ขนมภูเขา

ไม่มีสาขา ไม่มีเฟรนไชส์ อยากกินต้องมุ่งหน้าไปดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย อย่างเดียวเท่านั้น

ใครคือยอดฝีมือคนนั้น ขนมภูเขาที่ว่าต้องลองเร้าใจแค่ไหน รู้กันวันนี้….

สวีทแม่สลอง

ร้านคาเฟ่และขนมบนดอยแม่สะลอง ชื่อหวานๆที่ทำให้เราตื่นตาไปกับวิวหลักล้านทันทีที่ก้าวเข้าไปตรงระเบียงกว้างที่เปิดให้เห็นต้นไม้ ภูเขา และท้องฟ้าได้สุดสายตา ยิ่งได้อากาศเย็นๆบนยอดดอยแทบอยากจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้แล้วปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับธรรมชาติ

ไม่แปลกใจเลยที่ จิณภัคต์ ชีวนรสุชากุล และกัณตเมศฐ์ ศรีกุลวรินทร์ ตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่และทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และนี่คือจุดเริ่มต้นของสวีทแม่สลอง ร้านกาแฟและขนมที่เปิดมาปีนี้เป็นปีที่ 10 แล้ว

ถ้าคิดคงไม่ได้ทำ

“หมีเป็นคนกรุงเทพฯค่ะ ไม่ใช่คนเชียงราย ไม่เคยเที่ยวดอย พี่ต้น (กัณตเมศฐ์ ศรีกุลวรินทร์) สามีรู้ว่าหมีชอบอากาศเย็น ขึ้นมาเดือนพฤษภาคมเมื่อสิบปีก่อนตกใจ 16 องศานี่คือประเทศไทยเหรอ มาแล้วเหมือนต้องมนต์ บอกพี่ต้นเลยว่าเราจะอยู่ที่นี่แหละ” หมี - จิณภัคต์เล่าถึงวันแรกที่เดินทางมาถึงดอยแม่สลองด้วยน้ำเสียงสดใส

“พี่ต้นเป็นคนแรกที่จุดประกายว่าจะไม่อยู่กรุงเทพฯ พี่ต้นเป็นโปรดิวเซอร์ มีสตูดิโอถ่ายภาพ เขาเบื่องานเบื่อคน เขาบอกว่าลองดูมั้ย? ออกไปทำสิ่งที่ตัวเองรักถ้ามันจะตายก็ให้มันรู้ไป

เขารู้ว่าหมีชอบทำขนมมาก หมีไม่มีคิดทบทวนเลย ได้ทำขนมได้อยู่กับลูก (สุนัขแสนรัก) ทุกวันเลยนะ ไม่มีอะไรแย่นี่ ได้ทำขนมทุกวันทั้งวัน สามีอยู่ในสายตาเราตลอด ลูกหมาก็อยู่ใต้โต๊ะทำขนม

หมีกลับไปลาออกจากงาน พี่ต้นอยู่ต่อทำสัญญาเช่าโรงอบชาเก่าๆ 5 ปี ตอนมาทำไม่ได้คิดอะไรเลย ถ้าคิดคงไม่ได้ทำแล้ว” จิณภัคต์ บอกกับเราด้วยรอยยิ้ม

ปีแรกคือที่สุด

“ไม่มีแผนการตลาด คิดอยู่แค่ว่า เราทำในสิ่งที่เรารัก เราตั้งใจทำ ไม่อร่อยไม่ทำ เราใช้ของดี วัตถุดิบส่งมาจากกรุงเทพฯ เรากินอะไรเราทำ แรก ๆเราก็ทำเค้กไทย ๆแบบที่เราเรียนมาสารพัดจากหลายๆแห่ง จนหนึ่งปีเรารู้แล้วว่า ช่วง 10 เดือนเป็นฝรั่ง เราอยู่ได้เพราะนักท่องเที่ยวฝรั่ง อีก2 เดือนช่วงไฮซีซันเป็นนักท่องเที่ยวไทย เราไม่ห่วงพอเดารสนิยมได้

