‘ราคาคุย’หรือ’เรื่องจริง’ เกริก มีมุ่งกิจ

‘ราคาคุย’หรือ’เรื่องจริง’  เกริก มีมุ่งกิจ

ถ้าอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ จะรู้ว่ารายได้จากการเกษตรวันละสองหมื่นบาท เขาทำได้จริง

 

ถ้ากล่าวถึง ดร.เกริก มีมุ่งกิจ ในแวดวงเกษตรกร รู้จักเขาเป็นอย่างดี 

ก่อนหน้าที่เขาจะเป็นเกษตรกรเต็มตัว เขาจบด้านวนเกษตรจากฟิลิปปินส์ ไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่หลายปี จากนั้นเข้าสู่วงการนายหน้าค้าที่ดิน กลายเป็นคนหนุ่มที่ร่ำรวย แต่ในที่สุด เพราะความโลภ ทำให้ถูกโกง มีหนี้สินมากมาย

และสิ่งเดี่ยวที่เขาทำได้ตอนนั้น ก็คือ กลับมาเป็นเกษตรกร แล้วก็พบว่า นี่คือความสุข และยังทำให้ปลดหนี้ได้ด้วย

เขาบอกว่า ทำการเกษตร อย่าเอาเงินเป็นตัวตั้ง และนั่นทำให้เขารู้ว่า ความเพียรเท่านั้นแหละที่จะพาชีวิตรอด

ณ วันนี้ พื้นที่ทางการเกษตรของเขา เปิดเป็น วิสาหกิจชุมชนวนเกษตรเขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตร นอกจากนี้้เขายังร่วมก่อตั้งโครงการคนกล้าคืนถิ่น ชวนคนกลับมาพัฒนาบ้านเกิด

คลิปคนกล้าคืนถิ่น ที่มีเขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ มีคนเข้ามาชมหลักล้าน และคนจำนวนหนึ่ง ก็ตั้งคำถามว่า “เขามีรายได้วันละสองหมื่นบาทจริงๆ หรือ”

นอกจากนี้เขายังบอกว่า เขาสามารถสร้างผลผลิตทางการเกษตรได้มากกว่าเกษตรกรทั่วไปกว่า 10 เท่า

ทำไมเขาทำได้....

ทำไมทำการเกษตร ไม่ควรเอาเงินเป็นตัวตั้ง

ใครคิดจะทำการเกษตร ต้องชอบก่อน ถ้าไม่ชอบ อย่ามา จะท้อง่าย เพราะทำเกษตรไม่ใช่โลกสวย มันเหนื่อย กว่าจะได้วันละสองหมื่นบาท ไม่ใช่ง่ายๆ ถ้าคุณเอาเงินเป็นตัวตั้งก็ยาก เกษตรกรบางคนล้มเหลวแล้วล้มเหลวอีก ก็ต้องทน การเป็นเกษตรกรไม่ใช่ว่าปลูกข้าวแล้วได้ข้าว ปลูกผักแล้วได้ผัก ระหว่างทางมีตัวแปรมากมาย ต้องทนและเอาใจใส่ เหมือนการทำงานกินเงินเดือน ก็ต้องทำเกือบทุกวัน เกษตรก็ต้องอยู่พื้นดินตั้งแต่เช้ายันเย็น เมื่อผมเริ่มทำ ผมก็ศึกษาเรียนรู้ อีกอย่างในประเทศไทยสภาพพื้นดินไม่มีที่ไหนกันดาร อย่างในอิสราเอลเป็นทะเลทราย ทำไมสินค้าส่งออกของเขา ยังเป็นพืชพรรณธัญญาหารได้

 

ตอนที่เริ่มต้น อาจารย์ทำยังไง

ผมไม่จำเป็นต้องเอาชนะธรรมชาติ ผมทำตามธรรมชาติ มันเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น อย่าฝืนธรรมชาติ ใครฝืนธรรมชาติเสียหายทุกราย ตอนนั้นผมก็ไม่มีที่ดิน ผมก็ไปตั้งเตาเผาถ่าน เพาะกล้าไม้ ใช้ที่ดินทางหลวงข้างทางนั่นแหละ

แรกๆ ทำคนเดียวหรือ

    ใช่ ไม่ว่าจะจบด็อกเตอร์ หรือจบประถมสี่ ผมก็ยังเป็นคนเดิม ไม่เห็นมีเกียรติอะไร เรื่องแบบนี้ ผมเริ่มคิดได้ตอนที่ผมล้มละลาย ไม่มีเงิน คนเราถ้ามีเงิน เรียนสูงๆ ก็มีเกียรติหรือ เกียรตินี่เป็นหน้ากาก ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ได้รับการยกย่องใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเกียรติคือเงินใช่ไหม ชีวิตคนเราไม่ใช่เอาเงินเป็นตัวตั้ง

