หุ้นสหรัฐฟื้นตัว

หุ้นสหรัฐฟื้นตัว

ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ก่อนหน้าที่สภาสหรัฐ จะลงมติเกี่ยวกับแผนประกันสุขภาพฉบับใหม่ 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) ลดลง 6.71 จุด หรือ 0.03% ที่ 20,661.3. จุด ส่วนดัชนีเอส แอนด์พี 500 ปรับขึ้น 4.43 จุด หรือ 0.19% มาอยู่ที่ 2,348.45. จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 27.82 จุด หรือ 0.48% ที่ 5,821.64 จุด

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดกำลังรอดูท่าทีของสภา หลังจากที่พันธมิตรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในสภาคองเกรส ไม่ได้เลื่อนการลงมติเกี่ยวกับแผนประกันสุขภาพออกไป สะท้อนถึงความเชื่อมั่น ที่มีต่อนโนบายนี้

อย่างไรก็ดี ความกังขาถึงการดำเนินนโยบายต่างๆ ของผู้นำสหรัฐ ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดยุโรปอยู่ แต่เหตุการณ์โจมตีในอังกฤษ ส่งผลต่อตลาดไม่มากนัก 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน อังกฤษ ลดลง 0.7% มาอยู่ที่ 7,324.72 จุด ขณะดัชนี DAX 30 ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี ลดลง 0.5 % ที่ 11,904.12 จุด และดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศส ลดลง 0.2% ปิดซื้อขายที่ 4,994.70 จุด 

น้ำมันดิ่งหนัก

ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดนับแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว หลังข้อมูลชี้ ปริมาณน้ำมันสำรองในสหรัฐเพิ่มขึ้นเร็วเกินคาด สร้างความกังขาถึงประสิทธิภาพในแผนการลดผลิตน้ำมัน ภายใต้การนำของโอเปค 

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส กำหนดส่งมอบเดือน พ.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.4% มาอยู่ที่ 48.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยระหว่างการซื้อขายร่วงลงไปถึง 47.01 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุด นับแต่วันที่ 30 พ.ย. ปีที่แล้ว

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ส่งมอบเดือนเดียวกัน ในตลาดลอนดอน อังกฤษ ลดลง 32 เซนต์ หรือ0.6% มาอยู่ที่50.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เห็นพ้องที่จะลดปริมาณการผลิตลงมา

ตลาดน้ำมันเดินสู่ขาลง หลังรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (อีไอเอ) ของสหรัฐ ระบุว่า ปริมาณน้ำมันสำรองจองสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นเกือบ 5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 533.1 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล