'กรุ๊ปลีส' ยันเรียกหลักประกันคุ้มเสี่ยง

'กรุ๊ปลีส' ยันเรียกหลักประกันคุ้มเสี่ยง

กรุ๊ปลีสยันเรียก "หลักประกัน" คุ้มเสี่ยง เปิดรายชื่อผู้กู้จากสิงคโปร์-ไซปรัส ยันไม่เกี่ยวข้องกัน ก.ล.ต.ยู่ระหว่างรอข้อมูลการซื้อขายจากตลาดหลักทรัพย์

กรุ๊ปลีสเปิดข้อมูลผู้กู้ 2 กลุ่ม แจงไม่มีความเกี่ยวข้องกันระหว่างผู้กู้และบริษัท ยืนยันเรียกหลักประกันสอดคล้องความเสี่ยง ไม่จำเป็นต้องตั้งสำรองเพิ่ม ด้านสำนักงานก.ล.ต.ระบุ ยังรอข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ 

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL แจ้งตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับข้อมูลการปล่อยกู้ของบริษัท Group Lease Holdings Pte. Ltd. (GLH) มีการให้กู้ยืมเงินแก่ผู้กู้รวม 10 ราย รวมถึงผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์และไซปรัส เป็นยอดหนี้เงินต้น ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2559 รวม 3,475.89 ล้านบาท และมีดอกเบี้ยค้างรับ 268.469 ล้านบาท

รายชื่อผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ประกอบไปด้วยผู้กู้จำนวน 4 ราย ได้แก่ 1. บริษัท Cougar Pacific Pte. Ltd. (นิติบุคคลจัดตั้งตามกฎหมายประเทศสิงคโปร์) 2. บริษัท Kuga Reflorestamento Ltda. (นิติบุคคล จัดตั้งตามกฎหมายประเทศบราซิล) 3. นาย Tep Rithivit (บุคคลสัญชาติกัมพูชา) และ 4. บริษัท Pacific Opportunities Holdings S.à r.l. (นิติบุคคล จัดตั้งตามกฎหมายประเทศลักเซมเบิร์ก)

ทั้งนี้ ผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์เป็นกลุ่มบริษัท จัดตั้งตามกฎหมายประเทศสิงคโปร์ ประเทศบราซิล ประเทศลักเซมเบิร์ก และประเทศกัมพูชา มูลค่าหลักประกันของเงินกู้ยืมกลุ่มสิงคโปร์ ณ วันที่ 28 ก.พ. 2560 เท่ากับ 140.043 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วยที่ดินในประเทศบราซิล มูลค่าราว 30.1 ล้านดอลลาร์ และหุ้นสามัญของบริษัทมูลค่าประมาณ 109.9 ล้านดอลลาร์ มียอดดอกเบี้ยค้างรับ จำนวน 4.83 ล้านดอลลาร์

ผู้กู้กลุ่มไซปรัสประกอบไปด้วยผู้กู้จำนวน 4 ราย เป็นนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมายประเทศไซปรัส ประกอบไปด้วย 1. บริษัท AREF Holdings Limited 2. บริษัท Adalene Limited 3. บริษัท Bellaven Limited และ 4. บริษัท Baguera Limited

มูลค่าหลักประกันของเงินกู้ยืมกลุ่มไซปรัส ณ วันที่ 28 ก.พ. 2560 เท่ากับ 43.149 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ (บ้านและอพาร์ตเมนต์) พันธบัตรรัฐบาลระยะกลางของประเทศไซปรัส หุ้นบริษัทจำกัด และหุ้นสามัญของบริษัท หลักประกันดังกล่าวได้รับการประเมินโดยผู้ประเมินราคาอิสระ เนื่องจากยังไม่มีราคาตลาด หากไม่รวมหุ้นสามัญของบริษัท มูลค่าหลักประกันจะมีจำนวนประมาณ 23,698,202 ดอลลาร์ โดยกลุ่มไซปรัส มียอดดอกเบี้ยค้างรับ ณ วันที่ 28 ก.พ. 2560 มีจำนวน 23,698,202 ดอลลาร์

ทั้งนี้ รายได้ดอกเบี้ย จากผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มรวมกันในปี 2559 เป็นเงินจำนวน 13.55 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 485 ล้านบาท) โดย GLH ได้รับชำระในปี 2559 ประมาณ 6.10 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 218 ล้านบาท) ส่วนที่เหลือประมาณ 7.45 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 267 ล้านบาท) ได้รับคืนในเดือนก.พ. 2560 จำนวน 3.42 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 123 ล้านบาท) ส่วนที่เหลือ 4.03 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 144 ล้านบาท) ได้ส่งใบแจ้งหนี้ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ม.คง 2560 ซึ่งคาดว่าจะได้รับชำระประมาณเดือนเม.ย. 2560

บริษัทยืนยันว่า ปัจจุบัน กรุ๊ปลีส โฮลดิ้งส์ (GLH) ยังไม่มีการกำหนดนโยบายการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และมาตรการดำเนินการในกรณีดังกล่าว สำหรับเงินที่ GLH ให้กู้ยืม ตามปกติ GLH จะพิจารณา การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเป็นรายกรณีไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้กู้ทั้ง 2 กุล่มนี้ได้ชำระดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดอย่างสม่ำเสมอ บริษัทจึงไม่ได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ

ด้านนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวถึง ความคืบหน้าของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) GL กรณีผู้สอบบัญชีตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการปล่อยกู้ และการคิดหลักประกัน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ราคาหุ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอย่างหวือหวา โดยระบุว่า ก.ล.ต.ยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการใดๆ กับบริษัทได้ เนื่องจากจะต้องรอตลท.ตรวจสอบข้อมูลที่กรุ๊ปลีส ได้ชี้แจงเข้ามาเสร็จสิ้น และแจ้งความผิดเข้ามายังก.ล.ต.ก่อน ซึ่งหากมีความผิดจริงจึงจะสามารถลงโทษได้

ก่อนหน้านี้ นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) GL กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาการรับซื้อหุ้นของบริษัทคืนหลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปมาก โดยปัจจุบันบริษัทมีเงินสดกว่า 2,500 ล้านบาท ที่พร้อมจะดำเนินการ ซึ่งต้องรอการตัดสินใจอีกครั้ง และวาระนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทแต่อย่างใด