่อลดอุปทานลงหลังจากผ่านช่วงที่มีความต้องการใช้สูงสุดไปแล้ว นอกจากนี้ทางการจีนยังมีแผนปิดเหมือนถ่านหินกว่า 500 แห่งในปีนี้เพื่อเป็นการลดอุปทานและลดมลภาวะในประเทศเพิ่มเติม

หุ้นมีข่าว

- ประเด็นบวก BEM (ราคาปิด 7.40 Bloomberg Consensus 8.06) เดินหน้าทุ่มงบราว 2.2 หมื่นล้านบาท ลุยโครงการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน รวม 27.7 กิโลเมตร พร้อมปักธงปี 2560 รายได้-กำไรทะยานต่อเนื่อง อานิสงส์เก็บเกี่ยวสายสีม่วงเต็มปี-ทางด่วนวงแหวนรอบนอกหนุน แถมเดินหน้าลุยชิงเค้กรถไฟฟ้าสายใหม่เพิ่มเสริมแกร่งระยะยาว (ที่มาทันหุ้น)

- BBL (ราคาปิด 187.50 บาท ถือ ราคาเหมาะสม 192 บาท) กองทุนจากต่างประเทศสบช่องซื้อหุ้นแบงก์กรุงเทพหลังมีรูมให้ซื้อเพิ่มผ่าน NVDR ทำบิ๊กล็อตทันที 40 ล้านหุ้น ราคา 183.52 ล้านบาท มูลค่า 7.4 พันล้านบาท (ที่มาข่าวหุ้น)

  ความเห็น ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้น BBL ไม่ได้เนื่องจากเต็มเพดาน ทั้งนี้ราคาหุ้นปัจจุบันมี laggard โดยซื้อขายที่ PBV 0.9 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 1.29 เท่า สำหรับกำไร 1Q60 คาดการณ์อยู่ที่ราว 8 พันล้านบาท -3%YoY และ -3%QoQ จากการเติบโตของสินเชื่อที่ไม่ดีนัก -1.7%YTD ในช่วง 2 เดือนแรก

- SC (ราคาปิด 3.72 บาท ถือ ราคาเหมาะสม 4 บาท) เผยไตรมาส 2/60 เตรียมเปิดแนวราบใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,160 ล้านบาท ย้ำแผนปีนี้เปิดใหม่ 17 โครงการ มูลค่ารวม 27,000 ล้านบาท ดันยอดขายปีนี้โตตามเป้า 16,000 ล้านบาท

  ความเห็น แผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้น้อยกว่าครึ่งปีหลังโดยมีเปิดตัวโครงการแนวราบเป็นส่วนใหญ่ ด้านผลประกอบการคาดว่ากำไร 1Q60 มีแนวโน้มเติบโต QoQ จากที่มีกำไร 263 ล้านบาทใน 4Q59 และน่าจะใกล้เคียงกับ 1Q59 ที่มีกำไร 469 ล้านบาท ประมาณกำไรปี 60 อยู่ที่ราว 1.8 พันล้านบาท -7% เนื่องจากคาดรายได้จากอสังหาฯลดลง แต่คาดกำไรจะพลิกเติบโต 13% เป็น 2.08 พันล้านบาทในปี 61

- AOT (ราคาปิด 39.25 Bloomberg Consensus 42.32) เผยผู้โดยสารดอนเมืองช่วงสงกรานต์โต 5.58% ระหว่างปท.พุ่ง 10.29%, 6 แอร์ไลน์ขอบินพิเศษ

- AIT จะลงทุน 85.75 ลบ.เข้าถือหุ้น 8.04% ใน Campana ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเดินสายเคเบิ้ลใต้ทะเล (ที่มา อินโฟเควสท์)

- "EA" ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์ 1 แสนล้านบาท จับมือพันธมิตรลงทุนตั้งโรงงานผลิตระบบสำรองไฟฟ้า (Energy Storage) ขนาดใหญ่สุดในโลก กำลังผลิตรวม 50 GWh ในพื้นที่ EEC ประเดิมเฟสแรกในปี 60 กำลังผลิต 1 GWh (ที่มา ข่าวหุ้น)

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ -6.72 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,651.30 จุด ลดลง 6.72 จุด หรือ -0.03% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,353.78 จุด ลดลง 3.38 จุด หรือ -0.14% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,866.77 จุด ลดลง 14.15 จุด หรือ -0.24% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศได้ส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงหุ้น โดยรายงานล่าสุดระบุว่า เกาหลีเหนืออาจโจมตีสหรัฐด้วยนิวเคลียร์ หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐเตรียมการโจมตีเกาหลีเหนือ รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงระหว่างรัสเซียและสหรัฐ หลังจากสหรัฐระบุว่ารัสเซียให้การสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.32 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 53.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากซาอุดิอาระเบียได้แสดงความตั้งใจที่จะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิต และรัสเซียประกาศว่าจะปรับลดกำลังการผลิตลงอีกในช่วงกลางเดือนนี้ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังคงได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ในซีเรียและเกาหลีเหนือ