กสทช.โยน 'บิ๊กตู่' ชี้ขาดคุณสมบัติ 'สุภิญญา'
"กสทช." โยน "บิ๊กตู่" ฟันธงคุณสมบัติ "สุภิญญา" เป็นกรรมการกสทช.ต่อหรือไม่ หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาให้รอกำหนดโทษคดีบุกรัฐสภา
ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดกสทช. ว่า บอร์ดได้พิจารณากรณี น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกสทช. ทำหนังสือแจ้งยุติการปฏิบัติหน้าที่มายังสำนักงาน กสทช.เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองต่อได้หรือไม่ หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาให้รอการกำหนดโทษคดีบุกรัฐสภาเพื่อขัดขวางการพิจารณาร่างกฎหมาย เมื่อปี 2553
ทั้งนี้ บอร์ดได้พิจารณาเห็นว่า กรณีดังกล่าวอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) มาตรา 7 คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามกรรมการ โดยวงเล็บ 7 บัญญัติไว้ว่ากรรมการกสทช. จะต้องไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดใด เว้นแต่เป็นการกระทำความผิดโดยประมาทฯ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับมาตรา 20 ในการพ้นออกจากตำแหน่งของกรรมการกสทช. การจะให้พ้นจากตำแหน่งต้องนำกราบบังคมทูลฯ ให้พ้นจากตำแหน่ง ประกอบกับกสทช.ไม่มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดเอง ซึ่งผู้มีอำนาจวินิจฉัยแทนตามพ.ร.บ.กสทช. คือนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมจึงให้สำนักงานฯ นำเรื่องส่งให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้วินิจฉัยต่อไป
"สำนักงานกสทช.จะส่งเรื่องดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ซึ่งนายกฯ อาจส่งเรื่องให้กับกฤษฎีกาตีความอีกครั้ง ทั้งนี้ หากตัดสินกันในตอนนี้คือ คุณสุภิญญา ยังไม่พ้นจากตำแหน่ง แต่เป็นการขอยุติการปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน"
นายฐากร กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบประกาศการนำสายโทรคมนาคมสื่อสารลงดิน เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในการนำสายลงดิน และเป็นการสร้างทัศนียภาพที่สวยงาม โดยการดำเนินการให้ตระหนังถึงความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน สำหรับค่าใช้จ่ายในการเช่าท่อร้อยสาย ผู้ประกอบการกับผู้ให้เช่าท่อจะตกลงกันเองก่อนหากตกลงกันไม่ได้จะใช้สูตรคำนวณของกสทช.คืออัตราค่าเช่า 17,000 -19,000 บาทต่อกิโลเมตร