มุมหวานๆของเชฟไก่ ธนัญญา

มุมหวานๆของเชฟไก่ ธนัญญา

ความรักต้องการวันเวลา ขนมหวานก็เช่นกัน

ภาพที่เห็นอาจไม่เป็นจริงเสมอไป

เชฟไก่ ธนัญญา ไข่แก้ว ได้ชื่อว่าเป็นเชฟกระทะเหล็กประเทศไทยที่มีฝีมือทำขนมหวานได้อย่างเก่งฉกาจ ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยทว่าแฝงไปด้วยแววตาดุดันที่ล้มผู้ท้าชิงมาแล้วนักต่อนัก

มาพบตัวจริงของเชฟไก่ ที่ร้านซูเฟล่แอนด์มี (Souffle and Me) ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับกลิ่นไอของขนมอบใหม่จากเตา ยังได้พบกับผู้หญิงหวานๆกับรอยยิ้มอบอุ่นที่เจ้าตัวต้องย้ำว่า นี่ล่ะค่ะเชฟไก่ตัวจริง

กว่าจะเป็นเชฟไก่ในวันนี้

ตอนเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ชอบถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ?

“ไก่ก็เบสิกคะ อยากเป็นหมอ อยากเป็นครู อยากเป็นพยาบาล แอร์โฮสเตส ชีวิตโตมากับคุณย่าซึ่งทำอาหารใส่บาตรทุกเช้า คุณย่าเป็นแม่บ้านอาชีพ มีหน้าที่ไปประกอบอาหารตามบ้านชาวต่างชาติ เช่น บ้านอาจารย์ศิลป์ พีระศรี คุณย่าจะไปทำอาหารที่นั่นทุกวันไปเช้าเย็นกลับ ทำให้คุ้นเคยกับการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก

เห็นคุณย่าทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก” เชฟไก่บอกกับเรา แต่นั่นก็ยังไม่ได้หมายความว่าอยากจะเป็นเชฟในวันข้าง

“เรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย แล้วไปต่อสาขาวิจิตรศิลป์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา

หลังเรียบจบยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ เพื่อนแนะนำว่าโรงแรมโอเรียนเต็ลรับสมัครพนักงานรายวันจำนวนมาก ไปสมัครแล้วได้อยู่ห้องเบเกอรี่ ทำให้ได้เริ่มต้นจากตรงนั้น

ทำงานอยู่ 3 เดือน โรงเรียนวิชาการโรงแรมของโอเรียนเต็ลเปิดภาคการศึกษาพอดี และมีโควต้านักเรียนทุนสำหรับคนทำงานพาร์ทไทม์ ได้รับคัดเลือกให้ได้รับทุนเรียนจนจบหลักสูตร 1 ปี สาขาเบเกอรี่ จบแล้วทำงานที่โอเรียนเต็ล จากนั้นไปเรียนต่อที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ประเทศฝรั่งเศส”

รักหรือเปล่ายังไม่รู้

จากนักเรียนศิลปะมาทำเบเกอรี่ เชฟไก่ยอมรับว่าเป็นศาสตร์ที่เข้ากันได้อย่างดี ทำให้มีมุมมองที่ต่าง และกล้าที่จะแตกต่าง ไม่ยึดติดกับแบบแผนเคร่งครัด

“ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกว่าเราเหมาะกับงานนี้ ด้วยความเป็นเด็กยังไม่รู้ว่าข้างหน้าจะทำอะไร รู้แค่ว่าสนุกและไม่ว่าเราจะหยิบจับอะไร แล้วรู้สึกว่าทำได้ดี มีความถนัด เวลาที่เรามาทำงานจึงเป็นความลื่นไหล คุ้นเคยกับสิ่งที่ทำ ทำออกมาไม่ติดขัด ออกมาได้ดี

เหมือนเด็กที่ถูกหัดให้คิดเลขเร็วมาตั้งแต่เด็ก โตมาก็คิดเลขได้เร็ว คล้ายกับว่าได้รับการฝึกฝนการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก ทำทุกวัน โตขึ้นกลายเป็นความชำนาญ เวลาทำอาหารแล้วสนุกค่ะ”

