ยอดตายบึ้มโบสถ์อียิปต์พุ่งเป็น44ราย

ยอดตายบึ้มโบสถ์อียิปต์พุ่งเป็น44ราย

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดโบสถ์คริสต์ นิกายคอปติกออร์ทอด็อกซ์ บริเวณสามเหลี่ยมแม่น้ำไนล์ของอียิปต์ เพิ่มขึ้นเป็น 44 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 100 ราย ถือเป็นการโจมตีศาสนสถานชนกลุ่มน้อยครั้งล่าสุดของกลุ่มอิสลามเคร่งจารีต

สถานีโทรทัศน์ทางการอียิปต์รายงานว่า เหตุลอบวางระเบิดโบสถ์ชาวคริสต์นิกายคอปติกออร์ทอด็อกซ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นที่เมืองแทนตา ซึ่งเป็นเมืองอยู่บริเวณสามเหลี่ยมแม่น้ำไนล์ ห่างจากกรุงไคโรของอียิปต์ ไม่ถึง 100 กิโลเมตร  

ด้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีระเบิดขนาดใหญ่เกิดขึ้นบริเวณโถงทางเดินของโบสถ์ และเกิดควันฟุ้งกระจายไปทั่ว ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมีอาการสาหัสมาก

ขณะที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอเอส ออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเพียงสัปดาห์เดียว ก่อนถึงวันอีสเตอร์ของชาวคริสต์นิกายคอปติกออร์ทอด็อกซ์ และกำหนดการเดินทางเยือนอียิปต์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งล่าสุด พระองค์ทรงออกมาประณามเหตุการณ์ดังกล่าว และทรงแสดงความเสียพระทัยอย่างสุดซึ้งต่อเหยื่อและครอบครัว

เหตุระเบิดครั้งนี้ ยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีครอบครัวและนักศึกษาชาวคริสต์ในจังหวัดไซนายเหนือ พากันหลบหนีออกจากเมือง หลังกลุ่มไอเอส ไลล่าสังหารชาวคริสต์ที่อยู่ในจังหวัดดังกล่าว

การเปลี่ยนแปลงยุทธวิธีของกลุ่มไอเอส ที่มีการสู้รบประปรายในแถบคาบสมุทรไซนายกับตำรวจ และทหารอียิปต์มานานหลายปี ด้วยการหันไปโจมตีพลเรือนชาวคริสต์ และรุกคืบเข้ามาในอียิปต์มากขึ้นนั้น อาจทำให้เกิดจุดเปลี่ยนขึ้นในอียิปต์ ที่พยายามจะป้องกันไม่ให้เกิดการจลาจลขึ้นในเมืองต่าง ๆ ที่มีสาเหตุมาจากการนองเลือดทางศาสนาที่เพิ่มมากขึ้น