แต่ 10 เดือนที่ฝรั่งมาเป็นยุโรป หนูจำเป็นต้องทำเค้กเยอะ เค้กหลายสิ่งเขาถึงจะเข้าใจ มาเจอเค้กส้ม เค้กใบเตย เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม ฝรั่งไม่เข้าใจ หนูเลยต้องไปเรียนเพิ่มเป็นสิ่งที่รักด้วย ยิ่งเจอเชฟฝรั่งเศสด้วย ยิ่งเปิดโลกขนมหวานของหนูเลย จึงมาเป็นเค้กราสพ์เบอร์รี่บอม เลมอนเฮเซลนัท

10 ปีที่แล้วยังไม่มีเค้กโดมแพร่หลาย กลายเป็นว่าร่ำลือกันว่าบนยอดดอยมียอดฝีมือ มันไม่ยอมลงจากดอยด้วยนะ”

จิณภัคต์ เล่าถึงที่มาของข่าวลือทั้งที่ความจริงแล้วเธอต้องลงจากดอยมาฝึกวิชากับเชฟชาวฝรั่งเศสที่กรุงเทพฯเพื่อสร้างสรรค์ขนมใหม่ๆทุกปี เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แวะเวียนมาอุดหนุนในช่วงโลว์ซีซั่นที่กินเวลานานถึง 10 เดือน

เค้กวันเกิดสื่อรักชาวดอย

เป็นที่รู้กันว่าบนดอยแม่สลองเป็นหมู่บ้านของอดีตทหารจีนคณะชาติ กองพล 93 นอกจากอาหารจีนที่นี่จะโด่งดังไม่ว่าจะเป็นขาหมู หรือ สุกี้ยูนนาน ซึ่งนักท่องเที่ยวมาต้องชิมแล้ว ชาของดอยแม่สลองยังมีชื่อเสียงและขายดีเป็นอันดับต้นๆอีกด้วย

“หนูมาทำในสิ่งที่เขาไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย อยู่ๆมาขายกาแฟแก้วละ 60 บาท 70 บาท ในชุมชนที่นิยมดื่มชา เขาไม่เข้าใจว่ากาแฟที่ทำมาจากเครื่องเอสเพรสโซ่มันมีราคาของมัน มีเหตุและผล จนปีหลังๆลูกหลานของคนที่นี่ที่ไปเรียนไต้หวัน อเมริกา กลับมาบ้านเห็นร้านเราแล้วเข้าก็ดีใจ กลายเป็นว่าเวลามีแขกบ้านแขกเมืองมาจะพามารับรองที่ร้านเรา

เมื่อก่อนเขากินชีสเค้กแล้วเปรี้ยว ไม่เข้าใจ เรามาทำในสิ่งที่เขาไม่รู้จักเลย เราต้องสื่อสารให้เขาเข้าใจว่า มีชีสเค้ก มีมูสเค้กนะ ต่างจากเค้กเนยที่เป็นดอกกุหลาบอย่างเดียว

ใช้เวลานานเหมือนกันนะคะกว่าเขาจะเปิดประตูรับเค้กของหนู จากเมื่อก่อนเค้กวันเกิดหนูใช้ครีมนมสด ที่อยากแนะนำว่าดีต่อสุขภาพมากกว่าเค้กที่ใช้มาการีน ปรากฏว่าเขาถูกใจเพราะกินแล้วไม่ติดปากติดคอ ไม่เลี่ยน จากปีแรกๆขายเดือนละ 2 ก้อน ทุกวันนี้เค้กนมสดที่เป็นเค้กวันเกิดหนูขายวันละ 6-7 ก้อน วันแม่วันเดียวขายได้ 60 ก้อน”

เค้กครีมสดก้อนเล็กๆกลายเป็นสื่อกลางที่ทำให้เกิดความเข้าใจ แถมยังมีรสชาติถูกปาก กลายเป็นว่าทุกวันนี้รายได้หลักของสวีทแม่สลองมาจากการอุดหนุนของคนในพื้นที่เป็นหลัก

จากครัวซองค์ถึงเค้กภูเขา

ลือกันว่ายอดฝีมือไม่ลงจากดอย ความจริงลงไปฝึกปรือฝีมือปีละครั้ง จนได้เจอครัวซองค์ตำรับฝรั่งเศสที่ใครมาสวีทแม่สลองถ้าไม่ลองถือว่าพลาดครั้งใหญ่

“ตอนเรียนเรามีคำถามทำไมต้องแป้งฝรั่งเศส มันยากกับเรามาก เราอยู่ดอย เราอยู่เชียงราย แต่พอเราได้ชิมแล้วรู้เลยว่าทำไมต้องใช้แป้งนี้ มันต่างจากครัวซองค์ที่ทำจากแป้งไทยเวลาใช้มีดตัดผิวจะกรอบ แตก กรอบคมแบบบาดคอ ถ้าเป็นแป้งฝรั่งเศสจะกรอบละเอียด” เจ้าของร้านบอกว่าถ้าวันไหนไม่มีแป้งฝรั่งเศสก็จะไม่มีครัวซองค์วางขาย

“ถ้าถามหนูว่าชอบอะไรที่สุดในขนมทั้งหมด หนูบอกเลยว่าครัวซองค์ เพราะครัวซองค์อร่อยหาทานยาก ต้องใช้เวลา3 วันนะคะกว่าจะเสร็จ เราต้องพักแป้ง กว่าที่เราจะรีดเนยกับแป้งให้แบนออกได้แล้วเราเอามาทบแล้วพักแป้งอีกหนึ่งวัน แล้วรีดแป้งออกให้เนยกับแป้ง เนยกับแป้งสลับกันให้มันดีดชั้นจนข้างในเกิดเป็นโพรง”

ว่าแล้วเธอก็นำมีดมาตัดฉับเพื่อให้เรามองเห็นโพรงขนมที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆทั้งหมด 72 ชั้น โอ้แม่เจ้า !

และเจ้าครัวซองค์ที่แสนซับซ้อนนี่เอง นำไปสู่เมนูขนมประจำร้านที่ได้ชื่อว่า ขนมภูเขา นั่นเอง

“มันคือ คัฟฟิ่น ที่เกิดจากการนำแป้งครัวซองค์ไปใส่ในถ้วยมัฟฟิ่นแล้วอบ หนูเรียกว่าขนมภูเขาเพราะเชฟมันเหมือนภูเขา ส่วนไส้เราฉีดเข้าไปเวลาลูกค้าสั่ง มี 3 รส คือ สตรอว์เบอร์รี่มิลค์เชค ป๊อบคอร์นคาราเมล และที่ฮิตที่สุดคือ ลาวาไข่เค็ม”

ด้วยรูปทรงน่ารักและการตกแต่งที่มีลูกเล่น ในโลกที่ก่อนกินต้องแชะแล้วแชร์ทำให้เกิดคำกล่าวขานกันว่า มาแม่สลองต้องมากินขนมภูเขา

ราสพ์เบอร์รี่บอมพ์ในตำนาน

ขนมอบรูปโดมเคลือบมูสสีแดงสดมีความใสขนาดส่องเห็นหน้าตัวเองได้ เป็นขนมในตำนานของสวีทแม่สลองที่จิณภัคต์เล่าว่า มีชื่อเสียงในโลกทวิภพอยู่ไม่น้อย โทษฐานที่เค้กช็อกโกแลตมีรสเปรี้ยว

“ในมุมมองของคนทำเองก็รู้สึกว่าราสพ์เบอร์รี่บอมพ์ทานยาก คนไทยไม่ชอบช็อกโกแลตที่เปรี้ยว ตัวนี้มีส่วนผสมของช็อกโกแลตและราสพ์เบอร์รี่บด หนูใช้เพียวเร่ รสชาติมันจึงออกมาเป็นช็อกโกแลตเปรี้ยวๆ มีคนมาทานแล้วไม่ถูกจริตมั้งเลยวิจารณ์ไปต่างๆ

