10 แข้งใหม่พรีเมียร์ลีกสุดแป้ก 2016/2017

10 แข้งใหม่พรีเมียร์ลีกสุดแป้ก 2016/2017

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2016/2017 มีการจับจ่ายซื้อขายนักเตะหน้าใหม่เสริมทีมกันหลายราย ซึ่งบางคนผลงานเข้าตาและคุ้มกับค่าตัวที่จ่ายไป แต่บางคนผลลัพธ์ก็ไม่เป็นเช่นนั้น วันนี้จึงมาเผย 10 อันดับแข้งใหม่ที่น่าผิดหวังประจำซีซั่นว่าใครกันบ้าง

10. บอร์ฆา บาสตอน (แอต.มาดริด สู่ สวอนซี, 15 ล้านปอนด์)
ทีมหงส์ขาว ยอมทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสรเพื่อคว้าตัวกองหน้าชาวสเปนรายนี้มาร่วมทัพจากแอตเลติโก มาดริด แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแรงกดดันจากค่าตัวหรือเพราะอะไร ทำให้ดาวยิงที่เคยซัดให้ เออิบาร์ ในลา ลีกา สเปนไปถึง 18 ประตู กลับยิงได้เพียงประตูเดียวจากการลงเล่น 17 นัด ในพรีเมียร์ลีก กระทั่งหลุดจากแผนของ พอล คลีเมนต์ กุนซือที่ตัดสินใจไปคว้า จอร์แดน อายิว ดาวยิงกานา มาล่าตาข่ายแทนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

9. โจลีออน เลสคอตต์ (ซันเดอร์แลนด์, ฟรีี)
แฟนบอลซันเดอร์แลนด์คิดว่าเป็นแผนที่เข้าท่าทีเดียวกับการเซ็นอดีตปราการหลังทีมชาติอังกฤษ วัย 34 ปี รายนี้เข้าสู่ทีม เพราะจากประสบการณ์อันโชกโชนน่าจะช่วยทีมได้ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม เลสคอตต์ กลับลงช่วยทีมได้เพียงแค่ 33 นาทีตลอดระยะเวลาที่รับใช้ทีมในถิ่นสเตเดียม ออฟ ไลท์ เท่านั้นไม่พอเจ้าตัวยังเป็นหนึ่งในขุนพลแอสตัน วิลลาที่ตกชั้นเมื่อซีซั่นที่แล้ว ซึ่งกรณีนี้แฟนแมวดำหวังว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ซ้ำรอยเดิมกับต้นสังกัดใหม่ของเลสคอตต์

8. โกคาน ตอเร (เบซิคตัส สู่ เวสต์แฮม, ยืมตัว)
ปีกทีมชาติตุรกี ย้ายมาร่วมทีมขุนค้อนเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาและถูกยกให้เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ต้องมาล้มเหลวที่ลอนดอน โดยก่อนหน้านี้ถูกคาดหวังไว้มากจากผลงานอันยอดเยี่ยมกับ เบซิคตัส แต่หลังจากออกสตาร์ทไป 5 นัด เจ้าตัวกลับต้องเผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าจนทุกวันนี้ยังไม่สามารถกลับมาลงเล่นให้ทีมขุนค้อนได้เลย

7. ลอริส คาริอุส (ไมนซ์ สู่ ลิเวอร์พูล, 4.7 ล้านปอนด์ )
หนึ่งใน 2 ผู้รักษาประตู ที่ถูกจัดให้เป็นการเซ็นสัญญายอดแย่ประจำซีซํ่นนี้ โดยตอนแรกหลังย้ายมาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ได้ถูกมอบหมายให้รับบทบาทมือ 1 แทน ซิมง มิโญเลต์ นายด่านชาวเบลเยียม แต่พอได้โอกาสไม่นานเจ้าตัวกลับก่อความผิดพลาดให้เห็นบ่อยครั้ง ลงเล่น 10 นัด เสียไป 12 ประตู จนกระทั่ง เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมนี ต้องกลับมาให้ มิโญเลต์ ยึดมือ 1 ตามเดิม

6. มิชี บาตชูอายี (มาร์กเซย สู่ เชลซี, 33 ล้านปอนด์)
ศูนย์หน้าเจ้าของค่าตัว 33 ล้านปอนด์ (ราว 1,400 ล้านบาท )ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระการยิงประตูให้กับ ดิเอโก คอสตา หัวหอกตัวเก่งของเชลซี แต่ทำไปทำมาหัวหอกชาวเบลเยียม กลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม หลังได้รับโอกาสลงสนาม 22 นัด ผลิตสกอร์ให้ทีมได้เพียง 5 ลูกเท่านั้น ผิดกับสมัยล่าตาข่ายในลีก เอิง ฝรั่งเศส ชนิดราวฟ้ากับดิน
นอกจากนี้มีข่าวว่า อันโตนิโอ คอนเต กุนซือชาวอิตาเลียน ดูจะไม่ปลื้มดาวยิงรายนี้เท่าไหร่และพร้อมปล่อยตัวออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้