ถ้าไม่เป็นหนี้ จะคิดแบบนี้ไหม

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะคิดแบบนี้ไหม บางคนรวยล้นฟ้าเพิ่งนึกได้ ก็มีบ้างที่ผมท้อ แต่ไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย ยังรักชีวิตอยู่ คนเราถ้ามาถึงจุดเปลี่ยน มนุษย์ทุกคนเอาตัวรอดได้ ไม่มีใครยอมอดตาย แล้วอยู่เฉยๆ

เริ่มจากเผาถ่าน ?

ตอนนั้นไม่มีที่ดิน เห็นว่ามีไม้ทิ้งๆ ขว้างๆ เยอะ ก็เลยเอามาเผาถ่าน และทำน้ำส้มควันไม้ เพาะเมล็ดพันธุ์ ก็คงมีคนคิดว่าผมบ้า กระบวนการเผาถ่าน ทำให้ผมต้องใส่ใจในสิ่งที่ทำ จากนั้นก็ทำปุ๋ยเอาไว้ใช้ มีเมล็ดพันธุ์อะไร ก็เพาะเอาไว้ คนเห็นก็มาขอซื้อ ตอนแรกก็ไม่คิดจะขาย แต่รู้ว่าต้นไม้มีประโยชน์ เวลามีใครมาถามเรื่องต้นไม้ก็ตอบ คนก็มาซื้อ ซื้อไปซื้อมาก็กลายเป็นลูกค้าประจำ

 

ไม่คิดจะขายต้นไม้ แต่ก็ทำ ?

เราไม่ได้คิดจะทำธุรกิจ การเกษตรไม่ใช่ธุรกิจที่จะลงทุนแล้วได้กำไร มันเป็นความชอบ เมื่อลงแรงแล้ว ก็มีความสุขกับสิ่งที่ทำ เราไม่ได้หวังว่า ทำแล้วจะมีเงินเท่านั้นเท่านี้ แต่เห็นว่า เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนเผาถ่าน ผมก็เอากิ่งไม้ข้างทางที่คนตัดกิ่งทิ้ง มาเผาถ่าน ปีหนึ่งผมสร้างรายได้แค่ล้านกว่าบาท

สร้างมูลค่าจากกิ่งไม้ที่คนทิ้งๆ ขว้าง ๆ ?  

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า จะเผาถ่าน ต้องใช้ไม้เนื้อแข็ง ไม้ดีๆ แต่ผมใช้กิ่งไม้ มีไม้อะไร ผมก็เผาไปเรื่อย ไม้ใหญ่ๆ ผมไม่เอามาเผา เพราะเผายาก และผมทำเตาเผาถ่านเอง

 

เมื่อมีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วใช้หนี้หมดไหม

   ก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะต้องใช้หนี้ บอกเจ้าหนี้ไปว่า ไม่มีไม่จ่าย ถ้ามีจะจ่ายเอง ดอกเบี้ยไม่เสีย เพราะจ่ายไปเยอะแล้ว ตอนนั้นเป็นหนี้กว่าสามล้านบาท จ่ายไปจนเหลือสามแสน ถ้าเจ้าหนี้ไม่เอาก็หยุดจ่าย เราก็เตรียมพื้นดินของเราที่เคยติดสัญญาเช่าไว้ปลูกต้นไม้

 

จากเผาถ่าน พัฒนาอะไรต่อ ? 

   ปกติแล้วพืชมีอาหารในดินอยู่เยอะ แต่มันกินไม่ได้ เนื่องจากเราไม่ได้ทำดินให้มีความสมดุลในเรื่องความเป็นกรดและด่าง คืหัวใจสำคัญของการเกษตรคือ ดิน จะปลูกพืชอะไร อย่างไร ไม่สำคัญเท่าทำดินให้ดีก่อน และทำการเกษตร อย่าตั้งต้นที่เงินก่อน

 

ทำอย่างไรให้ผลผลิตทางการเกษตรปริมาณเยอะกว่าเกษตรกรทั่วไป

ทำง่าย แต่จะทำหรือเปล่า ยกตัวอย่าง การเผาถ่าน ก็ต้องใส่ใจ ต้องเฝ้าดูให้ไม้ที่เผามีความพอดี การเผาถ่านก็ไม่ยาก แค่เก็บกิ่งไม้มาเยอะๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะทนเหนื่อยได้ไหม เหมือนการปลูกข้าว กว่าจะข้าว ใช้เวลาสี่ห้าเดือน ทนรอได้ไหม

