เผยม็อบการเมืองทำป้าแท็กซี่ล้มละลาย-เครียดสะสม

เผยม็อบการเมืองทำป้าแท็กซี่ล้มละลาย-เครียดสะสม

ทนายเผยพิษม็อบการเมืองปิดถนนทำ "ป้าแท็กซี่" ล้มละลาย สามีทิ้งต้องขับรถส่งลูกเรียน เครียดสะสมจนกลายเป็นคน 2 บุคลิก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นางผุสดี อัญชัญภาติ อายุ 50 ปี คนขับแท็กซี่ไล่ผู้โดยสารลงจากรถ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เมื่อเช้าวันที่ 5 เม.ย.ตามหมายจับคดีลักทรัพย์ผู้โดยสาร เมื่อปี 2558 และมีคดีติดตัวอีกหลายคดี จนถูกเรียกว่าป้าแท็กซี่มหาภัยนั้น

นายวิเชียร เพชรจำนงค์ ทนายความของนางผุสดี เปิดเผยว่า นางผุสดี เคยเป็นคนมีฐานะดีเข้าขั้นร่ำรวย ได้เปิดกิจการร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสีลมแต่ประสบปัญหาจากเหตุการณ์ปิดถนนประท้วงทางการเมืองเมื่อหลายปีก่อน ทำให้กิจการล่มจม ถูกธนาคารยึดทรัพย์บ้านพักมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท กลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว อีกทั้งยังถูกสามีทอดทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ต้องหาเลี้ยงลูกสองคนตามลำพัง จนเกิดภาวะเครียดสะสม

"นางผุสดี เป็นบุคคลน่าสงสาร เพราะหลังล้มละลายจากปัญหาธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ต้องยึดอาชีพขับรถแท็กซี่หาเงินส่งลูก 2 คนเรียนมหาวิทยาลัย จากคนร่ำรวยตกอับเป็นแค่คนขับรถแท็กซี่ หาเช้ากินค่ำ และยังมีภาระอื่นๆอีกมากมาย ความกดดันเหล่านี้ทำให้นางผุสดีกลายเป็นคนสองบุคลิก ขอให้สังคมให้อภัยและเห็นใจ ผลของคลิปวิดีโอเกี่ยวกับพฤติกรรมก้าวร้าวของนางผุสดี ยังทำให้ญาติของเธอไม่กล้าออกจากบ้าน หลังจากนี้ นางผสุดี จะกลับไปใช้ชีวิตที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไม่กลับทำงานขับรถแท็กซี่แล้ว" ทนายความกล่าว

ส่วนคดีความนางผุสดี ยืนยันจะต่อสู้คดีลักทรัพย์เงินสด 10,000 บาท ท้องที่ สน.บางเขน ให้ถึงที่สุด เนื่องจากไม่ได้เป็นคนลักทรัพย์ผู้โดยสารตามที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าหลังส่งผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้เสียหายและนำรถส่งคืนให้สหกรณ์แท็กซี่ พบกระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายบริเวณเบาะนั่งด้านหลังคนขับจริง เมื่อเปิดกระเป๋าดูภายในไม่พบเงิน ประกอบกับหลังผู้โดยสารคนนี้ลงไปแล้วก็มีผู้โดยสารคนอื่นๆ ขึ้นมาอีกหลายคน