ขีดเส้นรฟท.เร่งประมูล 'รถไฟทางคู่' ใน3เดือน

ขีดเส้นรฟท.เร่งประมูล 'รถไฟทางคู่' ใน3เดือน

"ครม." ขีดเส้นต้องประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางให้จบภายใน 3 เดือน ชี้ต้องเปิดประมูลระบบอาณัติสัญญาณแบบนานาชาติ

นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (28 มี.ค.) ว่า กระทรวงคมนาคมได้รายงานความคืบโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางที่ต้องปรับแก้เงื่อนไขการประมูล (TOR) ตามมติคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) ให้ที่ประชุม ครม. รับทราบ

ครม. จึงสั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ต้องเร่งเปิดประมูลและหาผู้รับจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน หรือภายในเดือน มิ.ย. นี้ พร้อมสั่งการให้เปิดประมูลระบบอาณัติสัญญาณแบบนานาชาติ (International Competitive Bidding) ด้วย

นายพิชิต กล่าวว่า ร.ฟ.ท.เริ่มแบ่งโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางจาก 5 สัญญาเป็น 13 สัญญาตามคำสั่งซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ แล้ว ได้แก่สายเหนือเส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กิโลเมตร วงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาทแบ่งเป็นงานโยธา 2 สัญญา และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ 1 สัญญา

สายตะวันออกเฉียงเหนือเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 2 สัญญา งานก่อสร้างอุโมงค์ 1 สัญญา และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ 1 สัญญา

สายใต้ประกอบด้วย 3 เส้นทาง คือ 1.เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 2 สัญญา 2.เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร วงเงิน 9.8 พันล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 1 สัญญา 3.เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 2 สัญญา โดยรถไฟสายใต้ทั้ง 3 เส้นทางจะเปิดประมูลระบบอาณัติสัญญาณร่วมกันเพียง 1 สัญญา

นายพิชิต กล่าวถึงคำสั่งปรับแก้ทีโออาร์ของซูเปอร์บอร์ดว่า เป็นผลมาจากข้อร้องเรียน 4 ประเด็น ประเด็นแรก คือ ทีโออาร์เดิมกำหนดสัดส่วนผลงานของผู้เข้าร่วมประมูลสูงเกินไป จนกีดกันไม่ให้ผู้รับเหมารายเล็กและรายกลางเข้าร่วมประมูล ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ จึงมีมติลดสัดส่วนผลงานของผู้เข้าร่วมประมูลลงจาก 15% เหลือ 10% ของมูลค่าโครงการ

ประเด็นที่ 2 กำหนดมูลค่าสัญญาแต่ละโครงการสูงเกินไป จนทำให้ผู้รับเหมารายเล็กไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้ เช่น บางโครงการมีมูลค่าถึง 20,000 ล้านบาท ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ จึงให้ลดมูลค่าสัญญาเหลือ 5,000-10,000 ล้านบาทต่อสัญญา

ประเด็นที่ 3 กีดกันผู้รับเหมารายย่อยทางอ้อม โดยไม่ให้เจ้าของเทคโนโลยีระบบอาณัติสัญญาณร่วมมือกับผู้รับเหมารายย่อย ซึ่งส่งผลให้รายย่อยไม่สามารถหาเทคโนโลยีระบบอาณัติสัญญาณเข้าร่วมประมูลตามเงื่อนไขในทีโออาร์ได้ ดังนั้นซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ จึงสั่งให้แยกสัญญาติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณออกจากสัญญางานโยธาและระบบราง

แยกระบบอาณัติสัญญาณทำล่าช้า9เดือน

นายพิชิต กล่าวว่า การแยกระบบอาณัติสัญญาณออกมาส่งผลให้ระยะเวลาการก่อสร้างของโครงการจะเพิ่มขึ้นประมาณ 9 เดือน เนื่องจากการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณจะเริ่มหลังงานโยธาและระบบรางแล้วเสร็จ แตกต่างจากทีโออาร์เดิมซึ่งผู้ก่อสร้างงานโยธาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณเป็นรายเดียวกัน จึงสามารถเข้าพื้นที่ดำเนินงานได้พร้อมกัน

ประเด็นสุดท้าย กำหนดให้รวมเครื่องจักรเฉพาะที่ใช้ในการก่อสร้างไว้ในสัญญา ซึ่งเป็นการไม่โปร่งใส เพราะเท่ากับเป็นการใช้การประมูลเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ ดังนั้นจึงให้นำเงื่อนไขนี้ออกจากทีโออาร์

บอร์ดร.ฟ.ท.เปลี่ยนทีโออาร์ 6 เม.ย.

นายอานนท์ เหลือบริบูรณ์ กรรมการและรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 เม.ย. นี้ คณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. มีนัดประชุมเพื่อยกเลิก ทีโออาร์การประมูลรถไฟทางคู่เดิมและเห็นชอบร่างทีโออาร์ใหม่

ทั้งนี้ บอร์ดคงต้องทยอยเห็นชอบร่างทีโออาร์ใหม่และทยอยเปิดประมูล โดยไม่ต้องรอให้ครบทั้ง 5 เส้นทาง เพื่อความรวดเร็ว จากนั้นจะต้องนำร่างทีโออาร์ไปรับฟังความเห็น 2 ครั้งตามขั้นตอน ถ้าหากไม่มีผู้คัดค้านในประเด็นสำคัญก็จะสามารถประกาศเชิญชวนเอกชนให้เข้าร่วมประมูลได้

เบื้องต้นคาดว่า จะเริ่มต้นจากรถไฟสายใต้เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตรก่อน เพราะมีมูลค่าต่ำที่สุด โดยเมื่อมีการแยกสัญญาระบบอาณัติสัญญาณออกไป ก็จะทำให้มูลค่าสัญญางานโยธาลดเหลือ 8,500 ล้านบาท จากนั้นจะเริ่มเปิดประมูลเส้นทางนครปฐม-หัวหิน และเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพรตามมา สำหรับเส้นทางสายเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าจะเห็นชอบทีโออาร์เป็นลำดับหลังสุดและเปิดประมูลได้พร้อมๆ กัน

เสนอประมูล9เส้นทางกลางปี

นายอานนท์ กล่าวต่อว่า กรอบวงเงินโครงการทั้งหมดยังอยู่ที่ระดับ 9.58 หมื่นล้านบาทเท่าเดิม แต่การประเมินราคากลางอาจสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะตอนนี้ราคาน้ำมันดีเซลและราคาเหล็กมีทิศทางเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อวงเงินในภาพรวม

นอกจากนี้ บอร์ด ร.ฟ.ท. ยังต้องพิจารณาโครงการรถไฟทางคู่อีก 9 เส้นทางระยะทาง 2,217 กิโลเมตร มูลค่ารวม 3.9 แสนล้านบาทซึ่งบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน (Action Plan) ปี 2560 อีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อฯ

“จะเสนอรถไฟทางคู่ทั้ง 9 เส้นทางให้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบได้ภายในกลางปีตามกรอบเดิมเพราะมีแนวทางของรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางอยู่แล้วจึงสามารถปรับเส้นทางอื่นๆ ตามได้อย่างรวดเร็ว”