ที่ผมบอกว่า มีรายได้วันละเท่านั้นเท่านี้ เพราะผมกำลังสู้อยู่กับทุนนิยม ผมก็ต้องเอาทุนนิยมล่อ ถ้าผมเริ่มเล่าในคลิปว่า มีชายแก่ๆ คนหนึ่ง กวาดใบไม้มาหมักเป็นดิน เผาถ่าน เพาะกล้าไม้ แล้วสุดท้ายบอกว่า เขามีรายได้วันละสองหมื่น จะกระชากใจไหม แต่ผมเริ่มจากการทำเกษตรของผมมีรายได้วันละสองหมื่น ซึ่งคนต้องดูคลิปให้จบ แล้วจะรู้ว่า จริงๆ แล้ว สิ่งที่ผมบอกคือความเพียร

   ถ้ารู้จักธรรมชาติ ก็จะสร้างผลผลิตได้เยอะ จะปลูกข้าวให้แตกกอเยอะๆ ต้องปลูกให้ห่างกัน 50 เซนติเมตร ไม่แย่งอาหารกัน การใส่ปุ๋ยเป็นเรื่องที่ผิด เหมือนการคลอดลูกแล้วเลี้ยง คนเราต้องคิดตั้งแต่ยังไม่ผสมพันธุ์ พ่อแม่เชื้อดีไหม และต้องเลี้ยงลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ การเกษตรก็ต้องเตรียมดินให้พร้อม ต้องวางแผน ปุ๋ยต้องใส่แรกก่อนปลูก ใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพราะมันจะค่อยๆ ปล่อยอาหาร ไม่ใช่ใส่ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยแบบนั้นอยู่ได้ไม่นาน พืชกินไม่กี่วันก็หมด หรือเอาหญ้าใบไม้ทับถมกันเยอะๆ ในแปลงนา เพื่อทำให้หน้าดินดี

ถ้าทำจริง ทำได้หมด แต่เกษตรกรไม่มีความเพียร การทำดินให้ดีไม่ใช่เรื่องยาก ผมปลูกข้าวไร่หนึ่งได้ผลผลิตหกตันครึ่ง เกษตรกรส่วนใหญ่ได้สี่ร้อยกิโลกรัม จริงๆ แล้วทำได้มานานแล้ว แต่คนไม่ทำ ไปฝืนธรรมชาติ

 

ทำไมพูดง่ายจัง

ที่ทำยาก เพราะคนไม่มีความเพียร ผมเก็บใบไม้ใบหญ้าที่เขาทิ้งๆ กว่าสิบกระสอบมาใช้ เรื่องแบบนี้อาศัยความเพียร ซึ่งคนไทยไม่ทำ ช่วงหลั่อใงผมเอากระสอบไปให้คนตัดหญ้า ตัดเสร็จให้้เขามาโยนไว้ที่นาผม แล้วผมเอาเหล้าไปให้ดื่ม

 

นำวิธีการตลาดมาใช้ในคลิป เพื่อให้คนสนใจการเกษตร ? 

ไม่ใช่การตลาด แต่เป็นจิตวิทยามนุษย์ เพราะเรารู้ว่า เรากำลังสู้กับอะไร และต้องสู้ให้ขาด ถ้าไม่ขาดไม่ได้ เริ่มต้นบอกไปเลยว่า คนส่วนใหญ่มีเงินเดือนๆ ละสองหมื่น ผมบอกว่ากระจอก ผมมีรายได้วันละสองหมื่น คนก็ต้องอยากรู้ว่า ผมทำอะไร สิ่งที่ผมพูดในคลิป คุณต้องดูตั้งแต่ต้นจนจบ

ใส่ความคิดสร้างสรรค์แบบคนโฆษณา ?

เป็นเรื่องจิตวิทยามนุษย์ อีกอย่างการเรียนก็สำคัญ ถ้าผมไม่ได้จบด็อกเตอร์ ผมเป็นชาวนา ก็คงคิดไม่ออก ไม่ใช่ว่าผมจบด็อกเตอร์แล้วได้เปรียบคนอื่น แต่ผมจะบอกว่า การเล่าเรียนทำให้ผมมีแง่มุมในการคิด รวมถึงการสะสมทางสติปัญญา