5. เคลาดิโอ บราโว (บาร์เซโลนา สู่ แมนฯซิตี, 15.4 ล้านปอนด์ )
ทุกวันนี้แฟนแมนฯซิตี ยังไม่เข้าใจว่านายด่านทีมชาติชิลีนั้นมีดีกว่า โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษที่ตรงไหน แม้จะออกสตาร์ทด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมในช่วงแรกแต่สุดท้ายความไม่สม่ำเสมอและการก่อความผิดพลาดส่วนตัวให้เห็นบ่อยครั้ง เฝ้าเสาในลีกไป 19 นัด เสียถึง 25 ประตู ทำให้ปัจจุบัน เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมต้องตัดสินใจดร็อปไปเป็นมือสอง แล้วให้ วิลลี กาบาเยโร ขึ้นมารั้งตำแหน่งมือ 1 ของทีมแทน

4. ซิโมเน ซาซา (ยูเวนตุส สู่ เวสต์แฮม, ยืมตัว)
แข้งรายสุดท้ายที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ตัดสินใจดึงเข้ามาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายไม่อาจสามารถปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้ และผลงานย่ำแย่ถึงขั้นที่ สลาเวน บิลิช กุนซือทีมขุนค้อน ต้องออกมาประกาศจะไม่ส่งเจ้าตัวลงเล่นอีกแล้ว หลังจากผ่านไป 11 นัด ยิงประตูไม่ได้เลย โดยปัจจุบัน ซาซา ลงเล่นให้ บาเลนเซีย ในลา ลีกาสเปน ด้วยสัญญายืมตัวหลังย้ายมาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา


3. วินเซนต์ แยนเซน (อัลค์มาร์ สู่ สเปอร์ส, 18.6 ล้านปอนด์)
ศูนย์หน้าชาวเนเธอร์แลนด์ เพิ่งจะสามาถยิงประตูแบบโอเพ่น เพลย์ ได้สำเร็จ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในเกมที่ สเปอร์ส ไล่ถล่ม มิลล์วอลล์ ขาดลอย 6-0 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ลงสนาม 31 นัด ยิงไป 5 ประตู นอกจากจะน่าผิดหวังในเรื่องการผลิตสกอร์แล้ว 4 จาก 5 ประตูที่ทำได้ยังเป็นลูกจุดโทษอีกต่างหาก จึงไม่แปลกใจที่ แฮรี เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษ จะยังคงเป็นที่พึ่งเพียงคนเดียวในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าของทีมไก่เดือยทอง ณ เวลานี้

2. วิลฟรีด โบนี (แมนฯซิตี สู่ สโต๊ค ซิตี, ยืมตัว)
หลังตัดสินใจย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี มาเล่นให้กับ สโต๊ค ซิตี ด้วยสัญญายืมตัว กองหน้า วัย 28 ปี ก็ได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหอกเบอร์หนึ่งทันทีเมื่อตอนต้นฤดูกาล แต่พอมาถึงชั่วโมงนี้ผลงาน โบนี ถือว่าล้มเหลวสิ้นเชิง เมื่อได้โอกาสลงเล่นเพียง 10 นัด ยิงให้ทีมได้แค่ 2 ประตู พร้อมกับที่ มาร์ค ฮิวส์ กุนซือใหญ่ หมดความอดทนจนตัดสินใจหันไปใช้งาน ปีเตอร์ เคราช์ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ และ ไซโด เบราฮิโน แนวรุกตัวใหม่ที่ไปคว้ามาตอนต้นปี เข้ามาเป็นกำลังหลักในแนวรุกแทนที่ของศูนย์หน้าไอวอรีโคสต์ในที่สุด

1. มุสซา ซิสโซโก (นิวคาสเซิล สู่ สเปอร์ส, 30 ล้านปอนด์)
กลายเป็นการเซ็นสัญญาที่น่าผิดหวังที่สุดของซีซั่นนี้ สำหรับกองกลางดีกรีทีมชาติฝรั่งเศส วัย 27 ปี ที่หลังย้ายมาจาก นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวสูงถึง 30 ล้านปอนด์ (ราว1,200 ล้านบาท) พร้อมกับได้รับการคาดหมายว่าจะเข้ามาเติมเต็มประสิทธิภาพเกมรุกให้กับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ แต่หลังผ่านไป 26 นัด เจ้าตัวกลับไม่ได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการใดๆ ออกมาเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นพาทีมตราไก่เข้าป้ายรองแชมป์ ยูโร 2016 แถมฟอร์มโดยรวมยังได้รับคำชมอย่างมากกับการเล่นที่ดุดันและแข็งแกร่ง
ภายใต้สีเสื้อของสเปอร์ส ซิสโซโก ยิงให้ทีมไปเพียงแค่ 4 ประตู เท่านั้น และมักถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองเสียส่วนใหญ่ ทำให้มีข่าวว่าเจ้าตัวเตรียมเก็บข้าวของย้ายออกจากถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน หลังจบฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ใช้เงินในตลาดนักเตะช่วงมกราคมที่ผ่านมาไปทั้งหมด 95 ล้านปอนด์ (ราว 4,000 ล้านบาท ) สูงสุดลำดับ 2 รองจาก ไชนีสซูเปอร์ลีกของจีน อย่างไรก็ตามจากผลลัพธ์ที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่าบางสโมสรยังล้มเหลวในการคว้าดาวเตะที่ต้องการ ซึ่งนั่นทำให้เชื่อว่าเมื่อตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้เริ่มเปิดทำการเมื่อไหร่ สโมสรเหล่านี้ก็ยังพร้อมจะทุ่มเงินเพื่อดึงผู้เล่นที่ต้องการด้วยเงินจำนวนมหาศาลอีกครั้ง