ด้วยความที่มีหลายรสชาติในหนึ่งชิ้น ตรงกลางมีเครมบรูเล มีเม็ดราสพ์เบอร์รี่ตรงกลาง เคลือบด้วยมูสมิลค์ช็อกโกแลต ฐานเป็นเค้กอัลมอนด์ ด้วยความที่คอมโพสิชั่นเยอะมาก ต้องทานเป็นเพอร์เฟ็คไบท์คำเดียวกัน ถ้าคนที่ไม่ถูกจริตกับเค้กเยอะจะไม่ชอบ แต่ถ้าคนที่ชอบจะชอบมาก”

เห็นชิ้นเล็กๆอย่างนี้ต้องใช้เวลาทำ 3 วันกว่าจะสำเร็จ เนื่องจากต้องทำส่วนประกอบต่างๆให้พร้อม ก่อนนำมาประกอบกันเป็นหนึ่งเดียว

รักในสิ่งที่เราทำ

อยู่ดอยแม่สลองตามฝันมา 10 ปี ภรรยาทำขนม สามีดูแลกาแฟและเครื่องดื่ม (จนได้ชื่อว่าพี่หนวดในตำนาน เพราะไว้หนวด มาดนิ่ง และไม่ตามใจลูกค้าที่สั่งกาแฟนอกสูตร) ถามว่าตัดสินใจถูกหรือไม่

“ถูกค่ะ อยู่มา 10 ไม่มีทีวี กลับไปกรุงเทพฯปีละครั้ง ไปเยี่ยมญาติ ทุกคนบอกว่าเราเปลี่ยนไป ดูใจเย็นขึ้นและมีความสุข หลายคนเริ่มจากเป็นลูกค้ามาหาหนูทุกปี บางคนมาปีละ 2-3ครั้ง จนกลายเป็นเพื่อนกัน แทบทุกคนบอกว่าเป็นชีวิตที่อยากทำ แต่ทำไม่ได้เพราะมีภาระ

คนชอบถามว่าตอนนั้นคิดยังไง หมีบอกว่าถ้าคิดคงไม่ได้มาเพราะมันไม่ตอบโจทย์ทางธุรกิจ แต่ในเรื่องความสุขมันเต็ม ทุกวันนี้ 5โมงเย็นปิดร้านปั่นจักรยานไปกับแฟน เราได้ทำขนมทุกอย่างด้วยมือเราเอง ไม่ใช่มี 8 สาขาแล้วดูเด็กทำ ดูภาพรวม คือ ความสุขของหนูชัดมาก

พี่ต้นก็ยังคงชงกาแฟทุกแก้วด้วยตัวเอง หลายครั้งแอบดูฟีดแบคลูกค้า เราติดฟิลลิ่งที่เขาชอบขนมเรา

โชคดีที่พอมาทำบัญชี ไม่ถึงกับต้องดึงเงินเก่าเหมือน 2-3 ปีแรก กลายเป็นว่ามันครอบคลุมอยู่ได้ ตอนนี้เค้กวันเกิดขายได้เยอะขึ้น จนเลี้ยงตัวเอง ค่าใช้จ่ายก็ไม่เยอะ เราไม่ใส่เงินเดือนลงไปในธุรกิจ ค่าใช้จ่ายหลักคือ วัตถุดิบ ค่าแรงเด็ก ค่าไฟ

หมีไม่ได้สุขนิยมหมียังใช้รองพื้น แต่งหน้า ชีวิตมันอยู่ได้ แนวโน้มดีขึ้น คนรู้จักแบบรักกัน จากลูกค้ากลายเป็นพี่ ทุกวันนี้จะได้ยินเสียงพี่ต้นพูดว่า “อ้าวพี่หวัดดีครับ” คือคนที่รักเราจะกลับมา คนไม่รักเราเขาก็ไม่มา

กลายเป็นว่าเราทำสิ่งที่เรารักเพื่อคนที่เรารัก”

รับพลังแห่งความสุขมาเต็มเปี่ยม อย่างนี้แล้วจะไม่ให้อยากกลับไปหาขนมภูเขาและยอดฝีมือที่สวีทแม่สลองได้ยังไง

โปรดอย่าเชื่อ ความรู้สึกอย่างนี้ต้องลองด้วยตนเอง

หมายเหตุ : เฟซบุ๊ค @sweetmaesalongโทร. 08 9874 9656