จบจากฝรั่งเศส เชฟไก่กลับมาทำงานโรงแรมต่อ โดยใช้เวลาช่วงเย็นไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ไม่ได้เรียนเรื่องอาหาร การครัว การโรงแรมอย่างที่หลายคนคิด แต่เลือกเรียนทางนิเทศศาสตร์

“อยากเรียนอะไรที่แตกต่าง ทำให้เราเขียนหนังสือได้ วันนี้เราได้เขียนคุ๊กบุ๊กของตัวเอง”

รู้จักตัวเอง

เมื่อเส้นทางชีวิตชักนำให้เดินมาทางสายนี้แล้ว ชื่อเสียงของเชฟไก่ เริ่มเป็นที่รู้จักในช่วงตัดสินใจมาทำงานที่ อรุณเรสซิเด้นท์ บูติกโฮเต็ล รุ่นบุกเบิกในย่านท่าเตียน

“มีลูกค้าประจำที่สนิทกันบอกว่ามีเพื่อนอยากเปิดบูติกโฮเต็ลตรงย่านท่าเตียน ชวนไปเป็นเชฟที่นั่น ไปแล้วรู้สึกว่างานท้าทาย บูติกโฮเต็ล 5 ห้อง เอ้าท์เล็ตเล็กๆ ริมน้ำ อรุณเรสซิเด้นท์ เลยลาออกจากงานมาทำที่นี่ ทำอยู่ 2 ปี ชื่อเสียงเริ่มเป็นที่รู้จักเพราะด้วยโลเคชั่น ตัวโรงแรม ทำให้นิตยสารแทบทุกฉบับมาสัมภาษณ์ นิตยสารเมืองนอกอย่างไทม์ แมกกาซีน ก็มา”

เมื่อรู้จักตัวเอง มั่นใจในตัวเองแล้ว เชฟไก่เดินทางจากริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไปร่วมงานบุกเบิก อลีลา บูติกโฮเต็ลแห่งใหม่ ที่หาดชะอำ

“เห็นลงประกาศรับสมัครในอินเตอร์เนท เป็นโรงแรมที่ออกแบบโดย ดวงฤทธิ์ บุนนาค ดูภาพ 3D ของโรงแรม อ่านประวัติแล้วน่าสนใจ ไปสมัครคราวนี้ตำแหน่งลดลงเป็น Executive sous chef เงินเดือนก็ลดลง 60 % แต่รู้สึกว่าท้าทาย ไปอยู่ตรงนั้น 3ปี”

ครั้งนี้มีโอกาสได้ทำงานหลายโปรเจค ตั้งแต่ออกแบบเมนู ไปจนถึงเปิดคุกกกิ้งคลาสให้กับชาวต่างชาติ ทำให้ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปไกล เพราะลูกค้าบางคนเป็นนักเขียน บ้างก็เป็นนักชิมแฝงตัวมาแบบไม่ให้รู้ตัว

สู่เส้นทางเชฟกระทะเหล็ก

“ตอนเปิดร้านตัวเอง ไก่แอนด์โจเอล ที่หลังสวน ทางรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทยเพิ่งซื้อลิขสิทธิ์มาช่วงแรก ค้นหาเชฟทั่วประเทศมาเป็นผู้ท้าชิง ช่วงนั้นได้รับเชิญให้ไปออกรายแต่ยังไม่สะดวก กระทั่งรายการมีชื่อเสียง เลยติดต่อกลับไปว่าสนใจ ทำให้ได้แข่งกับเชฟเอียน“

ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่กลายเป็นเชฟไก่ เชฟกระทะเหล็กประเทศไทยตั้งแต่บัดนั้น พร้อมทั้งเจ้าของรายการกลายมาเป็นหุ้นส่วนร้าน ดำเนินกิจการกระทั่งมีการเวนคืนที่ดิน ทำให้มี ซูเฟล่ แอนด์ มี ในซอยนราธิวาส 24 (ซอยวัดโพธิ์แมน) ในวันนี้

ถามว่าตัวจริงดุเท่าที่เห็นในรายการโทรทัศน์หรือไม่ เชฟไก่ตอบยิ้มๆว่า

“ปกติก็ธรรมดาค่ะ แต่พออยู่ในรายการเชฟต้องขึงขัง เพราะเป็นสังเวียนแห่งเกียรติยศ ไม่ใช่เกมโชว์ที่ได้เงินรางวัล คนที่ไปทำอาหารแข่งกันต้องมีท่าทีมุ่งมั่น ต้องเอาชนะคู่ต่อสู้ให้ได้ เป็นแอคติ้ง ชีวิตจริงเราปกติค่ะ

ถือว่าเป็นที่รู้จักมากขึ้นแต่เราใช้ชีวิตเหมือนเดิม”

เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ

“คนเราจะประสบความสำเร็จ จะต้อง มุ่งมั่น อดทน ระยะเวลาไม่ใช่เครื่องกำหนดว่าจะประสบความสำเร็จ ความสำเร็จของไก่ใช้เวลา 20 ปี

บนเส้นทางสายนี้นี้ผู้หญิงหรือผู้ชายมีโอกาสประสบความสำเร็จในอาชีพนี้เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและการเปิดรับความรู้ใหม่ๆมากแค่ไหน ตราบใดที่เราเรียนรู้ตลอดเวลา เราก็จะได้รับความรู้และสิ่งใหม่อยู่เสมอ” เชฟไก่บอกกับเรา

ความฝันวันนี้

ซูเฟล่ แอนด์ มี คือความฝันแสนโรแมนติก

“ด้วยความที่เราตั้งใจ คือ อยากมีร้านขนมที่โรแมนติกที่สุด นึกถึงบรรยากาศร้าน การตกแต่งร้าน แต่เราลืมนึกถึงตัวโปรดักท์ พยายามครีเอทเมนูต่างๆขึ้นมาเพื่อให้เป็นเมนูประจำร้าน สุดท้ายไก่มานึกได้ว่าขนมที่โรแมนติกที่สุดคือ ซูเฟล่

ซุเฟล่เป็นขนมที่ต้องทำต่อเมื่อมีออเดอร์ เป็นขนมที่ในกระบวนการทำต้องทะนุถนอม ใช้ความอ่อนโยน มีจังหวะที่ต้องคนอย่างหนักหน่วง บางจังหวะต้องนุ่มนวล อบออกมาแล้วต้องทานเลย เป็นขนมที่ต้องรอ 20 -25 นาที

คำว่าโรแมนติก จึงหมายถึงการให้เวลา เดี๋ยวนี้คนเรามีชีวิตที่เร็ว เวลาไปทานอาหารสั่งปุ๊บต้องได้กินทันที ไปถึงตู้ชี้เค้กได้กินเลย ทีนี่เราต้องเปลี่ยนความคุ้นเคยของการทาน เวลาที่เรามากินข้าวกับครอบครัว กับเพื่อน กับคนที่เรารัก เราควรได้ใช้เวลา การสั่งขนม นั่งรอ ได้กินร่วมกัน เป็นขนมที่เพิ่งอบออกมาจากเตา หอม อร่อย ไก่ว่ามันคือใช่ ลงตัวกับคอนเซ็ปต์”

เชฟไก่ กล่าวถึงที่มาของ ซูเฟล่ อาหารฝรั่งเศสที่มีลักษณะนุ่ม ฟู เบา ยามอบออกมาร้อนๆรับประทานแล้วเหมือนจะละลายในมาก สามารถนำมาปรุงเป็นของคาวและหวานได้ โดยให้รสสัมผัสที่หอมละมุน

ซูเฟล่ แอนด์ มี จึงเปรียบเสมือนกับอาหารที่บ่งบอกความเป็นตัวตนในแง่ของความชำนาญที่ต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝน ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่เชฟไก่อยากจะนำเสนอให้ผู้มาเยือนได้ลิ้มรสของเมนูคลาสสิกที่เป็นสุนทรียรสอันสุดแสนโรแมนติก

รักต้องการเวลา ความสำเร็จก็เช่นกัน

หมายเหตุ : ซูเฟล่ แอนด์ มี อยู่ในซอยนราธิวาส 24 จอดรถที่วัดโพธิ์แมน 0 2674 0442