'ธอส.'เล็งออกสลาก5หมื่นล้าน

'ธอส.'เล็งออกสลาก5หมื่นล้าน

ธอส.เล็งออกสลาก "5หมื่นล้าน" หวังปรับลดต้นทุนเงินให้สอดคล้องปล่อยกู้ระยะยาว ภาพรวมปล่อยกู้ 2 เดือนแรกปีนี้ยังโตมั่นใจทั้งปีเข้าเป้า

ธอส.เล็งออกสลากรุ่นอายุ 3 ปี วงเงิน 5 หมื่นล้าน เพื่อลดต้นทุนเงินที่กว่า 60% เป็นเงินฝากอายุสั้นไม่เกิน 2 ปี ขณะที่ สินเชื่อเกือบทั้งหมดเป็นระยะยาว โดยออกได้เร็วสุดภายในปีนี้ จูงใจรางวัลสลากด้วยสินเชื่อดอกเบี้ย 0% และนำวงเงินสลากมายกเว้นดอกเบี้ยเงินกู้ได้ด้วย

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)เปิดเผยว่า ธนาคารมีแผนออกสลากธอส.รุ่นอายุ 3 ปี วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาช่วยทดแทนแหล่งทุนของธนาคารที่ส่วนใหญ่หรือราว 60% จะเป็นเงินฝากที่มีอายุสั้น 1 ปีครึ่ง ถึง 2 ปี ขณะที่ ระยะเวลาปล่อยสินเชื่อเกือบทั้งหมดเป็นระยะยาว ซึ่งการที่ธนาคารมีแหล่งทุนระยะสั้น จึงถือเป็นต้นทุนที่สูง ดังนั้น การออกสลากจะช่วยลดต้นทุนและรองรับการปล่อยสินเชื่อได้ดีขึ้น

“ปัจจุบัน เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง แต่มีปัญหาเรื่องของต้นทุนที่สูง ซึ่งส่วนใหญ่เงินฝากจะมีอายุไม่ยาว โดยราว 60% เป็นเงินฝากที่มีอายุไม่เกิน 2 ปี ดังนั้น การออกสลากจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องต้นทุนได้ ”

สำหรับระยะเวลาการเสนอขายสลาก จะดำเนินการหลังจากที่การแก้ไขกฎหมายธอส. คาดว่า การออกสลากจะทำได้เร็วที่สุดภายในปีนี้

ส่วนเรื่องเงินรางวัลสลาก ขณะนี้ อยู่ระหว่างพิจารณาที่ต้องคำนึงถึงต้นทุนของรางวัล อาจให้เป็นดอกเบี้ยสินเชื่อ 0% ในช่วงเวลาหนึ่งให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลที่ขอสินเชื่อกับธนาคาร ขณะเดียวกันอาจให้สิทธิพิเศษผู้ที่ซื้อสลากนำวงเงินที่ซื้อสลากมาเป็นส่วนลดขอสินเชื่อได้ เป็นต้น

“เรากำลังพิจารณาว่า ถ้าใครซื้อสลากธอส.สามารถนำวงเงินที่ซื้อสลากนั้น มาเป็นแบ็คอัพในการขอสินเชื่อกับธนาคารได้ โดยจะได้รับการยกเว้นอัตราดอกเบี้ยให้ในวงเงินที่ซื้อสลาก เช่น ผู้กู้ขอสินเชื่อวงเงิน 1 ล้านบาท และได้ซื้อสลากไว้จำนวน 3 แสนบาท ผู้กู้สามารถนำวงเงินที่ซื้อสลากมาขอรับการยกเว้นอัตราดอกเบี้ยในวงเงิน 3 แสนบาท ฉะนั้น ธนาคารก็จะคิดอัตราดอกเบี้ยเฉพาะเงินกู้ในวงเงินที่เหลือจำนวน 7 แสนบาท เป็นต้น”

สำหรับแผนการดำเนินโครงการ Reverse Mortgage จะทำหลังแก้ไขกฎหมายธอส.แล้วเสร็จเช่นกัน ซึ่งโครงการดังกล่าวจะรองรับการเป็นสังคมสูงอายุ โดยผู้กู้สามารถนำบ้านที่ปลอดภาระจำนองแล้ว มาให้ ธอส. แล้ว ธอส.จะมอบเงินเป็นรายเดือนให้แก่คนนั้น ทั้งนี้ ตามมาตรฐานทั่วไป ธนาคารจะกำหนดตีราคาบ้านที่เข้าโครงการ ในสัดส่วน 60-70% ของมูลค่าบ้านหลังนั้น แต่ปัญหาก็คือ ธอส.จำเป็นต้องสามารถนำบ้านหลังนั้น กรณีที่เจ้าของบ้านเสียชีวิต และลูกหลานไม่ประสงค์จะมาซื้อต่อจากธอส. ไปขายต่อในตลาดได้ เพราะหากไม่สามารถขายออกไปได้ ตามกฎหมายถ้าธนาคารถือครองสินทรัพย์ที่เป็นรอการขายนานเกินกว่า 10 ปี จะต้องสำรอง 100 %

“ ธอส.จะต้องหารือกับคลังว่า จะกำหนดโซนนิ่งของบ้านที่ ธอส.จะรับเข้าโครงการ Reverse Mortgage อย่างไร ซึ่งในความเห็น เฟสแรกของการรับบ้านเข้าโครงการนี้ น่าจะเป็นผู้ที่พัฒนาอสังหาฯ ที่จดทะเบียนในตลาด และรวมถึงเป็นบ้านที่อยู่ในเมือง เช่น หากเป็นบ้านที่อยู่ในต่างจังหวัด ก็จะต้องตั้งอยู่ในเขตที่มีความเป็นเมือง”

ธอส.ตั้งเป้าหมายว่า เมื่อกฎหมายให้อำนาจธอส.ให้บริการโครงการดังกล่าวแล้ว จะมีวงเงินเพื่อการนี้ราวปีละ 1 หมื่นล้านบาท

ส่วนภาพรวมสินเชื่อ นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 2.7 หมื่นล้านบาท โดยสินเชื่อเฉลี่ยต่อเดือนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่อาจจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ในปีก่อนจะมีมาตรการของรัฐออกมาสนับสนุนการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี ตลอดทั้งปี คาดว่า การปล่อยสินเชื่อจะเป็นไปตามเป้าหมาย