ผมมองว่า การเรียนสำคัญ แต่อยู่ที่ว่าไม่ได้เรียนเพื่อเรียน ต้องเรียนเพื่อมีแนวคิด คุณดูคลิปล่าสุดที่ผมชวนเชิญคนมางานคนกล้าคืนถิ่น แค่ห้าวันมีคนเข้าไปดูล้านสองแสนวิว ถ้าคุณดูจะเข้าใจว่า ทำไมต้องใส่ปุ๋ย ทำไมต้องเอาน้ำเข้านา ทำไมต้องฉีดยาฆ่าหญ้า ทั้งๆ ที่ทำแบบนี้ล้มเหลว แล้วทำทำไม ถ้าอย่างนั้นมารวมกันตรงนี้ หาคำตอบและตั้งคำถาม

 

อาจารย์เป็นคนคิดสตอรี่บอร์ดในคลิปทั้งหมดหรือ

แน่นอน ผมทำเพื่อกระชากให้คนสนใจด้านการเกษตร

 

แล้วจริงไหมที่บอกว่า มีรายได้วันละสองหมื่นบาท

  ผมมีรายจ่ายวันละสี่หมื่นบาท ถ้าผมไม่มีรายได้วันละสองหมื่นบาท ผมจะอยู่รอดไหม เมื่อก่อนคนมาเรียนกับผมวันละสองร้อยคน ผมจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้คนละสองร้อยบาท แต่ตอนนี้ไม่ให้แล้ว ผมอยากบอกว่า ทำการเกษตรสร้างรายได้ได้จริง แต่ผมทำและสะสมมากี่ปี กว่าจะมาถึงจุดนี้

    แค่อยากให้คนกลับถิ่นฐานบ้านเกิด โดยผมตั้งคำถามว่า การกินเงินเดือน เป็นขี้ข้าคนอื่น มันใช่ชีวิตที่คุณต้องการไหม แล้วทำไมคุณไม่คิดทำอะไรเป็นของตัวเอง จะทำงานตามออเดอร์ตลอดไปหรือ คนส่วนใหญ่กลัวว่าจะไม่มีเงิน ผมต้องการเอาชนะเงิน จึงพยายามบอกว่า อย่ามาทำเกษตรเพื่อเงิน

ถ้าอย่างนั้น จะก้าวพ้นความกลัวเรื่องเงินได้ยังไง

  สมัยก่อนพ่อแม่ผมไม่มีเงิน ผมก็สามารถเรียนจบ เพราะคนเอาเงินเป็นใหญ่ ทำมาหาเงิน แต่โครงการคนกล้าคืนถิ่น สอนให้ทำมาหากิน ถ้าหัดทำบ่อยๆ จะเป็นนิสัย และพัฒนาเป็นสันดาน ทำการเกษตรเพื่อให้คนพึ่งตนเอง โดยไม่ต้องใช้เงิน ถ้าอยากกินอะไรก็ปลูก ทำได้ไหม อะไรที่เราทำเองไม่ได้ก็ใช้เงินซื้อ ไม่ใช่ชีวิตนี้อยู่เพื่อเงินอย่างเดียว ผมสงสารคนในเมือง ไม่มีเงินก็อยู่ไม่ได้

ขั้นตอนในการพัฒนาการเกษตรของอาจารย์ทำอย่างไร

มีช่วงเตรียมกล้าเอาไว้ ตอนที่ผมมีเงินล้านกว่าบาท ผมเนรมิตป่าได้เลย ผมจ้างคนมาปลูกต้นไม้ ทำไมต้องจ้าง เพราะคนแถบนั้นว่างงาน เราก็กระจายรายได้ อีกอย่างผมแค่ศึกษาธรรมชาติที่มีอยู่ ปลูกข้าวต้องปลูกยังไง ข้าวไม่ชอบน้ำขัง ข้าวที่งามที่สุดในผืนนาจะอยู่บนคันนา แม้ผมจะจบด้านวนเกษตร ผมก็ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ พืชจะกินอาหารได้ก็ต่อเมื่อความกรดและด่างมีความเป็นกลาง ถ้าน้ำท่วมขังที่นา ดินก็จะขาดออกซิเจน พืชหาอาหารไม่ได้ แล้วผมก็คำนวณว่า ข้าวจะแตกกอ ต้องทำยังไง ถ้าหว่านถี่ยิบ ข้าวก็แตกกอไม่ได้ เมล็ดจะลีบแย่งอาหารกัน

ยังมีความเชื่อผิดๆ ทางการเกษตรอีกเยอะ ? 

เกษตรทุกวันนี้สอนกันผิดๆ มหาวิทยาลัยที่สอนคนด้านการเกษตร สอนให้ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ไม่ได้สอนแบบบูรณาการ และไม่ได้สอนว่า ในที่ดินแปลงหนึ่ง ต้องมีอะไรบ้าง เรื่องนี้ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงสอนมาทั้งชีวิต แต่คนไม่ค่อยทำ