รู้หน้าไม่รู้ใจ! หนุ่มหน้าตาดีฉกเงินยายหนีลอยนวล

รู้หน้าไม่รู้ใจ! หนุ่มหน้าตาดีฉกเงินยายหนีลอยนวล

รู้หน้าไม่รู้ใจ! หนุ่มหน้าดีแต่งตัวภูมิฐานอาศัยทีเผลอฉกเงินสดยายวัย 71 ปีกว่า 4 หมื่นบาทหนีลอยนวล ตร.รุดตรวจสอบเร่งล่าตัว

เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี อายุประมาณ 30 – 35ปี รูปร่างสูง ผิวขาว แต่งกายภูมิฐาน ขับรถปิกอัพสี่ประตู สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดบริเวณหน้าบ้านของนางละม่อม ฉะมารัมย์ อายุ 71 ปี ที่จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำและอาศัยอยู่คนเดียวลำพัง จากนั้นชายหนุ่มคนดังกล่าวได้เดินเข้าไปในร้านทำทีขอแลกเงิน และซื้อธูป เทียน จากยายละม่อม เจ้าของร้าน โดยบอกว่าจะนำไปกราบไหว้พระทำบุญที่วัดบ้านปราสาท ซึ่งอยู่ติดกับร้านขายของชำดังกล่าว แต่เมื่อได้ธูปเทียนแล้วหนุ่มคนร้าย กลับไม่ยอมออกจากร้าน ยังทำทีเดินเลือกของในร้านถามซื้อโน่นนี่อีกหลายอย่าง

จากนั้นยายละม่อม ได้เดินเข้าไปหยิบเงินในกระเป๋าที่เก็บไว้ในห้องนอนเพื่อจะนำมาทอน หนุ่มคนดังกล่าวก็แอบไปส่องดู ซึ่งจังหวะนั้นก็มีพระในวัดเดินออกมาซื้อของและมองเห็นพอดี แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เพราะคิดว่าเป็นลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้าน กระทั่งยาย เดินออกมาตักน้ำแข็งหน้าร้าน หนุ่มคนดังกล่าวจึงอาศัยทีเผลอเดินเข้าไปหยิบเอากระเป๋าสะพายของยาย ที่มีเงินสดที่เก็บสะสมจากการซื้อขายของชำกว่า 40,000 บาท ที่วางไว้บนเตียงในห้องนอนแล้วรีบขับรถหลบหนีไป พอยายนึกได้จะกลับเข้าไปเก็บกระเป๋าก็ตกใจเพราะไม่พบกระเป๋าไปแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านด่าน ให้มาตรวจสอบและเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ยายละม่อม บอกว่า ตนอาศัยอยู่คนเดียวลำพังเพราะไม่ได้แต่งงาน มีเพียงญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่ใกล้กัน ส่วนเงินที่ถูกขโมยเป็นเงินที่เก็บสะสมจากการขายของชำ สาเหตุที่ไม่นำเงินไปฝากธนาคารเพราะสะดวกในการซื้อของมาขาย จึงซ่อนไว้ใต้หมอนในห้องนอนแต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะนี้ และไม่คาดคิดว่าคนที่หน้าตาดีแต่งตัวดีมีรถยนต์ขับ จะกลายเป็นโจรขโมย ก็อยากฝากถึงคนร้ายที่ขโมยกระเป๋าเงินไป ว่าให้เอามาคืนและไม่ควรจะไปทำกับใครแบบนี้มันเป็นบาปกรรม ควรจะไปทำมาหากินด้วยลำแข้งของตัวเองอย่าไปซ้ำเติมคนอื่น เพราะขนาดยายอายุ 71 ปีแล้วยังทำมาหากินเองไม่ได้เดือดร้อนใคร

ด้านหลวงตาจุม พระลูกวัดบ้านปราสาท บอกว่า ขณะเดินออกมาซื้อของใช้ที่ร้านยายละม่อม ก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่งตัวดี เดินเข้ามาซื้อของในร้านเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพียงแต่คิดในใจว่า แต่งตัวก็ดีขับรถราคาแพง แต่ทำไมมาถามซื้อของราคา 5 บาท 10 บาท ทั้งที่ไม่ใช่คนละแวกนั้น เพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ซึ่งก็เห็นผิดสังเกตขณะที่ยายเดินเข้าไปในห้องนอน ก็เห็นชายคนดังกล่าวไปยืนมองอยู่ใกล้กับประตูห้อง แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรเพราะไม่คิดว่าจะเป็นคนร้าย พอซื้อของเสร็จก็เดินกลับเข้าวัด จนมาทราบข่าวอีกทีว่ามีคนร้ายเข้าไปขโมยกระเป๋าเงิน จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นชายหนุ่มคนดังกล่าว

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านด่าน ก็ได้เดินทางไปตรวจสอบร้านค้าที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามข้อมูลจากยายผู้เสีย และชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ทั้งจะตรวจสอบว่ามีกล้องวงจรปิดใกล้เคียงหรือไม่ เพื่อจะได้ใช้เป็นหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป