ยึดที่ป่าทับลานคืนเพิ่ม1ราย พบขายต่อนายทุนสร้างรีสอร์ทหรู

ปฎิบัติการทวงคืนผืนป่า 1ใน 12 นโยบายของรัฐบาล คสช.ที่แถลงต่อสภา ล่าสุด นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ ได้สรุปความคืบหน้าภารกิจปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าทับลานมรดกโลก ในพื้นที่รอยต่อ 2 จังหวัด จ.ปราจีนบุรี และ จ.นครราชสีมา ของชุดปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า พญาเสือ ที่ได้ลงพื้นที่ปราบปรามการบุกรุก–การออกเอกสารสิทธิที่ทับแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานระหว่างวันที่ 19-30 มีนาคม โดยได้ปฏิบัติการติดต่อกัน ตามที่ได้นำเสนออย่างต่อเนื่องในการทวงคืนผืนป่า อช.ทับลานพื้นที่ จ. ปราจีนบุรี และจังหวัด นครราชสีมา โดยเป็นปฏิบัติการวันที่ 6

โดยปฎิบัติการที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 20 -27 มีนาคม สามารถทวงคืนผืนป่า มรดกโลกทับลานจากผู้บุกรุกบุกรุก รวมพื้นที่ 2,295 ไร่ มีผู้บุกรุกรวม 53 รายส่งดำเนินคดี 25 คดี พบสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ท-บ้านพักตากอากาศรวม 12 หลัง

และล่าสุดจากการตรวจสอบแปลงที่ดินท้องที่หมู่ที่ 1 ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พบว่าอาคารสิ่งปลูกสร้างสำหรับบริการและเป็นที่พักอาศัยผู้รับจ้างเฝ้า/ดูแล และอาคารสิ่งอำนวยความสะดวกจำนวน 13 หลัง เนื้อที่ 4 ไร่ 3 งานโดยมีนางอุทัย หล้าคำภา คนจังหวัดระยอง เป็นเจ้าของ โดยจ้างให้นายสมหมาย พงษ์คำ เป็นผู้ดูแล

และจากการตรวจสอบพบว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของนายโอฬาร ศรีบัวลา ซึ่งได้รับโอนต่อทางมรดกจากบิดา คือ นายสมพร ศรีบัวลา ที่ได้รับการจัดสรรตามเงื่อนไขการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินทำกิน ต่อมานายโอฬาร ได้ขายต่อให้นางเอง แซ่อี้ คนจังหวัดระยองไร่ละ 450,000บาท จำนวน 4ไร่ 3 งาน ทางคณะเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งว่าเป็นทำผิดเงื่อนไขแห่งการครอบครองที่ดินทำกิน จึงขอให้ผู้ครอบครองแปลงที่ดินนำเอกสารการครอบครองที่ดินที่ทางราชการจัดทำไว้ให้นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตรวจสอบและทำบันทึไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเตรียมร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจท้องที่เพื่อดำเนินการต่อไป