‘แวร์เด’แตกต่างด้วยวินเทจ

‘แวร์เด’แตกต่างด้วยวินเทจ

ฉีกแนวคอนโดมิเนียมสไตล์มิกซ์ยูซด้วยดีไซน์คอนเซ็ปต์วินเทจคลาสสิก ทั้งกรุกระจกโดยรอบผนัง เฟอร์นิเจอร์และลิฟต์โดยสารสไตล์แอนทีค

ฉีกแนวคอนโดมิเนียมสไตล์มิกซ์ยูซด้วยดีไซน์คอนเซ็ปต์วินเทจคลาสสิก ทั้งกรุกระจกโดยรอบผนัง เฟอร์นิเจอร์และลิฟต์โดยสารสไตล์แอนทีค สร้างความรู้สึกที่มีคุณค่า นึกถึงบรรยากาศความเป็นครอบครัวที่อบอุ่น


“แม้ว่าทำเลที่ตั้งยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่เรื่องการออกแบบก็เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดฯ ถัดมาก็เกี่ยวกับคุณภาพของวัสดุที่ใช้และสิ่งอำนวยความสะดวก มีเทคโนโลยีและการดูแลความปลอดภัย”นางสาวเพชรรัตน์ กิตติบุญโญภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซับเจคทีฟ จำกัด กล่าว


ดีไซน์ย้อนยุคสร้างโอกาส


หลังจากประสบความสำเร็จในธุรกิจร้านอาหาร “มหานาก้า สุขุมวิท 29” ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 10 ปี และธุรกิจสปา ทำให้พบข้อสังเกตว่า “ความแตกต่าง” เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจกับสินค้าหรือบริการ อีกทั้งจากข้อมูลการวิจัย พบว่า คอนโดมิเนียมที่มีจำนวนยูนิตน้อยและตกแต่งแนววินเทจมีไม่มาก น่าจะเป็นโอกาสทางธุรกิจ แม้ว่าจะสวนกระแสกับตลาดก็ตาม จึงเป็นที่มาของโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์แบรนด์ “แวร์เด” (VERDE) มีความหมายเกี่ยวกับความเขียวชอุ่ม แวร์เด อยู่ในซอยสุขุมวิท 49 แยก 15 เป็นอาคารสูงเพียง 7 ชั้น 31 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 45.35-89.76 ตารางเมตร ความสูงพื้นจรดเพดาน 2.85 เมตร ราคาขายเฉลี่ย 1.65 แสนบาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการ 460 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 60% เป็นชาวต่างชาติ (อังกฤษ ญี่ปุ่น ) 30% คาดว่า ก.ค.นี้ พร้อมเข้าอยู่ได้


เธอวางกลุ่มเป้าหมายเป็นนิชมาร์เก็ต เน้นวัสดุก่อสร้างและตกแต่งที่มีคุณภาพ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ไม่ใช่แมสเหมือนคอนโดมิเนียมทั่วไป จุดเด่นแรกคือทำเลอยู่ย่านกลางเมือง ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ และอโศก สามารถเดินทางสะดวกแต่ไม่ได้พลุกพล่าน เนื่องจากแวดล้อมด้วยบ้านขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่สีเขียว มีเส้นทางลัดหลายทาง ไม่จำเป็นต้องพึ่งเส้นสุขุมวิทเท่านั้น


“ขณะนี้คอนโดส่วนใหญ่จะเป็น Mixed Used แต่คอนโดแวร์เดจะเป็นบ้านสไตล์วินเทจคลาสสิก รองรับลูกค้าระดับไฮเอนด์และลูกค้าต่างชาติที่ต้องการที่พักอาศัยที่ให้ความรู้สึกสบาย เป็นส่วนตัว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว”


ประสบการณ์สร้างความเชื่อมั่น


นางสาวเพชรรัตน์ กล่าวว่า พฤติกรรมการซื้อคอนโดมีเนียมของผู้บริโภค มองเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น การซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือให้เช่าต่อก็ตาม ดังนั้น ในฐานะ ดีเวลลอปเปอร์ ต้องใส่ใจในรายละเอียดทุกจุดเสมือนเป็นการสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยเอง และสะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย


“เราออกแบบพื้นให้เพดานสูงถึง 2.85 เมตรเพื่อสร้างความรู้สึกโปร่งสบายเหมือนอยู่บ้านไม่ใช่คอนโด และความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วยThick Solid Wall ผนังหนาพิเศษระหว่างห้อง ป้องกันเสียงลอดผ่านระหว่างยูนิตเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว การออกแบบทิศทางอาคารให้เปิดรับลมและแสงธรรมชาติ แม้ว่าการทำแบบนี้จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นเท่าตัวแต่เรายอมที่จะลงทุน”


ทิศทางของการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเพชรรัตน์ เน้นการพัฒนาโครงการให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย พื้นที่ ทำเลที่มีอยู่ในมือ โดยกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการย่านพระราม 2 และย่านเจริญนคร ในรูปแบบของคอนโดมิเนียม ส่วนย่านเทพารักษ์มีที่ดิน 20-30 ไร่ จะเป็นโครงการทาวน์โฮม ทั้งนี้ขึ้น อยู่กับโอกาส จังหวะเวลาและความพร้อม หลังจากที่ได้ลงทุนคอนโดมิเนียมแวร์เด ออกมาเป็นโครงการแรก
“จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทุกวันต้องเจอปัญหาแต่ไม่มีปัญหาไหนที่แก้ไขไม่ได้ เพราะเราลงไปคลุกคลีด้วยตนเองตั้งแต่ต้น ทำให้รู้ที่มา สาเหตุปัญหาและแนวทางแก้ไขที่ตรงจุดโดยไม่กระทบกระเทือนจนสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมา แต่ต้องยอมรับเป็นงานที่เหนื่อยเพราะลงรายละเอียดเยอะ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนิสัยส่วนตัว แต่เชื่อว่าจะทำให้โครงการต่อไปทำได้ง่ายขึ้น” นางสาวเพชรรัตน์กล่าว