ขนส่งแจงเกณฑ์คาดเข็มขัดนิรภัย ใช้ก่อนสงกรานต์

ขนส่งแจงเกณฑ์คาดเข็มขัดนิรภัย ใช้ก่อนสงกรานต์

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. ประชุมร่วมกับตัวแทนกรมการขนส่งทางบก และธนาคารกรุงไทย

เพื่อหารือในประเด็นประเภทรถ และการเชื่อมข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับกรมขนส่งทางบกเข้าด้วยกัน ที่ห้องประชุม 5 ชั้น 3 อาคาร 1 ตร.

พล.ต.ท.วิทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งการเก็บค่าปรับสำหรับคนทำผิดกฎจราจร ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร มีการฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวนมาก นำมาซึ่งความสูญเสีย จึงเป็นที่มาของคำสั่งคสช.ที่14/2560 ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถทุกคัน และสามารถชำรับค่าปรับได้เลย ซึ่งตอนนี้ระบบของขนส่งทางบกกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีลิงค์ข้อมูลกันอยู่ระดับหนึ่ง แต่ระบบใบสั่งของสำนักงานตำรวจ ก็มีธนาคารกรุงไทยเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ชิฟ ในการอำนวยความสะดวกการชำระค่าปรับ ส่วนจะสามารถชำระค่าปรับได้เลยหรือไม่นั้น ต้องขอเวลาดำเนินการด้านเทคนิคประมาณ 1 เดือน และขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบใบสั่งใหม่ โดยมีการระบุฐานคะแนนสำหรับผู้ขับขี่ เช่น ถ้าขับรถเร็วจะต้องถูกตัด 30 คะแนน ถ้าถูกตัดเกิน 60 คะแนนต้องเข้าอบรม ซึ่งกรณีนี้บังคับใช้กับรถแท็กซี่ด้วย ส่วนคนที่ไม่ถูกหักเลยก็มีการยกย่อง โดยจะเริ่ม 30 วัน หลังจากนี้

ด้านนายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมขนส่งทางบก ชี้แจงกรณีการบังคับให้รถทุกที่นั่งต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ว่า เรื่องนี้กรมขนส่งทางบกมีการบังคับใช้กฎหมาย 2 ส่วน คือ กฎหมายรถยนต์ และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก สำหรับรถยนต์ที่นั่งบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่จดทะเบียนระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2531 - 31 ม.ค. 2555 และรถแท็กซี่ ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า ต้องมี และคาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนรถแท็กซี่ ที่จดทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2554 กำหนดให้มีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ส่วนรถตู้ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2555 ต้องมีและคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ส่วนของรถกระบะ (ปิกอัพ) ในส่วนของผู้ขับขี่และคนนั่งด้านหน้า ต้องมีและคาดเข็มขัดนิรภัย ยกเว้นรถสองแถว รถกระบะมีแคป และรถสามล้อเครื่อง ที่บังคับเฉพาะคนขับและผู้โดยสาร เนื่องจากไม่เหมาะแก่การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเพิ่มเติม

นายกมล กล่าวอีกว่า ส่วนการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก กรณีรถบรรทุก บังคับให้มีและต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ส่วนรถโดยสารหมวด 2 และ หมวด 3 ไม่เกิน 20 ที่นั่ง ที่วิ่งระหว่างกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด และวิ่งระหว่างจังหวัด รวมถึงรถบัสขนาดใหญ่ที่วิ่งในมหาวิทยาลัย จะบังคับให้มีและใช้เข็มขัดนิรภัย ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า รวมทั้งมีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง โดยจะให้มีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันเช่นกัน สำหรับกรณีรถแท็กซี่ อนุญาตให้บรรทุกผู้โดยสารทั้งคันไม่เกิน 5 คน รวมคนขับ โดยทุกที่นั่งต้องมีและใช้เข็มขัดนิรภัย หากฝ่าฝืน คนขับจะมีความผิดฐานยินยอม ส่วนผู้โดยสารจะมีความผิด ฐานไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับคนละไม่เกิน 500 บาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์ให้มีการติดตั้งให้ครบทุกที่นั่ง ซึ่งมาตรการทั้งหมดจะดำเนินการก่อนช่วงเทศสงกรานต์ เพื่อลดอุบัติเหตุ